ห้องพักสุดหรู บรรยากาศแสนเงียบสงบ อยากใช้เวลาอยู่นานๆ นี่เป็นสิ่งที่ผู้เข้าพักรีสอร์ต “วิลล่า วิลล่า พัทยา” (Villa Villa Pattaya) สัมผัสได้ทันทีเมื่อมาถึง ความรู้สึกดังกล่าวไม่ได้เป็นเพียงการสร้างความโดดเด่นให้แก่รีสอร์ตเท่านั้น ทว่า เบื้องหลังคือ แผนธุรกิจใช้รีสอร์ตเป็นสะพานเชื่อมหนุนธุรกิจหลักโครงการอสังหาริมทรัพย์ นับเป็นโมเดลการตลาดอันแยบคาย และน่าสนใจ
“ผมและภรรยามาลงทุนซื้อที่ดินในโซนพัทยาตะวันออก ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 มูลค่าประมาณ 80 ล้านบาท บุกเบิกทำธุรกิจโครงการบ้านจัดสรร ชื่อ “ภูธารา” วางตำแหน่งเป็นบ้านระดับบน ราคาหลังละ 20-40 ล้านบาท ซึ่งหลังจากเปิดขายโครงการมาสักพัก ผมเห็นว่า โครงการบ้านจัดสรรทุกแห่ง จะชู “คลับเฮาส์”เป็นจุดขาย ทว่า ในความจริง หลังผ่านเวลาไปสักพัก คลับเฮาส์จะเสื่อมโทรม บางแห่งกลายเป็นร้าง เพราะขาดการดูแลอย่างใกล้ชิด ทำให้ผมเกิดแนวคิด จะแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่ง มาทำ “รีสอร์ต” เพื่อให้โครงการบ้านจัดสรรมีชีวิตชีวาตลอดเวลา” ดร.ณัฏฐพัฒน์ ธีรนันทวาณิช เจ้าของธุรกิจ เกริ่นนำถึงโมเดลธุรกิจใช้รีสอร์ต เพิ่มมูลค่าให้แก่โครงการบ้านจัดสรร
เขาเล่าต่อว่า วิธีเชื่อมโยงธุรกิจทั้งสองเข้าหากัน เน้นสถาปัตยกรรม ทั้งส่วนบ้านจัดสรร และบ้านพักในรีสอร์ต ล้อไปในทิศทางเดียวกันสไตล์ “ไทยโมเดิร์น” ทั้งหมดสร้างสรรค์โดยภรรยา (จุฑามาศ ด้วงสโมสร) ซึ่งเป็นนักออกแบบมืออาชีพ
และด้วยทำเลที่ตั้งรีสอร์ตอยู่ในใจกลางเมืองพัทยา ไม่ได้ติดทั้งภูเขาหรือทะเล สิ่งที่จะจูงใจให้ลูกค้าอยากเข้าพัก มุ่งความสำคัญด้านความสวยงามของสถานที่ และห้องพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน เช่น สระว่ายน้ำส่วนตัว สระน้ำระบบเกลือ และบรรยากาศเงียบสงบ เหมือนรีสอร์ตแถบหัวหิน หรือภาคใต้ เมื่อเข้ามาในห้องพักแล้ว อยากอยู่ให้นานที่สุด ไม่ต้องออกไปเที่ยวข้างนอก เหมาะสำหรับ “คู่รัก” หรือ “เพื่อนสนิท” ที่อยากพักผ่อนเต็มที และได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันในห้อง
และเป้าหมายสุดท้าย คือ กระตุ้นให้คนที่เข้าพักรีสอร์ต ไม่ว่าชาวไทยและชาวต่างประเทศ เกิดแรงจูงใจอยากจะอยู่อาศัยที่นี่เสียเลย ด้วยการตัดสินใจซื้อบ้านในโครงการ
“ห้องพักในพัทยา ส่วนใหญ่เน้นราคาถูก ซึ่งตลาดนี้มีคู่แข่งแย่งเค้กกันอยู่เยอะแล้ว ผมเลยไม่อยากจะเข้าไปแย่ง เลยต้องสร้างตลาดใหม่ ด้วยการเป็นรีสอร์ตหรูที่แม้จะอยู่ในเมือง แต่เมื่อเข้าห้องพักแล้ว จะไม่รู้สึกเหมือนอยู่พัทยาเลย บรรยากาศเหมือนไปพักหัวหิน หรือภูเก็ต จากการสำรวจตลาด เราได้ไอเดียว่า ห้องที่สวยและราคาสูง จะทำให้คนพักอยากจะใช้เวลาอยู่ในห้องนานๆ เพื่อความคุ้มค่า ไม่ต้องออกไปเที่ยวข้างนอกก็ได้ และหวังว่า เขาจะประทับใจจนอยากมีบ้านพักตากอากาศไว้อยู่ประจำ ซึ่งโมเดลการตลาดแบบนี้ เราไม่มีคู่แข่งโดยตรงเลย” ดร.ณัฏฐพัฒน์ ระบุ
ก่อนจะทำธุรกิจรีสอร์ต เขาและภรรยาตระเวนไปพักตามรีสอร์ตและโรงแรมต่างๆ ทั่วประเทศ กว่า 100 แห่ง เพื่อสำรวจตลาด และดูจุดอ่อนจุดแข็งของแต่ละแห่ง นำมาพัฒนารีสอร์ตของตัวเอง ปัจจุบัน “วิลล่า วิลล่า พัทยา” มีห้องพัก ทั้งหมด 29 ห้อง แต่ละห้องมีดีไซน์ไม่ซ้ำกันเลย ขนาดห้องเฉลี่ย 40 ตรม. โดย 14 ห้องมีสระว่ายน้ำส่วนตัว นอกจากนั้น มีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น สระว่ายน้ำส่วนกลาง ห้องสปา และห้องประชุม เป็นต้น ทั้งรีสอร์ตรองรับแขกเข้าพักได้สูงสุดประมาณ 60 คน ราคาเริ่มต้นที่ 2,000 บาท ถึงสูงสุด 13,500 บาทต่อคืน
สำหรับรีสอร์ตแห่งนี้ มีเนื้อที่รวมประมาณ 4 ไร่ ใช้เงินลงทุนกว่า 200 ล้านบาท อยู่ในพื้นที่ส่วนหนึ่งของโครงการบ้านจัดสรร “ภูธารา” ซึ่งมีเนื้อที่รวมกว่า 80 ไร่ มูลค่าทั้งโครงการกว่า 1,500 ล้านบาท โดยแยกงานบริหารเป็น2 บริษัท ออกจากกันอย่างชัดเจน
“วิลล่า วิลล่า พัทยา” เปิดบริการมาแล้วประมาณ 3 ปีแล้ว อัตราเฉลี่ยลูกค้าเข้าพัก ประมาณ 30% ถ้าคิดในแง่ผลประกอบการเฉพาะของตัวรีสอร์ตล้วนๆ ดร.ณัฏฐพัฒน์ ยอมรับว่า ไม่คุ้มค่า เพราะการทำรีสอร์ตที่มีจำนวนห้องน้อย ต้องแบกค่าใช้จ่าย ทั้งค่าพนักงานและค่าบำรุงรักษาต่างๆ สูงเทียบเท่ากับรีสอร์ตที่มีห้องพักจำนวนมาก ในขณะที่การสร้างรายได้กลับน้อยกว่า
อย่างไรก็ตาม ถ้ามองในแง่จุดประสงค์ที่ต้องการให้รีสอร์ตเป็นตัวเสริมธุรกิจหลักโครงการบ้านจัดสรร ถือว่าได้ผลดีไม่น้อย เพราะมีลูกค้าที่พักรีสอร์ตสนใจเข้าไปดูโครงการบ้านจัดสรรเสมอ และหลายรายอยู่ในขั้นตอนตัดสินใจ รวมถึง สามารถรองรับการพักค้างคืนของลูกค้าชาวไทย และต่างชาติ ที่มาเยี่ยมชมโครงการบ้านจัดสรรได้ด้วย และที่สำคัญ สร้างชื่อให้คนทั่วไปได้รู้จักมากยิ่งขึ้น
“แม้ว่าตอนนี้ เศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่ผลกระทบด้านการเงิน ส่วนใหญ่เกิดกับคนระดับล่างและกลาง ส่วนคนตลาดบน เขายังมีศักยภาพ กำลังซื้อไม่ได้ตก เพียงแต่ไม่กล้าจับจ่าย ดังนั้น หากเรามีสินค้าที่ตอบความต้องการของคนกลุ่มนี้ได้ตรง ผมเชื่อว่า ทิศทางธุรกิจรีสอร์ต และอสังหาริมทรัพย์ในเมืองพัทยา ยังสามารถไปได้อีก” ดร.ณัฏฐพัฒน์ กล่าว
นักธุรกิจหนุ่ม มองด้วยว่า การเติบโตของธุรกิจรีสอร์ต และอสังหาริมทรัพย์ในเมืองพัทยา สอดคล้องตามการเข้ามาของลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ เสมอ จากเดิมที่แจ้งเกิดด้วยลูกค้าชาวอเมริกา ยุโรป ตามด้วยรัสเซีย จนปัจจุบัน ขยายไปสู่ชาวจีนและเอเชีย
“พัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยว ที่ดินไม่เคยราคาตก และผมเชื่อว่า มันจะขึ้นไปอีก ซึ่งปัจจุบัน ตลาดคนจีนที่มาเที่ยวและมาอยู่พัทยาขยายตัวสูง ทำให้ผมมองว่าตลาดลูกค้าจีนยังพอไปได้ แม้ว่าช่วงนี้ เศรษฐกิจอาจจะชะลอตัว แต่สำหรับธุรกิจทั่วไป ผมว่ามันอาจจะเป็นช่วงเวลาที่ให้เรากลับมา ทบทวนปรับความแข็งแกร่งภายในองค์กร และรอจนมันกลับมาดีอีกครั้ง ซึ่งประเด็นสำคัญ ผมมองว่า คุณต้องรู้ตัวเองว่า ธุรกิจคุณอยู่ช่วงเวลาไหน ควรจะนิ่ง หรือควรไปต่อ และถ้าจะนิ่ง เราต้องดูว่า ฮึดพอที่จะรอจังหวะให้กลับมาดีขึ้นไหวหรือไม่” เขา ระบุ
ติดต่อ โทร.(66)38-224-507 ถึง 9 หรือ www.villavillapattaya.com
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *
