กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมเผยเอสเอ็มอีไทยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศผ่านโซเชียลมีเดีย เพิ่มศักยภาพทางการตลาด ขานรับนโยบายเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันด้วยไอที พร้อมมอบประกาศนียบัตรผู้ประกอบการผ่านการถ่ายทอดองค์ความรู้ 150 กิจการ หลังพบยอดกดไลก์เพิ่ม 100% สร้างยอดขายกว่า 100 ล้านบาท
นายอาทิตย์ วุฒิคะโร ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานมอบประกาศนียบัตรแก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่เข้าร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านไอทีว่า ปัจจุบันผู้ประกอบการจะมองข้ามไม่ได้กับการให้ความสำคัญด้านเทคโนโลยี โดยเฉพาะโซเชียลมีเดีย เครื่องมือที่จะช่วยเพิ่มช่องทางการตลาดได้ ซึ่งกิจกรรม “ส่งเสริม SMEs ใช้ Social Media เพื่อเพิ่มศักยภาพทางการตลาด” ภายใต้โครงการ “ดิจิตอลเอสเอ็มอี (Digital SMEs)” ก็เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่เน้นการส่งเสริมและพัฒนาเอสเอ็มอีให้ใช้ไอทีเพิ่มผลิตภาพ และศักยภาพทางการตลาด
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวทางกรมฯ ได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในการจัดการถ่ายทอดองค์ความรู้ และปรึกษาแนะนำเชิงลึกแก่เอสเอ็มอีในปี 2558 โดยเน้นการใช้เฟซบุ๊ก (Facebook) เป็นเครื่องมือทางการตลาด สำหรับโมเดลการถ่ายทอดองค์ความรู้ และปรึกษาแนะนำเชิงลึกจำนวน 6 ครั้ง ซึ่งจะมีวิทยากรให้คำปรึกษาแนะนำตลอดการดำเนินงาน โดยที่ผ่านมามีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ผ่านการอบรมไปแล้วทั้งสิ้น 4 รุ่น จำนวน 150 กิจการ ส่งผลมียอดกดไลก์เพิ่มขึ้นมากกว่า 100% จากฐานเดิม และจากการประเมินผล พบว่ามียอดขายโดยรวมจากการขายสินค้าผ่านเฟซบุ๊กมากกว่า 100 ล้านบาท
“ปัจจุบันผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยให้ความสำคัญในเรื่องไอทีกันมากขึ้น โดยเชื่อว่ายังมีเอสเอ็มอีส่วนน้อยที่ไม่ได้นำมาปรับใช้กับธุรกิจ ซึ่งการอบรมในครั้งนี้ทางกรมฯ ได้คัดเลือกผู้ประกอบการที่ใช้เครื่องมือนี้อยู่เดิม มีพื้นฐานการใช้โซเชียลมีเดีย แต่ต้องการหาความรู้ เทคนิคเพิ่มเติมเพื่อการใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งถือเป็นเรื่องดีที่ผู้ประกอบการให้ความสำคัญ ซึ่งเชื่อว่าต่อไปไอซีทีจะเติบโตอย่างรวดเร็วโดยที่เราคาดไม่ถึง ดังนั้นผู้ประกอบการควรต้องเกาะติดเทรนด์นี้ แต่ควรเพิ่มเติมเรื่องความคิดสร้างสรรค์และการบริหารจัดการเข้าไปด้วยเพื่อธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน” ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าว
อย่างไรก็ตาม โครงการ “ดิจิตอลเอสเอ็มอี (Digital SMEs) ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ให้ผู้ประกอบการได้ต่อยอดองค์ความรู้เพื่อพัฒนาธุรกิจ เช่น การพัฒนาและส่งเสริมเอสเอ็มอี ใช้ระบบไอทีช่วยบริหารซัปพลายเชนเพื่อเพิ่มผลิตภาพ, การพัฒนาและให้บริการระบบซอฟต์แวร์ ERP by DIP สำหรับ SMEs ไทย โดยเป็นซอฟต์แวร์ ERP บนคลาวด์คอมพิวติ้งที่เหมาะสมกับกลุ่ม SMEs ขนาดเล็ก เป็นต้น โดยคาดว่าผลการดำเนินงานโครงการดิจิตอลเอสเอ็ม ปี 2558 จะสามารถช่วยให้เอสเอ็มอีมีผลิตภาพและประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น ประหยัดต้นทุนจากการนำระบบไอทีมาใช้งาน มีรายได้เพิ่มขึ้น และอื่นๆ ไม่น้อยกว่า 120 ล้านบาท
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SME ผู้จัดการออนไลน์” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *
