ไม่เคยมีความรู้ใดๆ เกี่ยวกับเรื่องทำอู่ซ่อมสีรถยนต์มาก่อนเลย แถมยังเป็นผู้หญิงตัวคนเดียววัยใกล้แตะเลขห้า แต่ด้วยใจมุ่งมั่น และพร้อมเปิดตัวเองเป็น “แก้วเปล่า” พร้อมรับน้ำมาเติมเต็มเสมอ ผลักดันให้สาวแกร่งอย่าง “ฐายิกา ลวัณธัญธร” สร้างธุรกิจศูนย์ซ่อมสีรถยนต์ “ดราก้อน ออโต้เพ้นท์” ก้าวสู่หัวแถว จ.กระบี่ ทั้งด้านคุณภาพ และบริการระดับยอดเยี่ยม ในเวลาแค่ 5 ปี
ฐายิกาเล่าว่า เคยทำธุรกิจมาหลากหลาย ทั้งเลี้ยงกุ้ง สวนปาล์ม ร้านอาหาร ร้านเสริมสวย จิวเวลรี ฯลฯ โดยส่วนตัว เป็นคนชอบการทำธุรกิจ กล้าได้กล้าเสีย ไม่กลัวขาดทุน โดยที่ผ่านมา มักล้มเหลวมากกว่าสำเร็จ เพราะยังไม่เจอธุรกิจที่เหมาะกับตัวเอง มีแต่ความอยากจะทำธุรกิจแต่ขาดความรอบคอบ และที่สำคัญใช้วิธีลงเงินแล้วจ้างคนอื่นทำแทน สุดท้ายก็ไปไม่รอด
กระทั่งเมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้วเกิดแรงบันดาลใจอยากจะทำอู่ซ่อมสีรถ เพราะมักได้ยินเสียงตำหนิของผู้ใช้บริการอู่ต่างๆ ใน จ.กระบี่ว่าคุณภาพไม่ดี ประกอบกับครอบครัวเคยทำอาชีพนี้แต่เลิกไปนานแล้ว เหตุผลเพราะ “ไปไม่รอด” เหลืออาคารกับพื้นที่ว่างเปล่า เลยตัดสินใจเข้ามาลุยทำธุรกิจศูนย์ซ่อมสีรถเต็มตัว ท่ามกลางเสียงคัดค้านของคนรอบตัว
“ดิฉันเริ่มธุรกิจโดยไม่มีความพร้อมสักอย่าง ไม่มีอุปกรณ์ ไม่มีบุคลากร เริ่มตัวคนเดียว ไม่มีความรู้เรื่องทำอู่ซ่อมสีรถเลย ทั้งครอบครัว เพื่อนๆ ไม่มีใครสนับสนุนให้ทำ เพราะเป็นงานหนัก และยาก” สาวใต้อารมณ์ดีกล่าวนำ
ถึงจะไม่มีพื้นฐานใดๆ มาก่อน แต่ด้วยใจมุ่งมั่นเกินร้อย เธอเข้าเกียร์ลุย ลงมือทำเองทุกขั้นตอน เบื้องต้นขอความรู้ด้านเทคนิคและการบริหารจากเจ้าของอู่ซ่อมสีรถรายเก่าแก่ประจำ จ.กระบี่ ซึ่งได้รับความกรุณาอย่างดียิ่ง ทว่า ความรู้ที่ได้มาเป็นวิธีทำงานแบบเก่าๆ เถ้าแก่ต้องลงมือทำเองทุกขั้นตอน ดังนั้นเธอจึงไปเข้าคอร์สอบรมของบริษัทสีรถยนต์ใหญ่ หาความรู้เสริม นำมาประยุกต์เพื่อสร้างอู่ในฝันตามแบบของตัวเอง
สิ่งแรกที่ “ดราก้อน ออโต้เพ้นท์” ปรับโฉมให้แตกต่างจากอู่แหล่งอื่นๆ ในท้องถิ่น คือ ความสะอาด และบริการ โดยพลิกจากภาพคุ้นชินถึงความสกปรกและเหม็นกลิ่นสี มาเป็นอู่ที่สะอาดและพนักงานเอาใส่ใจ บริการอย่างมืออาชีพ
“เนื่องจากดิฉันเป็นผู้หญิง เลยให้ความสำคัญเรื่องความสะอาดกับบริการก่อนเลย เพราะเราเคยเป็นลูกค้า อะไรที่ไม่ชอบก็พยายามปรับปรุงไม่ให้เกิดขึ้น ส่วนช่างก็คัดฝีมือดีให้สวัสดิการสูงจูงใจให้มาอยู่กับเรา ส่วนงานซ่อมจะแบ่งเป็นแผนกๆ ไม่ใช้ช่างคนเดียวเหมาทำทุกหน้าที่ แต่จะแบ่งตามความสามารถ เพื่อคุมคุณภาพได้ดียิ่งขึ้น”
“นอกจากนั้น อู่อื่นๆ มักใช้เกรด “สี” ตามราคาที่ลูกค้ายอมจ่าย เช่น คนสู้ราคา จ่ายเงินสดก็จะใช้สีเกรด A แต่รายที่ขอส่วนลดก็จะใช้สีเกรด B หรือ C ให้แทน แต่ดิฉันใช้สีเกรด A ให้ลูกค้าทุกราย เพราะเราเป็นคนหน้าใหญ่ ยอมขาดทุนแต่ไม่ยอมขายหน้า (หัวเราะ) รถทุกคันก่อนส่งให้ลูกค้าต้องผ่าน QC ว่าดีที่สุด” เจ้าของธุรกิจเผย
อู่แห่งนี้เปิดบริการ พ.ศ. 2554 เงินลงทุนเบื้องต้นกว่า 5 ล้านบาท (ไม่รวมค่าอาคารและที่ดิน) วิธีหาตลาดระยะแรก ฐายิกาบอกว่า ทำแบบบ้านๆ พิมพ์ใบปลิวไปเสียบตามหน้ารถที่จอดตามห้างสรรพสินค้า อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นหน้าใหม่ โนเนมในวงการ แถมเจ้าของยังเป็นผู้หญิงไร้ประสบการณ์ ขวบปีแรกลูกค้าและบริษัทประกันแทบไม่เหลียวมอง ทว่า ด้วยคุณภาพจัดเต็ม เมื่อมีลูกค้าลองใช้บริการแล้วเกิดความพอใจ ช่วยไปบอกต่อ ส่งให้ธุรกิจเติบโตขึ้นโดยลำดับ
“ช่วงแรกบริษัทประกันไม่มองเราเลย จนเริ่มมีลูกค้าที่ใช้บริการแล้วติดใจ กลับไปบอกบริษัทประกันว่า ถ้าไม่มีอู่ดราก้อนฯ จะไม่ยอมทำประกันด้วย ทำให้บริษัทประกันเข้ามาติดต่อเราเยอะมาก นับถึงวันนี้มากกว่า 15 บริษัท ส่วนยอดรถเข้าใช้บริการ จากปีแรกเฉลี่ยแค่ 10 คันต่อเดือน ทุกวันนี้กว่า 100-120 คันต่อเดือน มาจากบริษัทประกัน 80-90% ที่เหลือมาด้วยตัวเอง โดยในความเป็นจริงยังมีลูกค้าต้องการใช้บริการมากกว่านี้ แต่เรามีศักยภาพรองรับได้จำกัด” สาวแกร่งอารมณ์ดีกล่าว
ด้วยการเปิดกว้างทางความคิด ไม่ปิดตัวเอง รับความรู้ใหม่ตลอดเวลาที่ผ่านมา “ดราก้อน ออโต้เพ้นท์” เสริมมาตรฐานสูงขึ้นเรื่อยๆ เช่น ร่วมโครงการโครแมกซ์ (Cromax) ได้การันตีศูนย์ซ่อมสีระดับพรีเมียมครบวงจร ตลอดจนนำเทคโนโลยีเครื่อง Acquire ll สามารถเทียบค้นหาสีได้กว่า 500,000 เฉดสี และได้รับเครื่องหมาย HQBS (High Quality Body Shop) รับรองศูนย์บริการซ่อมสีและตัวถังคุณภาพสูงแห่งเดียวในกระบี่ นอกจากนั้น ยังใส่ใจสภาพแวดล้อม สถานที่ปราศจากกลิ่น สังเกตได้จากห้องผสมสีที่จัดว่าสะอาดที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย รวมถึงนำระบบไอทีมาช่วยบริการ พร้อมเปิดสายรับคำติชมจากลูกค้า เป็นต้น
“สมองเราว่าง ไม่เคยมีความรู้ในธุรกิจนี้มาก่อน ถ้ามีอะไรที่ดี ทั้งคำแนะนำจากลูกค้า บริษัทประกัน ทุกอย่างเราเก็บมาพัฒนาและเติมเต็มตลอด ถึงวันนี้ก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองเก่งแล้ว กลับคิดว่าอยากพัฒนาทำให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ให้ครบวงจรมากที่สุด” เธอระบุ
ปัจจุบันใน จ.กระบี่มีศูนย์ซ่อมสีรถประมาณ 20 แห่ง เทียบด้านมาตรฐานและจำนวนลูกค้าแล้ว “ดราก้อน ออโต้เพ้นท์” นับเป็นอันดับหนึ่ง ส่วนคู่แข่งนั้นเธอชี้ไปที่ศูนย์บริการของค่ายรถยนต์ต่างๆ ซึ่งได้เปรียบเรื่องแบรนด์ ดังนั้น กลยุทธ์การตลาด พยายามสร้างอีกทางเลือกแก่ลูกค้าที่จะรับบริการคุณภาพไม่แพ้กัน แต่ค่าบริการต่ำกว่าประมาณ 20% รวมถึงรับประกันคุณภาพนานถึง 4 ปี ในขณะที่แห่งอื่นๆ 2-3 ปี
แผนธุรกิจต่อไป กำลังขยายสถานที่เพิ่มจาก 3 ไร่ เป็น 5 ไร่ และเสริมตู้อบใหม่ โดยจะใช้บริการเงินกู้สถาบันการเงิน วงเงินประมาณ 15 ล้านบาท และให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ทำหน้าที่ช่วยค้ำประกัน ช่วยให้สามารถขอสินเชื่อได้ ตั้งเป้าจะเพิ่มรับลูกค้าได้เป็นกว่า 200 คันต่อเดือน และรายได้เพิ่มประมาณ 20% จากปัจจุบันเฉลี่ยเดือนละ 1.6 ล้านบาท
เมื่อถามแนวโน้มธุรกิจศูนย์ซ่อมสีรถใน จ.กระบี่ เธอมั่นใจจะเติบโตได้อีกมาก เพราะกระบี่เป็นเมืองท่องเที่ยว เศรษฐกิจดี และรถเป็นอีกปัจจัยสำคัญในชีวิตประจำวันของทุกคนไปแล้ว ด้วยมาตรฐานและฝีมือของ “ดราก้อน ออโต้เพ้นท์” เชื่อว่าจะสร้างความพอใจให้แก่ลูกค้าได้ทั้งกลุ่มทำสีรถเพื่อซ่อมแซม และกลุ่มทำสีเพื่อแต่งรถ สวยงาม
“เมื่อก่อนคนกระบี่เวลาจะทำสีรถต้องขับไปภูเก็ต เพราะหาอู่ดีๆ ไม่ได้ แต่ตอนนี้กลับกัน คนภูเก็ตต้องขับรถมาที่อู่เราแทน เพราะเชื่อใจคุณภาพมากกว่า ทุกวันนี้ลูกค้าฉลาด จะศึกษาหาข้อมูลก่อนตัดสินใจใช้บริการที่ใด ดังนั้น เราต้องสร้างคุณภาพที่ลูกค้าพึงพอใจ ดิฉันเป็นคนบ้าคำชม(หัวเราะ) ลูกค้าที่ใช้บริการแล้วชมว่าทำสีรถได้ดีจริงๆ ดิฉันจะปลื้มมาก เพราะคำชมของลูกค้ามันเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จมากกว่ากำไรตัวเงินด้วยซ้ำ” ฐายิกาตบท้ายอย่างอารมณ์ดีตามสไตล์
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *