เพราะ “ปลาแรด” เป็นของดี ของเด่นประจำบ้านเกิดจังหวัดอุทัยธานี ขณะที่ครอบครัวยึดอาชีพประมงเลี้ยงปลาชนิดนี้อยู่แล้ว เลยเป็นจุดเริ่มต้นให้ครอบครัว “ส่องศรี” นำเนื้อปลาแรดมาแปรรูปทำเป็นไส้ “ซาลาเปา” เพิ่มมูลค่า สร้างจุดขายเรื่องรสชาติอร่อยไม่เหมือนใคร แถมยังบ่งบอกเอกลักษณ์ประจำท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี
คุณเสวต ส่องศรี เจ้าของอาชีพซาลาเปาไส้ปลาแรด เมืองอุทัย เล่าว่า ครอบครัวยึดอาชีพประมง เลี้ยงปลาในกระชังบริเวณแม่น้ำสะแกกรังมากว่า 60-70 ปีแล้ว ชื่อว่า “ส่องศรีสัตว์น้ำ” จำนวนกว่า 20 กระชัง ปลาที่เลี้ยงมากสุด ได้แก่ ปลาแรด ซึ่งเป็นสินค้าเด่นดังประจำจังหวัด ตามด้วยปลาสวาย ปลาทับทิม และปลาเทโพ เป็นต้น ส่งขายตามตลาดสด รวมถึงมีพ่อค้าคนกลางเข้ามารับซื้อ
โดยจุดเด่นของเนื้อปลาแรด จ.อุทัยธานี คือ เนื้อแน่น รสหวาน และไม่มีกลิ่นคาว เนื่องจากเลี้ยงในกระชัง ให้อาหารที่ล้วนแต่เป็นประเภทผัก เช่น ผักบุ้ง ผักกาด และแตงโม เป็นต้น ทำให้เนื้อปลารสชาติดี
คุณเสวตเล่าต่อว่า เมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้วได้เริ่มนำวัตถุดิบเนื้อปลามาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อเพิ่มมูลค่า และสามารถขายได้ตลอดทั้งปี เช่น ปลาแดดเดียว ปลาย่าง ปลาส้ม เป็นต้น กระทั่งเมื่อประมาณ 1 ปีที่แล้วทางมหาวิทยาลัยรามคำแหงได้เปิดอบรมสอนอาชีพการแปรรูปเนื้อปลามาทำเป็น “ไส้ซาลาเปา” จึงเกิดสนใจที่จะนำเนื้อปลาแรดที่เลี้ยงอยู่แล้วมาแปรรูปเพิ่มมูลค่า เพราะเห็นว่าเป็นสินค้าเด่นประจำจังหวัดอยู่แล้ว บ่งบอกวัฒนธรรมประจำท้องถิ่น และจะเป็นสินค้าใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน ดังนั้นจึงร่วมเข้าอบรมอาชีพดังกล่าว
ด้านภรรยา คุณวัลลา ส่องศรี เล่าเสริมว่า สูตรทำซาลาเปาที่ไปอบรมมา ได้นำมาปรับให้ได้รสชาติที่อร่อยเหมาะกับเนื้อปลาแรดมากที่สุด โดยสูตรไส้ซาลาเปาที่ทางอาจารย์สอนมาจะใช้วิธี “นึ่ง” เนื้อปลาให้สุก แต่หลังจากทดลองทำแล้วพบว่าการนึ่งจะทำให้เนื้อค่อนข้างแฉะไปหน่อย เลยปรับมาทำให้สุกด้วยวิธีการ “ย่าง” แทน ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ได้เนื้อไส้ที่แห้งแล้ว ยังมีกลิ่นหอมรมควันด้วย
นอกจากนั้น มาปรับวิธีการทำ “แป้ง” ให้นุ่นเนียนตลอดเวลาแม้เวลาจะผ่านไปนาน รวมถึงคิดหาสูตรใหม่ๆ นำวัตถุดิบอื่นๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ประจำ จ.อุทัยธานี อย่าง “หน่อไม้” มาเป็นส่วนผสมประกอบด้วย
ส่วนไส้ซาลาเปาปลาแรดที่ทำขึ้นมีด้วยกัน 2 รส ได้แก่ 1. รสสมุนไพร ซึ่งจะหอมเครื่องเทศนานาชนิด กับ 2. รสผัดพริก ซึ่งเป็นรสใหม่คิดขึ้นเอง โดยรสค่อนข้างเผ็ดคล้ายกับปลาราดพริก โดยวิธีการทำไส้ซาลาเปาปลาแรดนั้น เริ่มจากนำปลาแรดไปย่างด้วยเตาถ่านจนสุก จากนั้นเลาะเอาเฉพาะส่วนเนื้อปลามาตำให้ละเอียด จากนั้นนำไปทอดตามด้วยผัดรวมเครื่องพริกแกงที่โขลกขึ้นเอง จากนั้นใส่ส่วนผสมอื่นๆ เช่น เห็ดหอม แครอท และหน่อไม้ เป็นต้น
ย้อนกลับมาที่คุณเสวตเล่าว่า กว่าจะได้รสชาติที่เชื่อว่าอร่อยถูกปากลูกค้า ลองผิดลองถูก ปรับแต่งสูตรอยู่กว่า 3 เดือน โดยใช้วิธีให้ลูกค้าทดลองชิม จนได้รสที่ 8 ใน 10 คนบอกว่าชื่นชอบ ส่วนช่องทางขายในปัจจุบัน ใช้หน้าบ้านตัวเองเปิดเป็นร้านค้าของฝาก ตั้งอยู่ใกล้ๆ วัดอุโปสถาราม หรือวัดโบสถ์ จ.อุทัยธานี นอกจากนั้น ในทุกๆ วันเสาร์จะไปออกร้านที่ถนนคนเดิน จ.อุทัยธานี รวมถึง ฝากขายที่ศูนย์โอทอป จ.อุทัยธานี และรับทำส่งตามงานสัมมนาต่างๆ นอกจากนั้น ขายงานแสดงสินค้าชุมชน ส่วนในกรุงเทพฯ และตามจังหวัดอื่นๆ จะส่งโดยวิธีแช่แข็งไปทางไปรษณีย์ ราคาขาย สำหรับขายส่ง 12 บาทต่อลูก ส่วนขายปลีก 15 บาทต่อลูก
เขาเผยด้วยว่า อาชีพนี้ทำกันเองในแบบครัวเรือน ช่วยกันระหว่างพ่อ แม่ และลูก ซึ่งในท้องถิ่น จ.อุทัยธานียังไม่พบว่ามีใครนำเนื้อปลาแรดมาทำเป็นไส้ซาลาเปาเลย และนอกจากนั้น ยังนำเนื้อปลาแรดไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น น้ำพริกปลาแรด เป็นต้น
อยากลองชิมซาลาเปาไส้ปลาแรด ของดีของเด่นจาก จ.อุทัยธานีแท้ๆ ติดต่อไปได้ที่ 08-3068-3565, 08-9856-5614
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *