“เรือนแก้ว อีซี่คุ๊กกิ้ง” เป็นร้านอาหารแนวใหม่ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้แสดงฝีมือการทำอาหารด้วยตัวเอง โดยทางร้านได้เตรียมวัตถุดิบ เครื่องปรุงสำเร็จรูป พร้อมเตา กระทะ และหม้อ เพื่อคนที่ชื่นชอบการทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนนอกบ้าน
“กุสันต์ เรือนแก้ว” เจ้าของร้าน เรือนแก้วอีซี่ คุ๊กกิ้ง เล่าว่า จุดเริ่มต้นของการเปิดร้านอาหารเรือนแก้ว อีซี่คุ๊กกิ้ง เกิดมาจากความทรงจำในวัยเด็ก สมัยเรียนลูกเสือ ที่ไปเข้าค่าย และต้องทำอาหารกินกันเอง ซึ่งเมื่อเปิดร้านอาหารก็อยากจะได้ร้านที่กลุ่มเพื่อนได้มาสังสรรค์ และได้ทำกิจกรรมร่วมกัน โดยการทำอาหารกินกันเอง แบบไม่ต้องคอยกังวลว่า ใครจะมาคอยล้างชาม หรือเตรียมวัตถุดิบให้ เพราะทางร้านเตรียมทุกอย่างไว้แล้ว และที่สำคัญคนที่ปรุงอาหารไม่เป็นก็สามารถทำอาหารได้
ทั้งนี้ การให้บริการจะคิดเป็นรายหัว หัวละ 199 บาท และ 249 บาท (สำหรับเมนูเนื้อโคขุน) ซึ่งในส่วนของเตา ถ้ามา 3 คนจะได้ 1 เตา ถ้ามา 4 คนจะได้ 2 เตา และมา 7-9 คน ได้ 3 เตา แต่ถ้าต้องการจะเพิ่มเตาจะต้องจ่ายเตาละ 30 บาท ส่วนอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำอาหารมีให้เลือก 2 แบบ หรือกระทะ และหม้อ ลูกค้าชอบแบบไหนสามารถเลือกได้ ในราคาเท่ากัน
สำหรับในส่วนของวัตถุดิบที่ทางร้านเตรียมไว้ให้ หลักคือ ซอสผัด มี 2 แบบ คือ ซอสกะเพรา และซอสผัดทั่วไป น้ำจิ้มมีให้เลือก 2 แบบเช่นกัน คือ น้ำจิ้มสุกี้ และน้ำจิ้มซีฟูด ส่วนวัตถุดิบทางร้านเตรียมไว้ ประกอบด้วย เนื้อสัตว์ เช่น ไก่ หมู เนื้อ เลือกใช้เนื้อโคขุน ปลาหมึก กุ้ง ซึ่งเนื้อสัตว์ทางร้านจะทำการหมักมาให้เรียบร้อย เพื่อที่จะได้นำมาปรุงอาหารได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องเติมเครื่องปรุงมากนักก็อร่อยได้ ส่วนผักที่ทางร้านเลือกมาเสิร์ฟ เช่น ผักกาด ขึ้นฉ่าย ผักบุ้ง เห็ดเข็มทอง และเห็ดออรินจิ เป็นต้น ส่วนเมนูข้าว จะมีข้าวเปล่า ข้าวผัดกระเทียม วุ้นเส้น และเส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
และเมื่อเร็วๆ นี้ทางร้านยังได้เพิ่มเมนูขนม เลือกเป็นขนมแพนเค้ก ซึ่งยังคงจุดขายที่ให้ลูกค้าได้แสดงฝีมือการทำขนมเอง โดยมีเตา กระทะ และแป้งแพนเค้ก ให้ลูกค้าได้ออกแบบและวาดลวดลายกันอย่างเต็มที ในราคาชุดละ 99 บาท
“ส่วนผสมทั้งหมดที่ทางร้านเตรียมไว้ให้ ลูกค้าสามารถเลือกได้ทุกชนิด และไม่จำกัดเวลาในการรับประทาน เพราะบางครั้งการจำกัดเวลาทำให้ลูกค้าไม่มีความสุขในการกิน เพราะเราเชื่อว่าการที่ลูกค้าออกมากินอาหารนอกบ้านก็คงอยากจะมีความสุขในการกิน ถ้าเราไปจำกัดเวลาเขาก็จะไม่มีความสุขและคอยกังวลว่าจะหมดเวลาหรือยัง”
สำหรับกลุ่มลูกค้าของร้านเรือนแก้ว คุณกุสันบอกว่า ส่วนใหญ่ร้านของเราจะได้กลุ่มลูกค้าวัยรุ่น เด็กมัธยม นักศึกษา และกลุ่มคนทำงาน มากันเป็นกลุ่ม และมาสนุก หรือ มาทำกิจกรรมร่วมกัน โดยที่เขาไม่ต้องหาเตรียมวัตถุดิบ หรืออุปกรณ์เอง และที่สำคัญ อยากกินแบบไหน รสชาติอะไร ปรุงกันได้เต็มที่ในแบบของตัวเอง เพราะบางครั้งการที่เราปรุงอาหารตามแบบที่คนอื่นปรุงมาอาจจะไม่โดนใจเรา แต่พอได้ปรุงเองก็จะได้แบบที่ตัวเองต้องการมากขึ้น
ปัจจุบัน ร้านเรือนแก้ว อีซี่คุ๊กกิ้ง ถือว่า ได้รับการตอบรับค่อนข้างเร็วมาก เพราะสามารถขยายสาขาได้ถึง 2 สาขา คือ ที่เมืองทองธานี และย่านงามวงศ์วาน (เปิดอยู่ในซอยวัดบัวขวัญ) โดยร้านเมืองทองธานีเปิดมาได้ประมาณ 6 เดือน ส่วนร้านที่งามวงศ์วานเปิดมาได้ประมาณ 2 เดือน ตั้งเป้าไว้ว่าร้านที่งามวงศ์วานน่าจะใช้ระยะเวลาการคืนทุนประมาณ 1 ปี แต่ในส่วนร้านที่เมืองทองนั้นคืนทุนแล้วระยะเวลา 6 เดือน
กุสันต์ เล่าว่า การฉีกรูปแบบการให้บริการแบบหมูกระทะ โดยการเพิ่มเมนูผัดขึ้นมาและเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้แสดงฝีมือ หลายคนมองว่าง่าย แต่ในความเป็นจริง กว่าจะมาถึงวันนี้ และเปิดสาขา 2 ได้ด้วยทุนของตนเองนั้นเป็นเรื่องที่ยากลำบากพอสมควร เพราะลูกค้าก็ยังไม่ค่อยเข้าใจการให้บริการของร้านว่าต้องทำอะไรได้บ้าง และทำออกมาจะอร่อยไหม ในครั้งแรกใช้การอธิบาย และการทำประชาสัมพันธ์ แนะนำร้าน หลังจากนั้นคนเห็นป้ายก็ทดลองเข้ามาชิม และเกิดการบอกกันแบบปากต่อปาก และการบอกกันผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก ลูกค้าก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้ง 2 สาขา
สำหรับ กุสันต์ เจ้าของร้านนั้น ทำร้านเรือนแก้วเป็นอาชีพเสริมจากงานประจำ ในอาชีพวิศวกร โดยใช้เวลาเลิกงานประจำมาดูแลร้านได้ เพราะส่วนการบริหารร้านจะใช้การจัดระบบ และวางตัวคนทำงานไว้ทั้งหมด ทุกอย่างขับเคลื่อนไปได้เอง โดยไม่จำเป็นที่เราจะต้องเข้าไปดูแลตลอดเวลา
ส่วนแผนการลงทุน ก็จะใช้การต่อยอด โดยการนำกำไรที่ได้จากสาขาแรกมาใช้เป็นเงินทุนในการขยายสาขาที่ 2 ต่อไป ซึ่งจะไม่ใช้การกู้ยืมมาลงทุนก่อน เพราะการกู้ยืมทำให้ขาดวินัยการใช้เงิน และที่สำคัญต้องมีค่าใช้จ่ายที่เป็นดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ส่งผลต่อการทำธุรกิจในอนาคต
ส่วนแผนการขยายสาขา ในอนาคตตั้งใจจะมีสาขาเพิ่มของตัวเองอีกสัก 4-5 สาขา แต่คงต้องรอเก็บเกี่ยวรายได้จากร้านที่เปิดอยู่ และนำมาขยายในสาขาต่อไป อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา มีคนสนใจถามถึงแฟรนไชส์ค่อนข้างมาก ตอนนี้อยู่ในช่วงของการจัดระบบ และการทำให้ร้านที่เปิดอยู่มั่นคง และเป็นแบบอย่างให้คนที่ต้องการลงทุนเหมือนกับเราเชื่อใจได้ว่าถ้าเขาซื้อแฟรนไชส์จากเรา แล้วเขาจะประสบความสำเร็จ
สนใจโทร. 08-6783-8970, 0-2953-5533
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *