xs
xsm
sm
md
lg

ล้วงเคล็ดลับสุดยอด “ครีเอเตอร์” ขายสติกเกอร์ ‘ไลน์’ ให้ได้ ‘ล้าน’ (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


การออกแบบและขาย “สติกเกอร์” ในแอปพลิเคชัน “ไลน์” (Line) กลายเป็นเวทีให้นักสร้างสรรค์การ์ตูน หรือ “ครีเอเตอร์” (Creator) เกือบ 4 แสนรายทั่วโลก ทั้งหน้าเก่า หน้าใหม่ มืออาชีพและมือสมัครเล่นแห่นำเสนอผลงานขายสร้างรายได้เป็นอาชีพเสริม และบางคนเติบโตจนกลายเป็นธุรกิจหลัก ทำเงิน “ล้านบาท” ได้ในเวลาไม่ถึงปี

แน่นอน เมื่อตัวเลือกมาก การแข่งขันย่อมเข้มข้น สติกเกอร์ที่จะเข้าตา แจ้งเกิดมียอดโหลดปริมาณสูง ต้องพิเศษระดับใส่ไข่ อย่างใน “3 สุดยอดครีเอเตอร์” ที่มาถ่ายทอดประสบการณ์ กลวิธี ตลอดจนแนวคิด ที่ช่วยส่งให้สติกเกอร์ของพวกเขายอดขายสูงติดอันดับต้นๆ ของประเทศไทย
สัญญา เลิศประเสริฐภากร
“ติดลม” ควายซื่อหัวใจไทย ชูตลาดนำการออกแบบ

ในความเป็นจริงคาแรกเตอร์ตัวการ์ตูน “ติดลม” (Tidlom) ควายหนุ่มบุคลิกแสนซื่อ เอวคาดผ้าขาวม้า ปลายหางเป็นรูปหัวใจ ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 แล้ว จากฝีมือ “สัญญา เลิศประเสริฐภากร” เพื่อเข้าประกวดในงานไทยแลนด์แอนิเมชั่น แอนด์ มัลติมีเดีย หรือ TAM และสามารถคว้ารางวัลชมเชยมาครอง
ัตัวละคร ติดลม
อย่างไรก็ตาม เวลานั้นตลาดแอนิเมชันในเมืองไทยยังซบเซา การ์ตูนติดลมจึงถูกเก็บเข้าลิ้นชักไว้เฉยๆ ไม่ได้ออกมาวาดลวดลายโชว์ศักยภาพ ขณะที่เจ้าของผลงานต้องหันไปยึดอาชีพรับจ้างออกแบบคาแรกเตอร์ต่างๆ จนเมื่อไลน์เปิดโอกาสให้นักออกแบบทั่วไปส่งสติกเกอร์เข้าขายได้ กลายเป็นเวทีให้เจ้าควายน้อยกลับมาแจ้งเกิดอีกครั้ง

“ตอนที่ผมคิดออกแบบติดลม อยากจะสร้างการ์ตูนคาแรกเตอร์ที่สื่อถึงความเป็นไทย แต่ไม่ใช้ “ช้าง” หรือ “แมว” ซึ่งมีคนทำอยู่เยอะมากแล้ว เลยคิดถึง “ควาย” สัตว์ที่อยู่คู่คนไทยมาตลอด กำหนดเรื่องราวให้เป็นควายบ้านนอกเข้ากรุง นิสัยซื่อแต่จริงใจ และชอบเรียนรู้ตลอดเวลา” สัญญาเล่าแนวคิดการออกแบบ และเสริมต่อว่า

“เมื่อปีที่แล้ว (2557) หลังไลน์ประกาศให้ส่งสติกเกอร์เข้าขายได้ ในวงการนักออกแบบแอนิเมชันไทยตื่นตัวกันมาก เพราะที่ผ่านมา พวกเราแทบไม่มีเวทีแสดงผลงานที่กว้างมากนัก อย่างมากแค่ทำเว็บไซต์ ดังนั้น เมื่อไลน์เปิดโอกาส นักออกแบบแทบทุกคนจึงส่งผลงานสติกเกอร์เข้าขายไลน์ โดยเหตุที่ผมเลือกส่ง “ติดลม” เพราะดูในตลาดยังไม่มีคาแรกเตอร์แบบนี้เลย เห็นช่องว่างและสื่อถึงความเป็นไทยได้ด้วย” นักออกแบบมืออาชีพกล่าว

สติกเกอร์ “ติดลม” เปิดให้โหลดครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 57 ด้วยคาแรกเตอร์โดดเด่น และที่สำคัญเป็นสติกเกอร์ไลน์ฝีมือไทยรุ่นแรกที่ออกขาย ทำให้ยอดดาวน์โหลดขึ้นอันดับหนึ่งทันที จนถึงปัจจุบันมีออกมาแล้ว 3 ชุด และจากการจัดอันดับในรอบ 1 ปีที่ผ่านมานับเป็นสติกเกอร์ไลน์ขายดีที่สุดอันดับ 2 ของประเทศไทย สร้างรายได้ให้เจ้าของทะลุหลักล้านบาทไปแล้ว
ตุ๊กตาติดลม ทำเป็นสินค้าที่ระลึก
นอกจากขายสติกเกอร์ นักออกแบบหนุ่มได้ต่อยอดให้ “ติดลม” สร้างรายได้มากขึ้น ด้วยการทำเป็นชุดสติกเกอร์เคลื่อนไหว จัดกิจกรรมต่างๆ ให้ใกล้ชิดแฟนคลับ ผ่านช่องทางสังคมออนไลน์ เช่น เฟซบุ๊ก และอินสตาแกรม โดยมีทีมแอดมินดูแลโดยตรง อีกทั้งทำออกมาเป็นสินค้าของขวัญ และของที่ระลึกต่างๆ วางขายในห้างสรรพสินค้าด้วย

“ทุกวันนี้นักออกแบบหน้าใหม่หลายคนมักถามผมว่าจะทำให้สติกเกอร์ขายดีได้อย่างไร ซึ่งผมจะตอบกลับว่า ก่อนที่จะทำสติกเกอร์ใดๆ ก็ตามควรวางจุดยืนคาแรกเตอร์ให้ชัดเจนเสียก่อนว่าจะทำเพื่อขายใคร ระบุให้ชัดเจน เช่น ทำเพื่อนักศึกษา ผู้หญิง กลุ่มคนเล่นโยคะ ฯลฯ โดยกำหนดตลาดไว้ล่วงหน้า แล้วค่อยออกแบบการ์ตูนให้เหมาะกับลูกค้าเป้าหมายของเรา” สัญญากล่าว และเสริมต่อว่า

“อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับสิ่งสำคัญมากๆ ที่ทำให้ผมสามารถมีวันนี้ได้เพราะทำขายในยุคแรกมีสติกเกอร์แค่หลักพันชุด แต่ทุกวันนี้เพิ่มเป็นหลักแสนชุด เมื่อตัวเลือกมากขึ้น โอกาสจะประสบความสำเร็จก็น้อยลง และทุกวันนี้ไม่ใช่แค่นักวาดภาพเท่านั้น บริษัทใหญ่มืออาชีพก็เข้ามาแข่งด้วย รวมถึงความนิยมของคนไทยก็เปลี่ยนแปลงเร็วมาก กรณีที่ผมเคยทำแล้วสำเร็จ มาใช้ในตอนนี้อาจจะไม่ได้ผลแล้วด้วยซ้ำ”
แม้ว่าเราจะขายไม่ได้ แต่อย่างน้อย ผลงานของเราได้ถูกเก็บในห้องแกเลอรี่ส่วนตัว เวลาไปติดต่อนำเสนอผลงานใดๆก็ตาม สามารถหยิบมาโชว์ได้ ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ”
“สำหรับหน้าใหม่ ตอนนี้ผมอยากให้วางคอนเซ็ปต์ให้ชัดเจนเสียก่อน อย่าคิดทำตัวการ์ตูนตามกระแส หรือแฟชั่นเท่านั้น แต่ควรเน้นทำคาแรกเตอร์มุ่งไปที่ตลาดเฉพาะเจาะจงที่ยังมีช่องว่างพอจะให้แทรกตัวเข้าไปได้ และที่สำคัญ แม้ว่าเราจะขายไม่ได้ แต่อย่างน้อยผลงานของเราได้ถูกเก็บในห้องแกลเลอรีส่วนตัว เวลาไปติดต่อนำเสนอผลงานใดๆ ก็ตามสามารถหยิบมาโชว์ได้ ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ” เขากล่าว

www.zylostudio.com , FB: zylostudio



‘JUMBOOKA’ สาวน้อยรวยเสน่ห์ แปลงความคิดเป็นภาพสื่ออารมณ์

สติกเกอร์ไลน์ขายดีที่สุดของประเทศไทยในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาคือ JUMBOOKA โดย “ชำนาญ จุฬาจตุรศิระรัตน์” มีคาแรกเตอร์เป็นเด็กผู้หญิงแสนน่ารัก ชอบเรียนรู้ แรงบันดาลใจจากที่เขาและภรรยาอยากมีลูกมาก เลยวาดการ์ตูนตัวนี้มาเพื่อเป็นเสมือนตัวแทนลูกสาว
ชำนาญ จุฬาจตุรศิระรัตน์
“ผมเคยเป็นทีมงานเบื้องหลังทำการ์ตูน “จ๊ะ ทิง จา” จนไลน์มีเปิดให้ขายสติกเกอร์ได้ ผมก็เลยเลือกคาแรกเตอร์เด็กผู้หญิงที่น่ารัก ให้ความสำคัญด้านการออกแบบที่สามารถสื่อสารอารมณ์ได้ดี” ชำนาญกล่าว

ปัจจัยที่ช่วยให้ตัวการ์ตูน JUMBOOKA เป็นที่รักจนต้องยอมโหลด เขาบอกว่า มาจากคาแรกเตอร์ที่โดดเด่น สดใส สนุกสนาน และมีการสร้างเรื่องราวเชื่อมโยงกันต่อเนื่อง ด้วยการออกสติกเกอร์ไลน์ชุดอื่นๆ ตามมา เฉลี่ยเดือนละ 1 ชุด รวมแล้วมีคาแรกเตอร์ประมาณ 10 ตัว
 “สิ่งสำคัญ นักออกแบบต้องแปลงความคิดออกมาเป็นภาพ และเป็นภาพที่คนวงกว้างชื่นชอบด้วย ซึ่งต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์
ชำนาญระบุว่า ทุกวันนี้ทำสติกเกอร์ไลน์ขายเป็นอาชีพหลัก รายได้หลักแสนบาทต่อเดือน นับจากวันแรกที่ขาย (25 มิ.ย. 2557) ทะลุหลักล้านบาทไปแล้ว ส่วนวิธีทำตลาด ปัจจุบันหากจะออกสติกเกอร์ชุดใหม่จะยอมลงทุนแจกฟรี แนะนำตัวให้ผู้ซื้อรู้ว่า JUMBOOKA ออกชุดใหม่แล้ว

“สิ่งสำคัญ นักออกแบบต้องแปลงความคิดออกมาเป็นภาพ และเป็นภาพที่คนวงกว้างชื่นชอบด้วย ซึ่งต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ ส่วนคนที่กำลังอยากจะทำสติกเกอร์ไลน์ขายบ้าง ผมอยากให้ศึกษาข้อกำหนดต่างๆ ให้ละเอียดรอบคอบ โดยเฉพาะเรื่องลิขสิทธิ์กับภาษี ส่วนการแข่งขัน แม้ตอนนี้จะมีคนทำมาก แต่ผมอยากให้ส่งไปเรื่อยๆ ชิ้นแรกอาจไม่สำเร็จ เราก็ส่งไปอีกสม่ำเสมอ อาจจะมีชิ้นหนึ่งที่เกิดแจ็กพอตได้รับความนิยม มันก็จะเปลี่ยนชีวิตคุณได้เลย” ชำนาญกล่าว

ID Line: kapomy2014

สร้างจุดขายท้องถิ่นนิยม วางเป้าขายลิขสิทธิ์ทั่วโลก

สำหรับสตูดิโอ “นานามิ แอนิเมชั่น” ถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนในการสร้างคาแรกเตอร์ใช้ “ท้องถิ่นนิยม” มาเป็นจุดขายจับลูกค้าเฉพาะกลุ่ม ผ่านตัวการ์ตูนชุดภาษาอีสาน ภาษาเหนือ และภาษาใต้ ที่รู้จักกันดี เช่น ชุด “อีสาน เลิฟเวอร์” (Isan Lovers) เปิดตัวเมื่อเดือนมีนาคม 2558 นี่เอง ทำรายได้แล้วกว่า 3 แสนบาท
คทิน อุรารักษ์
คทิน อุรารักษ์ นักออกแบบคาแรกเตอร์ เล่าเรื่องราวของการออกแบบคาแรกเตอร์บนสติกเกอร์ไลน์ นานามิ แอนิเมชั่น เริ่มจากไลน์เกาหลีเห็นผลงานวาดภาพของทีมนานามิฯ จึงชักชวนให้ทำสติกเกอร์บนไลน์ ชุด “น้องมะพร้าว” จนประสบความสำเร็จ และปัจจุบันขยับไปมีชีวิตอยู่บนไลน์เว็บการ์ตูน และครองอันดับ 1 อยู่ในเวลานี้

ทั้งนี้ ทีมงานนานามิฯ ทำสติกเกอร์ไลน์ขายมาแล้วกว่า 30 ชุด แต่ละชุดจะเน้นการจับลูกค้าเฉพาะกลุ่ม ส่วนที่มาของสติกเกอร์ท้องถิ่นนั้น ทีมงานมีแนวคิดจะทำธุรกิจลิขสิทธิ์คาแรกเตอร์ที่ขายได้ทั่วโลก โดยเครื่องมือที่จะสื่อไปถึงแต่ละกลุ่มลูกค้าได้ดีที่สุด คือ “ภาษา” ที่ใช้

“ผมสังเกตคนรอบตัวที่มาจากภาคต่างๆ เวลาพูดกับเราจะใช้ภาษากลาง แต่เวลาเขาคุยกันเองในครอบครัวจะพูดภาษาท้องถิ่น ทำให้เห็นถึงความผูกพันที่มากกว่า เลยเป็นไอเดียที่จะใช้ท้องถิ่นนิยมเป็นจุดขาย เราเริ่มจากคัดคำภาษาถิ่น ซึ่งเป็นคำที่ไม่แก่หรือวัยรุ่นจนเกินไป เป็นคำที่ใช้กันบ่อยๆ คนภาคอื่นพอจะเข้าใจได้บ้าง ส่วนใหญ่ความหมายไปในเชิงบวก ซึ่งคนทั่วไปจะใช้มากกว่า” คทินกล่าว และเสริมต่อว่า

การเลือกใช้ “คำ” ประกอบในแต่ละภาพมีความสำคัญมาก ต้องสอดคล้องกัน ผู้ใช้สามารถนำไปใช้งานได้จริงๆ และต้องไม่ลืมว่าภาษาจะกำหนดกลุ่มลูกค้าไปในตัว อย่างเช่นใช้ “ภาษาไทย” คนซื้อหลักคือ “คนไทย” ใช้ “ภาษาจีน” คนซื้อหลักย่อมเป็น “คนจีน” แต่ถ้าใช้ “ภาษาอังกฤษ” คำง่ายๆ ผู้ซื้อคือ “คนทั่วโลก” เป็นต้น
สติ๊กเกอร์ไลน์ไม่จำเป็นต้องสวย คนวาดรูปไม่เก่งก็สามารถขายดีได้  ขอแค่มีความคิดสร้างสรรค์  มีเอกลักษณ์
นอกจากนั้น ควรเลือกช่วงเวลาในการออกสติกเกอร์ให้เหมาะสม โดยศึกษาและเก็บข้อมูลเสียก่อน ไม่ควรออกในช่วงที่มีสติกเกอร์ลักษณะคล้ายๆ กันอยู่แล้ว เพราะการแข่งขันสูง และระยะเวลาที่ขายได้ดีจะสั้นลง

ในตอนท้าย คทินระบุว่า สติกเกอร์ไลน์ไม่จำเป็นต้องสวย คนวาดรูปไม่เก่งก็สามารถขายดีได้ ขอแค่มีความคิดสร้างสรรค์ มีเอกลักษณ์ ซึ่งผู้ออกแบบสามารถหาข้อมูลเพื่อจับพฤติกรรมลูกค้าเป้าหมายได้จากการเฝ้าสังเกตสติกเกอร์ไลน์ที่มีขายอยู่แล้ว

www.nanamianimation.com
นาโอโตโมะ วาตานาเบะ  ผู้จัดการฝ่ายวางแผนสติกเกอร์ ไลน์คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น
แนะหัวใจขายดี คือ ใช้ง่าย+สร้างสรรค์

ด้าน “นาโอโตโมะ วาตานาเบะ” ผู้จัดการฝ่ายวางแผนสติกเกอร์ไลน์คอร์ปอเรชัน ประเทศญี่ปุ่น แนะนำวิธีออกแบบสติกเกอร์ให้ประสบความสำเร็จ ขายดีจนเป็นสติกเกอร์ยอดนิยม มีปัจจัยหลัก ได้แก่ “Usability” กล่าวคือ เป็นสติกเกอร์ใช้ง่าย โดยแบ่งเป็นสองกลุ่ม คือ หนึ่ง “Communication-Friendly” ใช้สื่อสารได้ง่ายๆ มีดีไซน์ที่ชัดเจนและเข้าใจง่าย เช่น ไปเที่ยวกันไหม กินข้าวกันไหม ฯลฯ ซึ่งคำเหล่านี้ใช้ได้บ่อยๆ โดยการออกแบบเติมคำที่ใช้อยู่บ่อยๆ ควรอยู่ตำแหน่งหน้าสติกเกอร์ เพราะสังเกตเห็นง่าย สอง “Extreme yet Simple Expressions” คือ ดีไซน์ที่ชัดเจน ง่ายๆ เห็นท่าทางที่ชัดเจน เช่น หัวเราะก็ชัดเจนว่าหัวเราะ

นอกจากนี้ ยังรวมถึงต้องมี “Creativity” หรือความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นตัวตัดสินของผู้ซื้อ ฉะนั้น หัวใจของสติกเกอร์ขายดีต้อง “ใช้ง่าย” และมีความคิด “สร้างสรรค์” ประกอบกันอย่างลงตัว

“สติกเกอร์ที่เป็นที่นิยมของผู้ใช้ LINE คือ สติกเกอร์ที่ใช้สื่อสารได้ง่ายในชีวิตประจำวัน และสติกเกอร์ซึ่งแสดงสีหน้าอารมณ์ได้ชัดเจน หลังจากที่เปิดตัว LINE ครีเอเตอร์มาร์เกต ผู้ใช้ LINE ก็มีโอกาสได้ใช้สติกเกอร์ที่หลากหลายจากนักออกแบบทั่วโลก ส่วนเทรนด์สติกเกอร์ที่กำลังมาแรงในตลาดไทยก็คงหนีไม่พ้นสติกเกอร์ภาษาท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นภาษาอีสาน ภาษาเหนือ หรือภาษาใต้ ซึ่งสติกเกอร์เหล่านี้มีคาแรกเตอร์ชัดเจนและยังแฝงไว้ด้วยอารมณ์ขันที่แสดงเอกลักษณ์ของนักออกแบบไทยได้เป็นอย่างดีอีกด้วย” นาโอโตโมะ กล่าว



* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *


กำลังโหลดความคิดเห็น