xs
xsm
sm
md
lg

กสอ.จับมือสถาบันอาหารปลุกอัตลักษณ์อาหาร 9 จังหวัดภาคใต้ รังสรรค์เมนูสู่สากล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บรรยากาศงานแถลงข่าว
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จับมือสถาบันอาหาร พัฒนาอัตลักษณ์อาหารใต้ เน้นใช้ทุนทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญา ยกระดับวิสาหกิจชุมชนและเอสเอ็มอีด้านธุรกิจอาหารจาก 9 จังหวัดภาคใต้ หวังสร้างมูลค่าเพิ่มต่อยอดผลิตภัณฑ์ใหม่ คงความเป็นเอกลักษณ์วัฒนธรรมภาคใต้ไว้เหนียวแน่น ดึงเชฟระดับเวิลด์คลาส พัฒนาผู้ประกอบการร้านอาหารภาคใต้ให้เข้มแข็ง สร้างทางเลือกใหม่ให้ผู้บริโภค


นางสาวนิสากร จึงเจริญธรรม รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กิจกรรมการพัฒนาอาหารภาคใต้ ภายใต้โครงการพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมโดยใช้ทุนทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญา (The Development of Industrial Business by Applying Cultural Heritage and Local Wisdom) จะเน้นการสะท้อนภาพผ่านการดำเนินชีวิต ความเป็นอยู่ ภาษา ประเพณี วัฒนธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของ “อาหาร” ซึ่งแต่ละภูมิภาคล้วนมีเอกลักษณ์ และเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของตนเอง หรือเรียกได้ว่าอาหารประจำถิ่น


ทั้งนี้ทางกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จึงเริ่มดำเนินกิจกรรมการสร้างองค์ความรู้วิถีวัฒนธรรมของเสน่ห์วัฒนธรรมด้านอาหาร โดยเริ่มที่ภาคใต้ ซึ่งมีความหลากหลายของวัฒนธรรม ทั้งจีน อิสลาม ไทย มาลายู ภายใต้โครงการการพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมโดยใช้ทุนทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญา (The Development of Industrial Business by Applying Cultural Heritage and Local Wisdom) ขึ้น ซึ่งการเสริมสร้างความเข้มแข็งและโดดเด่นให้กับวิถีวัฒนธรรมอาหาร อันเป็นปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิตของทุกคน จะเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการสร้างเศรษฐกิจของประเทศที่ยั่งยืนต่อไป


“วัตถุประสงค์ในการดำเนินกิจกรรมครั้งนี้ ก็เพื่อสร้างองค์ความรู้ในการรับรู้ และสร้างคุณค่าให้กับอาหารไทย โดยการนำเอกลักษณ์และภาพลักษณ์ของอาหารไทยในภาคใต้มานำเสนอ เพื่อพัฒนารายการอาหารภาคใต้ให้เป็นที่รู้จักและเป็นประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ต่อไป รวมทั้งเสนอแนวทางการจัดโต๊ะและวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้บนโต๊ะให้เป็นระดับสากลโดยคงความเป็นเอกลักษณ์วัฒนธรรมภาคใต้ไว้ เพื่อสร้างเครือข่ายและพัฒนาผู้ประกอบการร้านอาหารภาคใต้ให้เข้มแข็งขึ้นและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และเพื่อประชาสัมพันธ์รายการอาหารภาคใต้ให้ได้รับการพัฒนาในระดับสากล จนเป็นที่รู้จักในวงกว้างถึงคุณค่าที่สืบสานจากเสน่ห์ทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น” รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าว

สำหรับรูปแบบในการดำเนินการ ครอบคลุมพื้นที่ 9 จังหวัด แบ่งเป็นพื้นที่ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ชุมพร และพื้นที่ภาคใต้ชายแดน ได้แก่ สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สตูล โดยการดำเนินงานมี 2 กลุ่ม ได้แก่ 1) พัฒนาผลิตภัณฑ์จากผู้ประกอบการกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารที่มีศักยภาพ โดยได้ผลิตภัณฑ์แปรรูปที่มีความเชื่อมโยงกับโต๊ะปักษ์ใต้ เช่น ผงหมักข้าวหมกไก่ , เครื่องแกงคั่วกลิ้งพร้อมปรุง , บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสแกงเหลือง, น้ำยาขนมจีนพร้อมปรุง, เค้กแยมลูกหยี, กะปิปรุงรสสำหรับผัดสะตอ, ลูกตาลแก้ว, แกงไตปลาแห้ง, ปั้นสิบไส้ทุเรียนใต้ไข่เค็ม และไอศกรีมนมแพะ เป็นต้น

2.พัฒนาเมนูอาหารให้เกิดความแปลกใหม่ในรูปแบบของการตกแต่ง และการเสิร์ฟในรูปแบบสากล โดยยังสนับสนุนให้มีการสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับด้านธุรกิจบริการอาหาร ให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และผลักดันให้เครือข่ายมีการนำโต๊ะปักษ์ใต้ ไปก่อประโยชน์ทางธุรกิจ อาจมีการนำเสนอโต๊ะปักษ์ใต้เป็นทางเลือกในการจัดเลี้ยงอีกทางหนึ่ง

ด้านนางอรวรรณ แก้วประกายแสงกูล รองผู้อำนวยการ และรักษาการผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กล่าวถึง บทบาทของสถาบันอาหารในการดำเนินการโครงการดังกล่าวว่า สถาบันอาหารได้มีการทำวิจัยและพัฒนารูปแบบการบริการอาหารที่บูรณาการวัฒนธรรมท้องถิ่นเข้าด้วยกัน มีการจัดอบรมผู้ประกอบการภัตตาคาร ร้านอาหาร พ่อครัว/แม่ครัว เกี่ยวกับการพัฒนาเมนูอาหารท้องถิ่นและวิธีการนำเสนอเพื่อให้บริการขึ้นโต๊ะเสิร์ฟในรูปแบบสากล สร้างความเข้มแข็งให้กับผู้ผ่านการอบรมในองค์ความรู้พื้นฐาน และสร้างความชำนาญในการประกอบธุรกิจ

“ในส่วนของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ นักวิชาการที่ปรึกษาของสถาบันอาหาร ได้นำผลิตภัณฑ์ที่มีจุดเด่นของแต่ละพื้นที่มาต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์แปรรูป โดยเข้าไปให้คำปรึกษาแนะนำผู้ประกอบการในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ กระบวนการผลิต รวมทั้งการออกแบบบรรจุภัณฑ์ นอกจากนี้ยังได้ร่วมมือกับ 'เชฟนูรอ โซ๊ะมณี เสต็ปเป้' เชฟฝีมือระดับเวิลด์คลาส และเจ้าของร้านอาหารบลูเอเลเฟนท์ (Blue Elelphant) และ 'เชฟจากัวร์-ธีรวีร์ ดิษยะไชยพงษ์' ผู้เชี่ยวชาญการปรุงอาหารไทยแบบดั้งเดิม เป็นผู้รังสรรค์เมนูในรูปแบบใหม่แต่ไม่ทิ้งรสชาติ และกลิ่นไอของความเป็นอาหารปักษ์ใต้ โดยเชฟจะเข้าไปศึกษาในเรื่องของกระบวนการ ขั้นตอน และวิธีการปรุง รวมถึงเคล็ดลับต่างๆ จากกลุ่มผู้ประกอบการที่ผ่านการเข้าร่วมโครงการ หลังจากนั้นจึงจะนำเมนูเหล่านั้นมาคิดหาวิธีและรูปแบบในการนำเสนอให้เป็นสากล” นางอรวรรณ กล่าว

อย่างไรก็ตาม การจัด Final Food Testing มีการจัดโต๊ะเป็น 2 รูปแบบ คือแบ่งตามพื้นที่ดำเนินการ ประกอบด้วย เมนูอาหารปักษ์ใต้ พื้นที่ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย 4 จังหวัด ประกอบด้วย สุราษฎร์ธานี, นครศรีธรรมราช , พัทลุง และชุมพร ดังนี้ คานาเป้ หมี่ไชยาเนื้อปูห่อลา, ข้าวยำทรงเครื่อง, ยำสาหร่ายข้อ ใบยาร่วง อาหารเรียกน้ำย่อย สุวรรณมัจฉาปักษ์ใต้ ข้าวเส้นน้ำยาปลาฉิ้งฉ่าง ซุป ต้มส้มปลากระบอกน้ำส้มลูกโหนด อาหารจานหลัก แกงส้มปักษ์ใต้ปลาหมึกยัดไส้

ส่วนเมนูอาหารปักษ์ใต้ พื้นที่ภาคใต้ชายแดน 5 จังหวัด ประกอบด้วย สงขลา , ปัตตานี , ยะลา , นราธิวาส และสตูล ดังนี้ คานาเป้ สลัดทะเลสาป, สลัดกาฬเกศา อาหารเรียกน้ำย่อย อายัมกอและ, ชุมนุมบูดูข้าวโอสถ, ยี่หร่าร้อนแรงแกงใต้, หนมจีนแกงคั่ว อาหารจานหลัก แกงส้มปักษ์ใต้สำหรับบูดู เคียงคู่ผักเหลียงเมียงมองแม่โพสพ เพื่อให้เชฟฝีมือดี และสื่อมวลชนได้ลิ้มลองรสชาติเหล่านี้ด้วย
เมนูอาหารให้ลิ้มลอง เพื่อพัฒนาเป็นเมนูสากลต่อไป
เมนูชุมนุมบูดูข้าวโอสถ
คั่วกลิ้งไก่
ไก่เบตงต้มขมิ้นรสเปรี้ยว
ไอศกรีมเชอเบทมะม่วงเบา
เมนูอาหารจานหลัก ได้แก่ แกงส้มปักษ์ใต้ พุงปลาน้ำทิกับเส้นทองกรอบ และยำน้ำบูดู
ตบท้ายด้วยของหวาน ไอศกรีมข้าวสีนิล , ข้าวเหนียวบอก และ ปำจีโบราณปักษ์ใต้
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SME ผู้จัดการออนไลน์” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *


กำลังโหลดความคิดเห็น