xs
xsm
sm
md
lg

‘SNOW FLAKES’ รองเท้าผ้าใบเพื่อสุขภาพ ไอเดียสูง ราคาต่ำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

รองเท้าผ้าใบเพื่อสุขภาพ  ‘SNOW FLAKES’
วิกฤตเศรษฐกิจเมื่อปี พ.ศ.2540 กลายเป็นแรงผลักดันให้ผู้ประกอบการผลิตรองเท้าผ้าใบแบรนด์เก่าแก่ ต้องเร่งพัฒนาสินค้าของตัวเองใหม่ให้มีเอกลักษณ์โดนใจลูกค้ามากยิ่งขึ้น กลายเป็นจุดเด่น ก้าวสู่รองเท้าผ้าใบแฟชั่นที่มี “นวัตกรรม” ต่างๆ หลากหลาย ตอบความต้องการของผู้ใช้โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพ แต่ขายในราคาประหยัด ซื้อง่ายขายคล่อง ช่วยให้ธุรกิจยืนหยัดอยู่ได้ แม้เศรษฐกิจจะซบเซา
ทิพย์วรรณ เตชะวีรภัทร
ทิพย์วรรณ เตชะวีรภัทร บริษัท เดอะโคลเวอร์ จำกัด เล่าให้ฟังว่า ธุรกิจรองเท้าผ้าใบ บุกเบิกโดย “นิมิต เตชะวีรภัทร” ซึ่งเป็นคุณพ่อของสามี ตั้งแต่เมื่อกว่า 50 ปีที่แล้ว ในชื่อตรา ‘SNOW FLAKES’ หรือ “ดอกหิมะ” สินค้าดังในเวลานั้น คือ รองเท้าผ้าใบสีดำมีส้น หรือที่เรียกกันติดปากว่า “รองเท้าจีนแดง” ซึ่งขายดีมากทางภาคใต้
พื้นยางรองเท้า ทำจากยางพารา
อย่างไรก็ตาม หลังวิกฤตเศรษฐกิจเมื่อปี พ.ศ.2540 ยอดขายลดลงอย่างมาก เพราะคนส่วนใหญ่ไม่กล้าจับจ่าย อีกทั้ง มีสินค้ารองเท้าแฟชั่นจากจีนเริ่มเข้ามาแข่งขัน ทำให้เวลานั้น สามี (ชลัฐ เตชะวีรภัทร) ซึ่งเริ่มเข้ามาช่วยสานต่อกิจการครอบครัว พยายามพัฒนารองเท้าผ้าใบ ด้านดีไซน์ทันสมัยมากยิ่งขึ้น โดยหันมาเน้นตลาดผู้หญิง พร้อมกับนำนวัตกรรมต่างๆ มาใส่แก่รองเท้า
มีหลายสี ภายนอกดูเรียบๆ แต่มีนวัตกรรมเพื่อสุขภาพ
“สามีกับดิฉัน พยายามเข้าร่วมโครงการอบรมความรู้ต่างๆ ที่ภาครัฐสนับสนุนผู้ประกอบการธุรกิจระดับเอสเอ็มอี โดยเฉพาะเกี่ยวกับธุรกิจรองเท้าหลายโครงการ จนได้ความรู้ต่างๆ มาพัฒนารองเท้า โดยเฉพาะการทำเป็น “รองเท้าแฟชั่นเพื่อสุขภาพ” เทคนิคสำคัญในส่วนพื้นรองเท้าของเรา ส่วนส้นรองเท้าข้างในจะมีแผ่นยางรองพื้นทำมุม 45องศา เข้ากับสรีระรูปเท้าได้พอดี ช่วยให้เดินสบาย ดีต่อสุขภาพ อีกทั้ง รอบๆ ยังปุด้วยฟองน้ำ ช่วยให้ใส่แล้วนุ่มสบาย ส่วนภายในตรงหัวรองเท้า ติดแผ่นยางไว้ ป้องกันเจ็บ และช่วยลดกลิ่นเหม็นอับ” ทิพย์วรรณ เล่าถึงการออกแบบให้เป็นรองเท้าผ้าเพื่อสุขภาพ
ออกแบบให้เข้ากับสรีระรูปเท้า
นอกจากนั้น ยังพัฒนาให้สินค้าใช้วัสดุเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการริเริ่มนวัตกรรม “พื้นยางรองเท้าจากยางพารา” ซึ่งมีทั้งแบบที่ทำจากยางพารา 100% และแบบยางพาราผสมเศษผ้า โดยพื้นรองเท้าดังกล่าว คุณสมบัติยืดหยุ่นสูง เพิ่มการทรงตัวได้ขึ้นดีทั้งการเดินและวิ่ง สามารถป้องกันการลื่นได้ดีกว่าเมื่อเทียบกับพื้นรองเท้าที่ผลิตจากวัสดุสังเคราะห์อื่นๆ เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ หรือสตรีตั้งท้อง นอกจากนั้น ยางดังกล่าว อายุการใช้งานยาวนาน ที่สำคัญ ช่วยลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ และเพิ่มค่าให้แก่สินค้าแปรรูปการเกษตรด้วย
รองเท้าสำหรับบุรุษ
แม้ว่า จะมีนวัตกรรมต่างๆ ดังกล่าวแล้ว ราคารองเท้าผ้าใบของ‘SNOW FLAKES’ กลับย่อมเยา อยู่ที่ประมาณคู่ละ 200-500 บาท (แล้วแต่รุ่นและแบบ) เพราะต้องการให้เป็นสินค้าแฟชั่นที่ซื้อง่ายขายคล่อง ลูกค้าตัดสินใจใช้จ่ายได้ไม่ยาก
ออกแบรนด์รองเท้าใหม่ “GEMIO” ซึ่งมีความพิเศษ เรื่องของการใช้วัสดุมาทำรองเท้า เน้นวัสดุที่สวยงาม และหายากต่างๆ
“จากที่เราปรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักมาเป็นผู้หญิง เราเลยวางตำแหน่งสินค้าให้เป็นรองเท้าแฟชั่นที่ซื้อได้ง่ายๆ และซื้อได้บ่อยครั้ง สามารถแข่งกับรองเท้าราคาถูกจากจีนได้ เพราะลูกค้าจะรู้สึกว่า รองเท้าเราราคาไม่ได้สูงกว่าของจีน แต่คุณภาพดีกว่ามาก ซึ่งจุดเด่นของโรงงานคุณพ่อ คือ ผลิตรองเท้าได้เองทุกขั้นตอน ทำให้ต้นทุนต่ำกว่าการไปจ้างผลิต เลยสามารถขายปลีกได้ในราคาไม่สูงนัก” เธอ กล่าวเสริม

ผลของการปรับทั้งดีไซน์ รวมถึง ใส่ฟังค์ชั่นให้เป็นรองเท้าผ้าใบเพื่อสุขภาพนั้น ทิพย์วรรณบอกว่า ช่วยให้รองเท้าขายดีขึ้นตามลำดับ จนประมาณพ.ศ.2545 หรือประมาณ 4 ปีหลังจากพัฒนารองเท้าให้ทันสมัยยิ่งขึ้น ยอดขายสูงกว่าก่อนปี พ.ศ.2540 เสียอีก

ไม่เท่านั้น เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว ยังได้ออกแบรนด์รองเท้าใหม่ “GEMIO” ซึ่งมีความพิเศษ เรื่องของการใช้วัสดุมาทำรองเท้า เน้นวัสดุที่สวยงาม และหายากต่างๆ เช่น ผ้าไทยชนิดต่างๆ หนังสัตว์ และปักเลื่อม เป็นต้น เพื่อจะขยายกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ และเพิ่มมูลค่าสินค้า ราคาขายเฉลี่ยคู่ละ 1,000-2,000 บาท (แล้วแต่วัสดุ)
พื้นยางพาราผสมเศษผ้า
ในด้านการทำตลาดนั้น เธอเล่าให้ฟังว่า มีทั้งรับจ้างผลิตตามออเดอร์ ขายผ่านออนไลน์ และช่องทางขายสำคัญที่สุด คือ เน้นออกงานแสดงสินค้าต่างๆ เช่น งาน “สุดยอด SMEs ของดีทั่วไทย” ณ ตลาดคลองผดุง กรุงเกษม ข้างทำเนียบรัฐบาล เมื่อช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา จัดโดยธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) งานโอทอปประจำปี และงาน BIG+BIH เป็นต้น ซึ่งข้อดีของช่องทางดังกล่าว ทำให้ได้พบลูกค้าโดยตรง นำคำชมและเสียงตำหนิของลูกค้ามาปรับปรุงได้ทันที และที่สำคัญเป็นการขายเงินสด ช่วยให้มีทุนเข้ามาหมุนเวียนธุรกิจได้คล่องกว่าไปฝากวางขาย
แบรนด์ “GEMIO”
ส่วนด้านการผลิตนั้น จะเน้นผลิตสินค้าครั้งละปริมาณไม่มาก เฉลี่ยแบบประมาณ 20 โหล พยายามให้พอดีๆต่อการขายได้หมดเกลี้ยง ป้องกันปัญหาสินค้าค้างสต๊อก ซึ่งจะทำให้กลายเป็นต้นทุนจม
แบรนด์‘SNOW FLAKES’
“เราพยายามทำธุรกิจแบบประมาณตัวเอง ไม่ลงทุนมากจนเกินตัว แม้ว่าตลาดรองเท้าจะมีแบรนด์ใหญ่ๆ อยู่จำนวนมาก แต่เราก็พยายามทำให้รองเท้าของตัวเองมีจุดเด่นเฉพาะตัว ด้วยเอกลักษณ์เป็นรองเท้าแฟชั่นสุขภาพ และขายราคาไม่สูง เพื่อเป็นอีกทางเลือกแก่ลูกค้า” เธอระบุ

โทร.08-1555-7196 หรือ www.snow-flakes.com , www.thegemio.com , FB: snowflakesshoes ,FB: gemioshoes , ID Line:chalattt

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *


กำลังโหลดความคิดเห็น