xs
xsm
sm
md
lg

คัด SMEs หัวกะทิประจำจังหวัด เสริมแกร่งครบวงจร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์
4 หน่วยงานภาครัฐ-เอกชนรวมพลัง คัดสุดยอด SMEs ประจำจังหวัด ใน 3 กลุ่ม รวม 230 ราย เข้าโครงการยกระดับครบวงจร ตั้งแต่ความรู้และต่อยอดด้านการตลาด ก่อนพาโรดโชว์บุกต่างประเทศ

น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า 4 หน่วยงานหลักของประเทศทั้งภาครัฐและเอกชน ได้แก่ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้ร่วมกันจัดทำแผนบูรณาการสร้างความเข้มแข็งแก่ SMEs พร้อมขอความร่วมมือจากผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ เฟ้นหาสุดยอด SMEs ในแต่ละจังหวัด เพื่อนำมาพัฒนาศักยภาพทุกๆ ด้าน และส่งเสริมด้านการตลาด ก่อนพาโรดโชว์รุกตลาดต่างประเทศ

ทั้งนี้ การเฟ้นหาสุดยอด SMEs จังหวัด เป็นโครงการนำร่องในการส่งเสริม SMEs ของภาครัฐ โดยขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศคัดเลือกผู้ประกอบการ SMEs ที่เป็นที่สุดในแต่ละจังหวัด โดยแบ่งตามศักยภาพของธุรกิจ 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มเริ่มต้น หรือ Start up 0-3 ปี กลุ่มที่มีศักยภาพ หรือ Rising Star และกลุ่มที่อยู่ในช่วงปรับตัว หรือ Turn Around ซึ่งหลังจากการคัดเลือก ปรากฏว่ามีผู้ประกอบการ SMEs ที่ผ่านการคัดเลือก จำนวน 230 ราย แบ่งเป็นผู้ประกอบการที่อยู่ในภาคการผลิต ร้อยละ 65 (150 ราย) ภาคการค้าและบริการ ร้อยละ 18 (41 ราย) และภาคเกษตรอุตสาหกรรม ร้อยละ 17 (39 ราย) ซึ่งในจำนวนผู้ประกอบการทั้ง 230 รายนี้ มีความพร้อมที่จะเข้าสู่ตลาดต่างประเทศได้ทันที จำนวน 99 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 43

หลังจากนั้นจะส่งต่อให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า นำผู้ประกอบการฯ ที่ผ่านการคัดเลือก มาดำเนินการพัฒนาศักยภาพแบบเข้มข้นและเกิดความยั่งยืน ได้แก่ 1) การวิเคราะห์ตัวตนของผู้ประกอบการ/ธุรกิจ (การวิเคราะห์โครงสร้างอุตสาหกรรมและการตรวจเช็กศักยภาพตำแหน่งปัจจุบันของ SMEs) 2) การกำหนดและการสร้างโอกาสเข้าถึงกลุ่มลูกค้า (เข้าใจพฤติกรรมลูกค้า การสร้างเครื่องมือทางการตลาดใหม่ๆ) 3) การสื่อสารและสร้างกลยุทธ์การตลาด และ 4) ส่งเสริมการขายและขยายตลาด (ฝึกฝนทักษะในเรื่องคู่ค้า เทคนิคการนำเสนอ และการเจรจาต่อรองธุรกิจ)

อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากล่าวเพิ่มเติมว่า กรมฯ ได้แบ่งพื้นที่การเข้าพัฒนาศักยภาพแบบเข้มข้น ออกเป็นพื้นที่ 18 กลุ่มจังหวัด เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ SMEs 230 รายที่ผ่านการคัดเลือก โดยกรมฯ จะส่งเจ้าหน้าที่พร้อมทีมงานเข้าพื้นที่ของผู้ประกอบการเพื่อดำเนินการพัฒนาศักยภาพตามแผนงานที่ได้กำหนดไว้ พร้อมทั้งประสานความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาทั่วประเทศให้เข้ามาเป็นเครือข่าย และเป็นพี่เลี้ยงให้คำปรึกษาแนะนำแก่ผู้ประกอบการ

หลังจากนั้น กรมฯ จะร่วมมือกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยในการเจรจาจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ในตลาดทุกระดับ ทั้งในประเทศและต่างประเทศที่สอดคล้องกับศักยภาพของ SMEs แต่ละราย รวมทั้ง จะใช้หลักการขยายตลาดแบบคู่ขนาน คือ ใช้ช่องทางอี-คอมเมิร์ช ในการขยายตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่

น.ส.ผ่องพรรณระบุว่า ปัญหาหลักของ SMEs ไทย คือ การไม่มีตลาดระบายสินค้า หรือหาตลาดจำหน่ายสินค้าไม่ได้ ดังนั้น “การขยายตลาดแบบคู่ขนาน” จะเป็นการปิดช่องโหว่ปัญหาหลักด้านการระบายสินค้า ซึ่งเมื่อผู้ประกอบการ SMEs ได้รับการพัฒนาศักยภาพแบบเข้มข้น จนมีองค์ความรู้/ทักษะในการบริหารจัดการ และมีช่องทางในการเข้าถึงตลาดอย่างชัดเจน ก็จะทำให้ SMEs ของไทย มีขีดความสามารถในการรับมือได้ทุกสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงทั้งของเศรษฐกิจและผู้บริโภคเพิ่มขึ้น มีความเข้มแข็ง แข็งแรง มีการเติบโตอย่างสมดุลและยั่งยืน

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ 360 องศา” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *


กำลังโหลดความคิดเห็น