‘กางเกงยีนส์’ นับเป็นเครื่องแต่งกายยอดฮิตของคนทั่วโลก ในท้องตลาดมีสารพัดแบรนด์ให้เลือกสรร แต่สำหรับ ‘SELVEDGEWORK’ สร้างความพิเศษที่เหนือกว่า มุ่งเป็นกางเกงยีนส์เกรดพรีเมียม ทำขึ้นเพื่อลูกค้ารายบุคคลโดยเฉพาะ ช่วยให้แบรนด์หน้าใหม่แจ้งเกิดในวงการขึ้นมาได้
วิชพงษ์ หัตถสุวรรณ หรือ “บูม” วัยเพียง 24 ปี คือ เจ้าของสินค้าดังกล่าว อาศัยพื้นฐานครอบครัวเปิดบริษัท เทพฤกษ์ จำกัด ทำธุรกิจโรงงานรับจ้างผลิต (OEM) กางเกงยีนส์ให้แก่แบรนด์ยักษ์ใหญ่มากว่า 30 ปี รวมเข้ากับความรักในแฟชั่น มาสร้างสรรค์กางเกงยีนส์สั่งได้ ภายใต้แบรนด์ของตัวเอง
“ตั้งแต่เรียนปี 3 ด้านการตลาด มหาวิทยาลัยมหิดล ผมก็มีความตั้งใจ อยากต่อยอดธุรกิจที่บ้าน โดยสร้างแบรนด์ของเราเอง ทำเป็นกางเกงยีนส์ CUSTOM หรือสั่งตัด เพราะจากประสบการณ์ส่วนตัว เวลาซื้อกางเกงยีนส์ มักพบปัญหาไม่ได้สินค้าที่ตรงใจจริงๆ บางตัวทรงถูกใจ เนื้อผ้าไม่ชอบ ฯลฯ เลยเกิดไอเดียจะทำกางเกงยีนส์ที่ทำขึ้นเพื่อลูกค้ารายบุคคล ลูกค้าสามารถกำหนดความต้องการต่างๆ ของตัวเองได้ ซึ่งผมคิดว่า นี่เป็นสินค้าใหม่ มุ่งตลาดเฉพาะเจาะจง (niche market) ไม่ต้องไปแข่งกับแบรนด์ใหญ่ๆ” วิชพงษ์ เล่าจุดเริ่มแรก และอธิบายต่อว่า
กำหนดจุดยืนแบรนด์ ‘SELVEDGEWORK’ ต้องเป็น “กางเกงยีนส์ที่ดีที่สุดในโลก” จะไปจุดนั้นได้ อันดับแรกต้องใช้วัสดุที่ได้การยอมรับว่าชั้นหนึ่งในวงการจากทั่วโลก เช่น ผ้าคัดมาจากโรงทอผ้าที่ได้ชื่อว่าดีที่สุด จากอเมริกา ญี่ปุ่น อิตาลี และไทย กระดุมจากฮ่องกง ป้ายหนังจากโปแลนด์ เป็นต้น ทั้งหมดเสาะแสวงหาด้วยตัวเอง ประการต่อมาตัดเย็บโดยช่างฝีมือที่คัดเลือกแล้วว่ายอดเยี่ยม ช่าง 1 คนรับผิดชอบกางเกง 1 ตัว และที่สำคัญ ลูกค้ามีส่วนร่วมระบุความต้องการต่างๆ ตลอดทุกขั้นตอน เพื่อให้เป็นกางเกงที่ผู้สวมใส่ถูกใจมากที่สุด
แม้แนวคิดจะแจ่มชัด ทว่าพบอุปสรรคหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนผลิตบานปลาย ส่งให้ราคาสินค้าค่อนข้างสูง จนเกรงว่าลูกค้ารับไม่ได้ ประกอบกับรายละเอียดทุกขั้นตอนยุ่งยาก ปัญหาต่างๆ รุมเร้าจนหนุ่มไฟแรง เล่าว่า เกือบถอดใจ เลิกล้มธุรกิจนี้ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม จุดพลิกผันที่กลับมาฮึดสู้ และแจ้งเกิดได้ในปัจจุบัน มาจากกระแสตอบรับของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนมั่นใจว่า มีลูกค้าเป้าหมายที่พร้อมจะจ่ายเพื่อกางเกงยีนส์ที่สมบูรณ์แบบที่สุด
“ช่วงแรกผมไม่แน่ใจว่า สิ่งที่ทำอยู่มันมาถูกทางหรือเปล่า จนเริ่มท้อเกือบหันไปทำงานประจำแล้ว แต่ใจจริง ก็ยังอยากจะทำงานที่ตัวเองรักมากกว่า ซึ่งตอนนั้น ประมาณ พ.ศ.2556 ผมอาศัยขายผ่านทางเฟซบุ๊ก กับอินสตราแกรมเท่านั้น กระแสลูกค้าเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ จากนั้น ผมเลยตัดสินใจเข้าไปคุยกับคุณพ่อคุณแม่ ขอยืมเงิน 2 ล้านบาท เป็นทุนลุยธุรกิจเต็มตัว ซึ่งพวกท่านก็ยินดีจะสนับสนุน” วิชพงษ์ ระบุ
แบรนด์ ‘SELVEDGEWORK’ เปิดหน้าร้านอย่างเป็นทางการเมื่อต้นปี พ.ศ.2557 อยู่ที่สยามสแควร์ ซ.2 โดยลูกค้าสามารถสั่งความต้องการยีนส์ได้ด้วยตัวเอง ตั้งแต่ขั้นแรก คือ เลือกทรงกางเกง ซึ่งใช้เวลาพัฒนาทรงมานับปี จนได้ทรงที่เชื่อว่าดีที่สุด ประกอบด้วยทรง Super Skinny , Skinny , Slim และ Straight ส่วนเอวมีให้เลือกตั้งแต่ 25 นิ้วถึง 40 นิ้ว และความยาวขากางเกง จะวัดให้เหมาะกับลูกค้าแต่ละราย ต่อมาเลือกผ้า ที่มีกว่า 30 ชนิด จากโรงทอผ้าชื่อดังของ 4 ประเทศดังกล่าวข้างต้น ทั้งหมดเป็น “ผ้าริม” (SELVEDGE) ซึ่งในวงการถือเป็นยอดแห่งผ้ายีนส์ และยังเป็นที่มาของชื่อแบรนด์ ‘SELVEDGEWORK’ ด้วย
ต่อมาเลือกอุปกรณ์ตบแต่งตามความพอใจ ได้แก่ สีด้ายมีให้เลือกว่า 20 สี กระดุมตอก หมุด ป้ายหนัง และป้ายโลโก้ ทั้งหมดออกแบบขึ้นเป็นเฉพาะ รวมถึง สามารถสั่งให้ฟอกสียีนส์ได้อีกด้วย และสุดท้าย สั่งยิงเลเซอร์เป็นตัวอักษรระบุชื่อ เพิ่มความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ และบรรจุลงกล่อง เวลาในการทำต่อตัวประมาณ 7-15 วัน แล้วแต่ความยากง่าย ราคาตัวละ 6,900-15,000 บาท ขึ้นลงตามต้นทุนวัสดุที่เลือก อย่างตัวที่แพงที่สุด จะส่งไปฟอกสีที่ประเทศตุรกี ซึ่งมีชื่อเสียงเรื่องนี้อันดับต้นของโลก และตัวหมุดทำจากทองคำแท้
“ผมต้องการทำแบรนด์ให้ลูกค้ารู้สึกว่า “คุ้มค่า”เกิดความพึงพอใจ แม้ว่าจะจ่ายสูง แต่ไม่เสียดายเงิน เพราะเป็นสินค้าชิ้นเดียวในโลก ที่ทำขึ้นเพื่อเขาโดยเฉพาะ และมันไม่ได้เป็นแค่เครื่องแต่งกายเท่านั้น แต่คืองานศิลปะชิ้นหนึ่ง” เจ้าของธุรกิจวัย 24 ปีเผย
ด้านผลการดำเนินธุรกิจนั้น ปัจจุบันเฉลี่ยยอดสั่งตัดประมาณเดือนละ 100 ตัว และมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง จนเกือบจะคืนเงินลงทุนทั้งหมดได้แล้ว ส่วนการทำตลาด อาศัยผ่านโซเชียลมีเดีย ลูกค้ามักรู้จักผ่านการบอกต่อ โดยกว่า 60% เป็นคนไทย และอีก 40% ชาวต่างชาติ ทั้งเอเชีย และยุโรป และที่น่าสนใจ คือ ลูกค้ากว่า 80% คือ “ผู้ชาย” เมื่อสำรวจข้อมูลลูกค้าจะพบข้อมูลว่า ผู้ชายโดยทั่วไปจะมีกางเกงยีนส์ที่ใส่ประจำเฉลี่ยคนละ 5 ตัวเท่านั้น และแต่ละตัวจะใช้ใส่ยาวนาน ดังนั้น ผู้ชายจึงยอมจะซื้อกางเกงยีนส์ราคาสูงเพื่อแลกกับคุณภาพ
วิชพงษ์ ยอมรับตามตรงว่า หากครอบครัวไม่ได้มีพื้นฐานทำโรงงานผลิตกางเกงยีนส์อยู่แล้ว ไม่มีทางจะทำกางเกงยีนส์แบบ CUSTOM ได้เลย เพราะกระบวนการผลิตทั่วไป จำเป็นต้องผลิตครั้งละปริมาณมากๆ หากทำละทีตัว ทั้งยุ่งยาก เสียเวลา และสิ้นเปลืองสูง ดังนั้น โรงงานทั่วไปจึงไม่ยอมรับผลิต
ส่วนแผนธุรกิจในอนาคตที่วางไว้ เตรียมจะทำเว็บไซต์ภาษาต่างประเทศ มีโปรแกรมอัตโนมัติแบบเรียลไทม์ ลูกค้าทั่วโลกสามารถสั่งทำกางเกงยีนส์ CUSTOM ได้เหมือนมาที่ร้านเอง เพราะเชื่อว่า กางเกงยีนส์เป็นสื่อสากล ยังมีช่องว่างในตลาดโลกให้ขยายได้อีกมหาศาล
ทั้งหมดเป็นภาพในหัวของนักธุรกิจหนุ่มวัย 24 ปี ที่ฝันว่า วันหนึ่งข้างหน้า ทุกคนรู้จักและจดจำ แบรนด์ ‘SELVEDGEWORK’ ในฐานะผู้ผลิตกางเกงยีนส์ที่ดีที่สุดของโลก
โทร.0-2658-0486 , www.selvedgework.com , iG: selvedgework และ FB: Selvedgework
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
