xs
xsm
sm
md
lg

เต้นกระฉุย! ฮากระจาย! “บลูดราก้อน” คาบาเรต์โชว์ หนึ่งเดียวในกระบี่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พวกเธอเต้นอย่างมีความสุข และเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง เพราะนี่เป็นอาชีพที่เกิดจากความรักอย่างแท้จริง เมื่อได้รับโอกาสเป็นนักแสดง “คาบาเรต์โชว์” ภายใต้ชื่อทีม “บลูดราก้อน” (Blue Dragon) ซึ่งเป็นทีมแสดงลักษณะนี้หนึ่งเดียวของ จ.กระบี่

สำหรับใครหลายคนแล้ว สิ่งที่ต้องการที่สุดคือโอกาสได้ประกอบอาชีพในสิ่งที่รักและเหมาะกับตัวเองจริงๆ แต่สำหรับกลุ่มสาวประเภทสองแล้ว ประตูดังกล่าวไม่ใช่จะได้รับการเปิดง่ายๆ กระทั่งได้รับการหยิบยื่นโอกาสจากนักธุรกิจสาวใหญ่ อย่าง “ฐายิกา ลวัณธัญธร” หรือที่ทีมงานทุกคนเรียกกันว่า “เจ๊พัช”
ฐายิกา ลวัณธัญธร เจ้าของคณะ“บูลดราก้อน”
เธอเล่าแรงบันดาลใจในการสร้างทีมแสดงคาบาเรต์โชว์ “บลูดราก้อน” ว่า เกิดจากเพื่อนของลูกน้องคนหนึ่งเป็นสาวประเภทสอง มีความฝันอยากเป็นนักแสดงคาบาเรต์โชว์มาก แต่เนื่องจากใน จ.กระบี่ไม่มีคณะการแสดงคาบาเรต์โชว์เลย หากอยากประกอบอาชีพนี้ก็จำเป็นต้องย้ายจากบ้านไปทำงานที่เมืองพัทยา หรือภูเก็ตแทน

ฉะนั้น เพื่อจะสานฝันให้บรรดาน้องๆ สาวประเภทสองเหล่านี้ เจ๊พัชจึงตัดสินใจลงทุนทำคณะแสดงคาบาเรต์โชว์ สาวประเภทสองรายแรก และยังเป็นรายเดียวใน จ.กระบี่ นับถึงปัจจุบัน
แสดงอยู่ที่ชั้น 3 ของ “เซ็นเตอร์ พอร์ต อ่าวนาง” จ.กระบี่
“เมื่อเราได้คุยกับน้องๆ เหล่านี้ ทำให้รู้ว่าโอกาสในการประกอบอาชีพของสาวประเภทสองมีข้อจำกัดพอสมควร เพราะในกระบี่ไม่มีการแสดงคาบาเรต์โชว์มาก่อน เลยไม่รู้จะไปทำอาชีพนี้ได้ที่ไหน จะมีรับแสดงบ้างคือตามงานวัดต่างๆ เท่านั้น ซึ่งรายได้ก็น้อยมากไม่พอเลี้ยงชีพ หรือถ้าจะให้พวกน้องเหล่านี้ไปประกอบอาชีพอื่นๆ พวกเธอก็ไม่ถนัด และหลายอาชีพก็ยังไม่ยอมรับสาวประเภทสอง”

“พอน้องๆ เข้ามาปรึกษา เจ๊เลยตัดสินใจจะช่วยลงทุนให้ เพราะนอกจากจะได้ช่วยให้น้องๆ ได้ทำงานที่พวกเธอรักแล้ว ยังเชื่อว่าโอกาสทางธุรกิจยังมีอยู่ เพราะกระบี่เป็นเมืองท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาเยือน และยังไม่เคยมีคาบาเรต์โชว์มาก่อน” เจ๊พัชเล่า
นักแสดงถ่ายภาพร่วมกับนักท่องเที่ยว
คณะคาบาเรต์โชว์ “บลูดราก้อน” เริ่มเปิดการแสดงเมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว ลงทุนเบื้องต้นประมาณ 5 ล้านบาท เช่าพื้นที่ชั้น 3 ของ “เซ็นเตอร์ พอร์ต อ่าวนาง” ปรับปรุงเป็นโรงละครสำหรับการแสดง รวมถึงตัดเย็บชุดเสื้อผ้าการแสดงต่างๆ

ส่วนเรื่องรูปแบบการแสดงต่างๆ นั้น เธอบอกว่าน้องๆ จะช่วยกันคิดและสร้างสรรค์ขึ้นเอง เน้นการเต้นประกอบเพลง และร้องลิปซิงก์ ด้วยท่วงท่าลีลาสวยงาม สนุกสนาน และสอดแทรกอารมณ์ขันตลอดเวลา แต่ไม่อนาจาร ประกอบกับเครื่องแต่งกายสวยงาม เวอร์วังอลังการ

เปิดการแสดงวันละ 3 รอบ รอบละ 1 ชั่วโมง รอบแรก 20.00-21.00 น. รอบสอง 21.30-22.30 น. และรอบสาม 23.00-24.00 น. ค่าบัตรเข้าชม 500 บาทต่อคนต่อรอบ โดยบัตรหนึ่งใบนำมาแลกเครื่องดื่มได้ 1 ครั้ง
รับงานโชว์นอกสถานที่
ฐายิกาบอกว่า จุดเด่นของการแสดงของ “บลูดราก้อน” อยู่ที่ความใกล้ชิดของนักแสดงกับคนดู เนื่องจากทำการแสดงในโรงละครขนาดค่อนข้างเล็ก ความจุสูงสุดเพียง 200 ที่นั่ง ทำให้คนดูสามารถสัมผัสการแสดงและเห็นนักแสดงได้อย่างใกล้ชิด จากเวทีกับที่นั่งแถวแรกห่างกันแค่ประมาณ 1-2 เมตรเท่านั้น

ในด้านบริหารทีมงานนักแสดงที่มีประมาณ 20 คนนั้น เธออธิบายให้ฟังว่า ทำในรูปแบบบริษัทถูกต้องตามกฎหมาย ให้ทุกคนเป็นพนักงาน กินเงินเดือนประจำ เพื่อจะได้รับสิทธิสวัสดิการพื้นฐานตามกฎหมาย อย่างประกันสังคม อย่างน้อยให้เป็นหลักประกันชีวิตแก่ทุกคน นอกจากนั้น แต่ละคนจะมีรายได้เสริมจากค่าทิปของนักท่องเที่ยว ซึ่งทีมงานแสดงและเบื้องหลังไปบริหารจัดการกันเอง โดยตัวเธอที่เป็นเจ้าของธุรกิจจะไม่ไปเอารายได้ส่วนนี้เลย
ขอบคุณภาพจากเว็บไซต์ lovekrabi.com
นอกจากนั้น มีกติกาที่ถือเป็นกฎเหล็กประจำคณะ “บลูดราก้อน” คือ ห้ามพนักงานทุกคน “ขายบริการแฝง” แก่ลูกค้านักท่องเที่ยว เพื่อต้องการสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ไม่ใช่เฉพาะแค่ในส่วนของคณะบลูดราก้อนเองเท่านั้น แต่หมายรวมไปถึงการท่องเที่ยวกระบี่ด้วย

“ที่นี่เราอยู่กันแบบครอบครัว เจ๊มาทำตรงนี้ เพราะอยากจะช่วยให้น้องๆ ได้ทำอาชีพที่ตัวเองรัก และมีหลักประกันในชีวิตดีระดับหนึ่ง ดังนั้น เราจะตกลงกันว่าเราเป็นนักแสดง เราจะไม่ทำเรื่องเสื่อมเสีย เพราะเนื่องจากเราเป็นคณะคาบาเรต์โชว์รายเดียวในกระบี่ ถ้ามีเรื่องเสียชื่อเสียง ไม่ใช่เฉพาะคณะเราที่จะเสีย จังหวัดก็จะเสียไปด้วย ซึ่งที่ผ่านมายังไม่เคยมีกรณีปัญหานี้เกิดขึ้นเลย เพราะน้องๆ ทุกคนที่มาทำงานเขาอยากทำอาชีพนี้จริงๆ” เจ๊พัชเล่า
ขอบคุณภาพจากเว็บไซต์ lovekrabi.com
ทั้งนี้ กลุ่มลูกค้าที่เข้าชมการแสดงนั้น เธอเผยว่าส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวจากจีน เกาหลี และยุโรป ซึ่งการประชาสัมพันธ์ ในทุกๆ วัน ตั้งแต่ช่วงเย็นๆ และระหว่างพักการแสดงแต่ละรอบ นักแสดงทุกคนจะเดินแจกใบปลิวบริเวณหน้าโรงละครเพื่อเชิญชวนให้เข้าซื้อตั๋วดูโชว์ ซึ่งอัตราคนเข้าชมแต่ละรอบจะแตกต่างกันไป มากบ้าง น้อยบ้าง ขึ้นอยู่กับหน้าฤดูกาลท่องเที่ยว บางรอบอาจจะถึงหลักร้อยคน บางรอบแค่สิบกว่าคน แต่แม้ว่าผู้ชมจะมากน้อยเพียงใด ผู้ชมแค่คนเดียวก็ยังเปิดการแสดงตามปกติ เพราะถือว่าเป็นความรับผิดชอบในฐานะนักแสดงมืออาชีพ

เจ้าของคณะบอกด้วยว่า โดยเฉลี่ยรายได้ประมาณ 7 แสนบาทต่อเดือน ส่วนค่าใช้จ่ายหลักในการทำธุรกิจนี้ คือ ค่าแรงพนักงาน ค่าอุปกรณ์โดยเฉพาะเสื้อผ้าที่จะต้องเปลี่ยนใหม่เรื่อยๆ ตามการแสดงพิเศษๆ ที่จะปรับใหม่ตลอดเวลา รวมถึงค่าตกแต่งฉากและค่าเช่าสถานที่ ซึ่งในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวมีคนเข้าชมการแสดงน้อย ก็จะพยายามหารายได้เสริมด้วยการพาทีมงานไปรับแสดงโชว์งานต่างๆ เช่น งานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ งานจัดเลี้ยงต่างๆ คิดค่าแสดง 25,000 บาท ประกอบด้วยการแสดง 5 ชุด เป็นต้น

สำหรับแผนต่อไปในอนาคต กำลังติดต่อกับบริษัททัวร์ต่างๆ กว่า 100 แห่งใน จ.กระบี่ เพื่อให้กำหนดการเข้าชมคาบาเรต์โชว์ “บลูดราก้อน” เป็นหนึ่งในโปรแกรมทัวร์ ซึ่งจะทำให้มีฐานจำนวนผู้ชมแต่ละรอบค่อนข้างแน่นอน ช่วยในการบริหารการเงินได้ชัดเจน

และในอนาคต หากมีทุนมากขึ้นอยากจะสร้างโรงละครที่ออกแบบเพื่อการแสดงโดยเฉพาะ ซึ่งจะช่วยให้การแสดงมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น และที่สำคัญ ช่วยทำให้อาชีพนักแสดงโชว์คาบาเรต์ของสาวประเภทสองเป็นอาชีพที่มีความมั่นคงสำหรับน้องๆ ทีมงานด้วย

คำกล่าวในตอนท้ายของเจ๊พัช สะท้อนถึงจิตใจที่ทำธุรกิจนี้ ไม่ใช่หวังให้ตัวเองร่ำรวยมากยิ่งขึ้น หากแต่ต้องการสร้างโอกาสให้แก่ทีมงาน โดยเฉพาะกลุ่มสาวประเภทสองได้ประกอบอาชีพที่ตัวเองรักอย่างมั่นคง

ติดต่อ 08-1535-2666, 08-1894-2976, 0-7562-3788

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *


กำลังโหลดความคิดเห็น