เซเว่นฯ เล็งหาสินค้าประเภทเกษตร ทั้งผลไม้สด และผักสด จากกลุ่มผู้ผลิตรายย่อยทั้งวิสาหกิจชุมชน โอทอป และเอสเอ็มอี เข้าขายในร้าน รองรับเทรนด์สุขภาพของคนเมือง ตั้งเป้าดันยอดขายเพิ่ม 25% ระบุปัจจุบันยอดขายสินค้าเอสเอ็มอีในร้านกว่า 6.6 พันล้านบาทต่อปี
นายสุวิทย์ กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทซีพี ออลล์ ผู้บริหารร้านอิ่มสะดวก 'เซเว่น อีเลฟเว่น' (7-11) เปิดเผยว่า ปัจจุบันคนเมืองนิยมบริโภคอาหารสุขภาพ โดยเฉพาะกลุ่มผักและผลไม้สด ดังนั้น ทางร้านเซเว่นฯ พยายามนำสินค้าเกษตรของผู้ประกอบการชุมชน โอทอป และเอสเอ็มอีทั่วประเทศมาวางขายในร้านเซเว่นฯ สาขาในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในทำเลหลักย่านธุรกิจ สถานศึกษา จับกลุ่มเป้าหมายคนทำงาน นักศึกษา และลูกค้าทั่วไป
“จากแนวโน้มดังกล่าว เซเว่นฯ ได้วางแผนขยายการทำตลาดร่วมกับคู่ค้าธุรกิจผู้ประกอบการรายย่อย ทั้งวิสาหกิจชุมชน โอทอป และเอสเอ็มอี ในกลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพมากขึ้น จากปัจจุบันมีสินค้าในกลุ่มดังกล่าว ทั้งอาหารและเครื่องดื่ม เข้ามาวางจำหน่ายในเซเว่นฯ อยู่แล้วจำนวนหนึ่ง เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภค”
นายสุวิทย์กล่าวต่อว่า ปัจจุบันในร้านเซเว่นฯ มีกลุ่มสินค้าประเภทผลไม้ อย่างกล้วยหอมทอง ข้าวโพดหวาน มะเขือเทศเชอร์รี รวมทั้งกลุ่มผักสลัด ที่วางขายแล้วได้รับการตอบรับดีจากผู้บริโภคที่นิยมอาหารเพื่อสุขภาพอย่างยิ่ง ขณะที่ในส่วนผลิตภัณฑ์ผักสดบางรายการนั้นอยู่ระหว่างพิจารณา เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงในการบริหารจัดการสินค้าซึ่งอยู่ในอัตรา 50%
เขาเผยด้วยว่า สินค้าเกษตรต่างๆ ที่จะเข้าในร้านเซเว่นฯ ได้นั้นต้องมีมาตรฐานสูง โดยเฉพาะความสะอาดปลอดภัยในการปลูกระดับส่งออก และมีความพร้อมด้านการปลูกให้ได้ผลผลิตจำนวนมากเพียงพอที่จะกระจายเข้าสู่ร้านสาขาต่างๆ ของเซเว่นฯ โดยผู้ประกอบการรายย่อยที่สนใจส่งสินค้าเข้าร้านสามารถติดต่อได้เลย
ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีคู่ค้าธุรกิจในกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจำนวนกว่า 900 รายการ หรือคิดเป็น 1/3 ของสินค้าทั้งหมดที่วางจำหน่ายในร้านสาขาเซเว่นฯ ที่มีอยู่กว่า8,600 แห่งทั่วประเทศ และมีสินค้ากว่า 5,000 รายการเข้าไปทำตลาดในทเวนตี้โฟร์ ชอปปิ้ง ที่มีช่องทางขายผ่านนิตยสารเซเว่นแค็ตตาล็อก ร้านสาขาศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ และอีคอมเมิร์ซ เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภครุ่นใหม่
ทั้งนี้ วางเป้าหมายธุรกิจกลุ่มสินค้าเอสเอ็มอีจะต้องมีอัตราการเติบโตยอดขายต่อเนื่อง25% ต่อปี พร้อมแผนขยายสัดส่วนสินค้าเอสเอ็มอีใหม่ๆ เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าที่ตอบโจทย์ เทรนด์ความต้องการลูกค้า ซึ่งเป็นไปได้ทั้งรูปแบบให้คู่ค้านำเสนอสินค้าเข้ามายังบริษัท และทีมงานจากบริษัทเข้าไปหาผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจและมีโอกาสทางธุรกิจ โดยในปัจจุบันบริษัทมียอดขายจากสินค้าเอสเอ็มอีมูลค่า 6,657 ล้านบาทต่อปี
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *