กสอ.ลุยปั้นคลัสเตอร์อุตสาหกรรมสนับสนุน ทุ่มงบ 37 ล้านบาทส่งเสริมผู้ประกอบการและบุคลากร นำร่องพัฒนา 2 คลัสเตอร์สำคัญ ได้แก่ ยานยนต์และชิ้นส่วน เครื่องมือแพทย์ ตั้งเป้ามีอุตสาหกรรมใหม่ๆ เข้าสู่อุตสาหกรรมสนับสนุนไม่น้อยกว่า 150 ราย มีมูลค่าลงทุนไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านบาท
ดร.สมชาย หาญหิรัญ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาลในการมุ่งขับเคลื่อนคลัสเตอร์ที่มีศักยภาพและมีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศในอนาคต (Super Cluster) ประกอบด้วย 1. คลัสเตอร์ยานยนต์และชิ้นส่วน 2. คลัสเตอร์เครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์โทรคมนาคม 3. คลัสเตอร์ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 4. คลัสเตอร์ดิจิตอล 5. คลัสเตอร์นวัตกรรมด้านอาหาร และ 6. คลัสเตอร์เครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ (Medical hub)
ปัจจุบันมีผู้ประกอบการ SMEs ในภาคอุตสาหกรรมสนับสนุนกว่า 400,000 ราย ส่วนใหญ่เป็นของคนไทย แต่พบว่ายังประสบปัญหาการกดดันด้านต้นทุนราคาเนื่องจากส่วนใหญ่เป็นชิ้นส่วนหรืออะไหล่ทดแทน ซึ่งเป็นผู้รับจ้างผลิตหรือผู้ผลิตแบรนด์สินค้าของตนเอง (OEM/REM) และจำเป็นต้องพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ นอกจากนี้ ยังไม่ได้ให้ความสำคัญต่อการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ มากนัก รวมถึงการบริหารจัดการทั้งในด้านการผลิต การตลาด ทักษะแรงงาน และเงินทุน ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมของ SMEs
ดร.สมชายกล่าวเพิ่มเติมว่า กสอ.ได้ดำเนินโครงการต่างๆ เพื่อเป็นส่วนเติมเต็มและแก้ปัญหาให้แก่ผู้ประกอบการ โดยในปี 2558 กสอ.ได้ดำเนินโครงการที่หลากหลายเพื่อพัฒนาสถานประกอบการและผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมสนับสนุน จำนวน 9 โครงการ ด้วยงบประมาณกว่า 23 ล้านบาท สามารถพัฒนาสถานประกอบการจำนวน 155 กิจการ และพัฒนาบุคลากรจำนวน 3,600 คน ประกอบด้วย 1. โครงการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีแห่งอนาคต 2. โครงการเพิ่มขีดความสามารถอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์และอะไหล่ทดแทน 3. โครงการให้คำปรึกษาแนะนำแก่ SMEs ด้วยระบบ Lean 4. โครงการให้คำปรึกษาแนะนำเชิงลึกด้านเทคโนโลยีและวิศวกรรมสู่ผู้ประกอบการและบุคลากรในภาคอุตสาหกรรม 5. โครงการพัฒนาบุคลากรภาคอุตสาหกรรมเพื่อเข้าสู่ AEC 6. โครงการพัฒนาเครื่องจักรและยกระดับเทคโนโลยีการผลิตของ SMEs 7. โครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีวิศวกรรมสู่ผู้ประกอบการและบุคลากรในภาคอุตสาหกรรม 8. โครงการพัฒนาบุคลากรในภาคอุตสาหกรรม และ 9. โครงการส่งเสริมและพัฒนาสถานประกอบการในอุตสาหกรรมการผลิตด้านกระบวนการจัดการ Logistics and Supply Chain ซึ่งผลการดำเนินโครงการดังกล่าวสามารถลดต้นทุนการผลิตได้ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท รวมถึงได้เครื่องต้นแบบเครื่องจักรจำนวน 14 เครื่อง โดยผู้ประกอบการสามารถนำไปพัฒนาต่อยอดเพื่อผลิตในเชิงพาณิชย์ได้อีกด้วย
นอกจากนี้ยังสามารถส่งเสริมผู้ประกอบการในการรวมกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์และสุขภาพได้อีก 1 กลุ่ม ตลอดจนส่งเสริมผู้ประกอบการในการหาช่องทางการตลาดใหม่ๆ ผ่านการจัดแสดงนิทรรศการเพื่อเผยแพร่ผลงาน การจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ อย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งรูปแบบการจัดนัดหมายการจับคู่เจรจาและการจับคู่ธุรกิจออนไลน์ภายใต้เว็บไซต์ J-GoodTech ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือระหว่างกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมกับองค์การเพื่อวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและนวัตกรรมภูมิภาคแห่งประเทศญี่ปุ่น (SMRJ)
ดังนั้น เพื่อให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ในปี 2559 กสอ.จะดำเนินการต่อยอดโครงการที่มีอยู่เดิมและดำเนินโครงการใหม่ ด้วยงบประมาณกว่า 37 ล้านบาท เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการและบุคลากรในภาคอุตสาหกรรมสนับสนุนอีกกว่า 300 กิจการ 1,100 คน อย่างครบวงจร ใน 4 โครงการ ได้แก่ 1. โครงการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีแห่งอนาคต 2. โครงการพัฒนาการรวมกลุ่มและเชื่อมโยงอุตสาหกรรม (Cluster) ชิ้นส่วนยานยนต์ 3. โครงการพัฒนาขีดความสามารถ OEM/REM และ 4. โครงการส่งเสริมการใช้โปรแกรม CAD/CAM/CAE ในสถานประกอบการ ในลักษณะการบูรณาการการทำงานแบบ 3 ประสาน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และมหาวิทยาลัย คาดว่าจากการดำเนินงานโครงการต่างๆ จะสามารถช่วยผู้ประกอบการให้มีศักยภาพเพิ่มขึ้นอย่างน้อยร้อยละ 15 และคาดว่าจะมีอุตสาหกรรมใหม่ๆ เข้าสู่อุตสาหกรรมสนับสนุนไม่น้อยกว่า 150 ราย หรือคิดเป็นมูลค่าการลงทุนไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านบาท
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *