กสอ. ต้อนรับอธิบดีคนใหม่ “ดร.สมชาย หาญหิรัญ” แถลงนโยบายเร่งด่วนหลายโครงการ สนองนโยบายรัฐ ดันเอสเอ็มอีวาระแห่งชาติ เผยปี 59 รับงบประมาณกว่า 1,400 ล้านบาท ตั้งเป้าพัฒนาสถานประกอบการ 5,000 กิจการ ผู้ประกอบการกว่า 10,000 ราย ชี้เอสเอ็มอีไทย ยุคใหม่ต้องเป็น “อินเทลเลเจนท์ เอสเอ็มอี”
ดร.สมชาย หาญหิรัญ. อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยหลังการเข้ารับตำแหน่ง ว่า ในส่วนของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ได้รับมอบหมายเป็นหน่วยงานหลักในการดูแลส่งเสริมผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยงบประมาณ 2559 ได้รับงบประมาณ 2559 มีจำนวน 1,400 ล้านบาท ตั้งเป้าที่จะช่วยเหลือผู้ประกอบการมากกว่า 10,000 ราย และช่วยเหลือสถานประกอบการมากกว่า 5,000 ราย
โดยงบประมาณที่ได้รับจะนำมาใช้กับโครงการต่างๆ เป็นนโยบายเร่งด่วน ประกอบด้วย การสร้างความพร้อมเอสเอ็มอี โดยให้สอดคล้องกับการตลาดและนวัตกรรม โดยมุ่งไปที่สาขา แฟชั่น ไลฟ์สไตล์ อาหาร และการเชื่อมโยงภาคการเกษตร รวมถึงการสร้างผู้ประกอบการใหม่ให้เข้าถึง ด้านนวัตกรรมดิจิตอล
นอกจากนี้ มีแผนที่จะเร่งให้SME เข้าถึงมาตรการต่างของรัฐ โดยร่วมกับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME BAnk) ผ่านโครงการต่างในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนเร็วขึ้น โดยมีแผนที่จะทำ MOU กับธนาคารพาณิชย์ทั่วประเทศ และมอบหมายให้ศูนย์ส่งเสริมฯทั่วประเทศ หารือกับธนาคารในการทำความเข้าใจช่วยเหลือเอสเอ็มอีทั่วประเทศ และนโยบายเร่งด่วนอีกประการหนึ่ง คือ ขยายความร่วมมือกับต่างประเทศ โดยกสอ. ได้ร่วมกับจังหวัดต่างๆในญี่ปุ่น รวมถึง ในต้นปีหน้า มีแผนที่จะร่าง MOUกับฮ่องกง และ ปีหน้า ยังมีแผน เร่งเปิด BSC 11ศูนย์ภาค เพื่อเป็นศูนย์รับบริการ เอสเอ็มอี
ทั้งนี้ จากการที่รัฐบาลประกาศนโยบายให้เอสเอ็มอีเป็นวาระแห่งชาติ กรมฯในฐานะหน่วยงานหลัก ในการส่งเสริมเอสเอ็มอี ได้มีการกำหนดคุณลักษณะอุตสาหกรรมไทย และเอสเอ็มอี ว่าต้องมีคุณลักษณะ อินเทลลิเจนท์ เอสเอ็มอี (SMEs – Intelligent SMEs ) สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจ SME ในยุคใหม่ในศตวรรษที่ 21 ซึ่งความเป็นอินเทลลิเจนท์ ครั้งนี้ จะประกอบด้วย 4 องค์ประกอบ ได้แก่ ไอซัพพลายเชน ความชาญฉลาดในการบริหารจัดการ แบบห่วงโซ่อุปทาน ได้แก่ กระบวนการผลิต การจัดการวัตถุดิบ การสั่งซื้อ โลจิสติกส์ ซึ่งห่วงโซ่อุปทานนี้ มีส่วนช่วยในการยกระดับความสามารถของผู้ประกอบการ ไอโปรดักส์ การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ทั้งในประเทศและระดับสากล
และไอโพรเซส สามารถวางแผนและบริหารจัดการกระบวนการผลิต ได้อย่างชาญฉลาด เพื่อศักยภาพการผลิตที่สมบูรณ์ที่สุด สามารถลดต้นทุนในทุกๆ ด้าน ไอเน็ตเวิร์ค การสร้างเครือข่ายธุรกิจ ซึ่ง กสอ.มีโครงการพัฒนาการรวมกลุ่มและเชื่อมโยงอุตสาหกรรม (Cluster) รองรับการรวมกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันได้ และ ไอเอ็นเทอร์พอลเนอร์ (Enterpreneur) การสร้างนักรบสายพันธุ์ใหม่ ให้มีความเข้าใจในการเป็นผู้ประกอบการ และสามารถแข่งขันได้ในเวทีโลก
อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวต่อว่า สำหรับสถานการณ์ เอสเอ็มอี ในช่วง 6 เดือนแรก ปี 2558 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน พบว่า เอสเอ็มอีไทยสามารถส่งออกไปยังประเทศคู่ค้าสำคัญ 3 ประเทศ ได้แก่ จีน ส่งออกเพิ่มร้อยละ 17.5 สหรัฐอเมริกา เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.0 ส่วนประเทศญี่ปุ่น สัดส่วนการส่งออกลดลงเล็กน้อย ส่วนสถานการณ์ เอสเอ็มอี ในช่วงครึ่งปีหลัง คาดการณ์ว่า น่าจะปรับตัวได้ดีขึ้น เพราะค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *