xs
xsm
sm
md
lg

ฝึก “มวยไทย” ริมเจ้าพระยา เต็มอิ่มวัฒนธรรม บรรยากาศสุดเริ่ด (ชมคลิป)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“มวยไทย แล็บ” อยู่ที่ ชั้น 3 ในโครงการคอมมูนิตี้มอลล์ “ท่ามหาราช”
ด้วยทำเลที่ตั้งสวยงามอยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา และใกล้แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมสำคัญหลายแห่ง ควบคู่กับความนิยมศิลปะ “มวยไทย” ในหมู่ชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จุดประกายให้ผู้ประกอบการหน้าใหม่ “จุติพร สุขศรีวงศ์” กล้าบุกเบิกธุรกิจศูนย์เรียนรู้มวยไทยครบวงจร ภายใต้บรรยากาศแสนงดงาม ในชื่อ “มวยไทย แล็บ” (Muay Thai Lab)


จุติพร สุขศรีวงศ์  เจ้าของธุรกิจ
“จุดเริ่มต้น เกิดจากตัดสินใจเช่าพื้นที่ ชั้น 3 ในโครงการคอมมูนิตี้มอลล์ “ท่ามหาราช” เพราะเห็นว่าเป็นทำเลดีมาก ทั้งสวยงาม และจากการสำรวจข้อมูล พบว่ามีจำนวนนักท่องเที่ยวหมุนเวียนในย่านนี้ โดยเฉพาะวัดพระแก้ว เฉลี่ยเดือนละกว่า 400,000 คน เฉพาะขึ้นลงเรือที่ท่ามหาราช วันละกว่า 3,300 คน ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวดังกล่าว ทำให้เราเห็นว่า ทำเลนี้มีศักยภาพมากๆ” จุติพร เผย และเล่าต่อว่า
ฝึกมวยไทย บรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยา

โจทย์ต่อมา คือ หาธุรกิจที่เหมาะสมมาดำเนินการในทำเลแห่งนี้

กีฬามวยไทยกับผู้หญิงดูค่อนข้างห่างไกลกันมาก รวมถึง เธอยังเรียนจบปริญญาตรีด้านภาษาอังกฤษ และปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจ ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีความรู้เรื่องมวยไทยมาก่อนเลย แต่เหตุที่เลือกจะทำศูนย์มวยไทยครบวงจร เพราะเห็นว่า มวยไทยเป็นที่รู้จักและนิยมของคนทั่วโลก แม้ในช่วงเกิดการชุมชนทางการเมือง ภายในสนามมวย “ราชดำเนิน” นักท่องเที่ยวยังเข้าชมติดริมขอบเวทีเต็มทุกที่นั่ง


นอกจากนั้น เห็นช่องว่างที่ศูนย์ฝึกมวยไทยต่างๆ ทุกแห่งเวลานี้ล้วนเน้นฝึกอย่างจริงจัง และเข้มข้น ผู้เรียนต้องกินนอนอยู่ที่ค่ายนานหลายเดือน รวมถึง ด้านสถานที่ ยังขาดสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานต่างๆ ทำให้คนทั่วไปที่สนใจมวยไทยยากจะเข้าถึงบริการ ดังนั้น เกิดไอเดียทำศูนย์มวยไทยรูปแบบใหม่ มีบริการครบวงจรภายใต้บรรยากาศติดแม่น้ำเจ้าพระยา เหมาะแก่ “ผู้เริ่มต้น” เข้ามาสัมผัสศิลปะการต่อสู้ประจำชาติไทย หรือใช้เป็นกิจกรรมเพื่อออกกำลังกาย
โซนนิทรรศการ

“ความแตกต่างระหว่าง “มวยไทย แล็บ” กับศูนย์ฝึกมวยทั่วไป ข้อแรก โปรแกรมการฝึกของเรา จะออกแบบโดยนักวิทยาศาสตร์การกีฬากับครูมวย ช่วยกันคิดโปรแกรมที่ไม่หนักเกินไปเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น และก่อนเข้ารับการฝึก จะตรวจร่างกายก่อนเพื่อความปลอดภัยของลูกค้า ส่วนการฝึกมีตั้งแต่สอนไหว้ครู ชกลม และล่อเป้า ข้อต่อมา คือ สถานที่ของเรา สะอาด สวยงาม เรากล้าบอกว่า เป็นศูนย์ฝึกมวยไทยเจ้าแรก ซึ่งมีสถานที่และอุปกรณ์ระดับมาตรฐาน อยู่ในทัศนียภาพริมแม่น้ำเจ้าพระยา” เจ้าของธุรกิจ อธิบาย
ตรวจร่างกายก่อนเข้าฝึก

ส่วนครูฝึก คัดอดีตนักมวยไทยที่มีประสบการณ์การสอนมวยไทยในต่างแดน สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ และมีกฎเหล็ก ครูฝึกทุกคนต้องมีกิริยาสุภาพ มีความรับผิดชอบ และห้ามติดต่อกับลูกค้าเป็นการส่วนตัว เพื่อป้องกันปัญหาอื่นๆ ตามมา

โซนขายของที่ระลึก
ทั้งนี้ “มวยไทย แล็บ”กำหนดลูกค้าเป้าหมายไว้ 3 กลุ่มหลัก คือ 1.ลูกค้าชาวต่างชาติทั่วไป วัย 20-35 ปีที่สนใจเรียนรู้ศิลปะมวยไทย 2.ลูกค้าชาวไทย วัยรุ่นและวัยทำงานที่ต้องการฝึกมวยไทยเพื่อออกกำลังกาย และ3.กลุ่มองค์กร หรือกลุ่มทัวร์ที่ต้องการจัดกิจกรรมพิเศษ โดยอัตราค่าบริการ ได้แก่ 1.ฝึกเป็นรายครั้ง ค่าบริการ 990 บาท ต่อเวลา 90 นาที 2.คูปองชุด 10 ครั้ง ครั้งละ 90 นาที ค่าบริการ 6,600 บาท และ3.ฝึกแบบตัวต่อตัว สำหรับผู้ต้องการฝึกอย่างมืออาชีพ อัตราค่าบริการ 1,600 บาทต่อเวลา 60นาที โดยผู้ผ่านการฝึกทุกคนจะได้รับ “ใบประกาศ” พร้อม “ประเจียด” เป็นของที่ระลึก


จุติพร ระบุด้วยว่า ใช้เงินลงทุนธุรกิจนี้ จำนวน 15 ล้านบาท เริ่มเปิดบริการเมื่อกลางเดือนกรกฎาคม 2558 นี่เอง สามารถรองรับลูกค้าเข้าฝึกได้รอบละ 18 คน โดยใน 1 วันจะเปิดทั้งหมด 5 รอบ และนอกจากส่วนฝึกสอนมวยแล้ว ภายในศูนย์ยังมีจัดเป็นส่วนนิทรรศการประวัติความเป็นมาของมวยไทย อีกทั้ง ส่วนขายสินค้าที่ระลึกต่างๆ กว่า 15 ชนิด เช่น นวม กางเกงมวยไทย และตุ๊กตามวยไทย เป็นต้น
โซนนิทรรศการ

ด้านทำตลาดนั้น เธอระบุว่า สำหรับลูกค้าต่างชาติ ขณะนี้ได้ทำประชาสัมพันธ์แนะนำบริการตลอดเส้นทางเดินเรือ และโรงแรมต่างๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เช่น แจกใบปลิว และในอนาคตจะจัดโปรโมชั่นร่วมกับทางโรงแรม เพื่อส่งเสริมให้ชาวต่างชาติที่สนใจมวยไทยลองเข้าใช้บริการ และหวังจะเกิดกระแสบอกปากต่อปากในหมู่นักท่องเที่ยว ส่วนลูกค้าชาวไทยอาศัยผ่านทางสื่อออนไลน์ต่างๆ โดยตั้งเป้าว่า อยากให้มีผู้เข้ามาใช้บริการภายในศูนย์ฯ เฉลี่ยวันละ 200 คน และคาดการณ์คืนทุนได้ในเวลา 3 ปี


“ดิฉันเชื่อว่า ทุกวันนี้ ความสนใจในกีฬามวยไทย ไม่ได้เป็นแค่แฟชั่น แต่จะเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเราวางตำแหน่งตัวเอง ทั้งเรื่องของสถานที่ โปรแกรม ไปสู่ตลาดบนที่รองรับลูกค้าทั่วไปจะใกล้ชิดและเรียนรู้วัฒนธรรมมวยไทยได้มากยิ่งขึ้น ไม่ได้ถูกมองว่าเป็นกีฬาที่น่ากลัว หรืออันตรายอย่างที่ผ่านมา” เธอ กล่าว





โทร.0-2024-1326 หรือ www.muaythailab.net / FB:muaythailab / IG:muaythailab
จุติพร สุขศรีวงศ์ ถ่ายร่วมกับครูฝึก และลูกค้าที่มาใช้บริการ
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *


กำลังโหลดความคิดเห็น