xs
xsm
sm
md
lg

“เอสเอ็มอีแบงก์” ปัดถูกควบรวม ตั้งผู้ทรงคุณวุฒิส่องโปร่งใส สกัดการเมือง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นางสาลินี วังตาล (กลาง) ประธานกรรมการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์)   แถลงผลการดำเนินการและการทำพันธกิจ
“เอสเอ็มอีแบงก์” เร่งลบภาพสีเทา ตั้ง “พลโท พิศณุ พุทธวงศ์” เป็นผู้ทรงคุณวุฒิด้านธรรมาภิบาล เสริมภูมิคุ้มกันการเมืองแทรก แจงผลงานเดือน ม.ค. 58 มีกำไรสุทธิ 98 ลบ. พร้อมลดหนี้เสียไปแล้ว 3,495 ลบ. ด้าน “สุพจน์” ปัดข่าวถูกยุบรวม “ออมสิน” เชื่อเป็นแค่ความคิดเห็นเท่านั้น ขอเวลา 1 ปีพิสูจน์ผลงาน

นางสาลินี วังตาล ประธานกรรมการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) กล่าวในการแถลงผลการดำเนินงานและการทำพันธกิจ เดือนมกราคม 2558 ว่า ข่าว โดยมีการเปิดตัวเอสเอ็มอีแบงก์ ได้แต่งตั้ง พลโท พิศณุ พุทธวงศ์ หัวหน้าฝ่ายเสนาธิการประจำประธานองคมนตรี เป็นผู้ทรงคุณวุฒิด้านธรรมาภิบาล มาช่วยให้คำแนะนำในเรื่องการสร้างระบบธรรมาภิบาล ความโปร่งใสในองค์กร เพื่อให้เอสเอ็มอีแบงก์มีภูมิคุ้มกันการเมืองแทรกแซงในอนาคต

นอกจากนั้นยังมี ดร.พีรพล ไตรทศาวิทย์ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ มาช่วยดูแลด้านการปรับโครงสร้างองค์กร การกำหนดหลักเกณฑ์ในการแต่งตั้งโยกย้ายพนักงานทุกระดับ และการประเมินผลการปฏิบัติงาน จะทำให้การดำเนินงานของธนาคารมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายสินเชื่อตามพันธกิจโดยคงรักษามาตรฐานจรรยาบรรณ และลดปัญหาการถูกแทรกแซงจากภายนอกดังที่เกิดขึ้นในอดีต รวมถึงยังมี ดร.นันทพล กาญจนวัฒน์ เป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ที่จะเข้ามาช่วยสะสางคดีสำคัญที่เอสเอ็มอีแบงก์มีกับหน่วยงานภายนอก เพื่อให้มั่นใจว่าธนาคารดำเนินการไปด้วยความรอบคอบ และไม่เสียเปรียบ

นางสาลินีกล่าวเสริมว่า ที่ผ่านมาสถาบันการเงินแห่งนี้มักถูกมองจากสังคมภายนอกว่าถูกครอบงำโดยกลุ่มการเมืองเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ และเมื่อเปลี่ยนรัฐบาล แนวทางถูกต้องที่ดำเนินมาก็จะถูกเปลี่ยนแปลงโดยนักการเมือง แต่จากความพยายามของผู้บริหารชุดนี้ต้องการสร้างระบบที่ถูกต้อง ซึ่งได้รับการยอมรับจากสังคมภายนอก หากในอนาคตเกิดการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารหรือการเมืองใดๆ ก็ตาม หากจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงแนวทางไปสู่ความไม่ถูกต้องจะไม่ใช่เรื่องที่ง่ายอีกต่อไป และต้องตอบสังคมให้ได้ด้วย

นอกจากนั้น การแต่งตั้งพลโท พิศณุ พุทธวงศ์ ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกที่สังคมยอมรับ เข้ามาเป็นผู้ทรงคุณวุฒิด้านธรรมาภิบาล ก็เป็นหนึ่งในแนวทางให้มีคนกลางเข้ามาทำหน้าที่คอยสอดส่อง ช่วยป้องกันให้สถาบันการเงินแห่งนี้ปลอดจากการถูกกดดันโดยนักการเมืองเหมือนที่ผ่านมา

ประธานกรรมการเอสเอ็มอีแบงก์เผยด้วยว่า สำหรับผลการดำเนินงานของเอสเอ็มอีแบงก์ ณ 31 มกราคม 2558 นั้น ด้านการแก้หนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ( NPLs) มีตัวเลขลดลงประมาณ 288 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมกราคม 2558 เอสเอ็มอีแบงก์มี NPLs 31,672 ล้านบาท และลดลงจาก 35,167 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2557 เป็นจำนวน 3,495 ล้านบาท สาเหตุหลักเกิดจากทั้งการเร่งรัดประนอมหนี้ และการที่ดูแลลูกหนี้ได้ทั่วถึงทำให้ควบคุมการตกชั้นหนี้ได้ ธนาคารคาดหวังว่า NPLs ของธนาคารจะลดลงอย่างต่อเนื่องตามแผนฟื้นฟูที่วางไว้ และในเดือนมกราคม 2558 คณะกรรมการธนาคารได้อนุมัติขายทรัพย์สินที่เปิดประมูลขายเป็นกองแรกให้แก่ บริษัทศรีสวัสดิ์ ซึ่งเป็นผู้ยื่นประมูลราคาสูงที่สุดแล้ว เหลือเพียงขั้นตอนการส่งมอบเอกสารเท่านั้น

ผลการดำเนินงานด้านสินเชื่อ ในเดือนมกราคมธนาคารได้อนุมัติสินเชื่อรายย่อยตามพันธกิจเพิ่มประมาณ 1,000 ราย และสามารถเบิกจ่ายไปแล้วกว่า 1,931 ล้านบาท กระบวนการพิจารณาและเบิกจ่ายสินเชื่อของธนาคารเริ่มทำได้รวดเร็วกว่าเดิมมาก ลูกหนี้ที่ปล่อยกู้ทั้งหมดในเดือนมกราคม 2558 เป็นวงเงินต่ำกว่า 15 ล้านบาท และมุ่งเน้น SMEs รายย่อย และโอทอปในต่างจังหวัดเป็นหลัก ซึ่งจะช่วยให้ SMEs เหล่านี้มีเงินหมุนเวียนเพียงพอที่จะไม่ต้องลดการจ้างงาน และไม่ต้องลดการซื้อวัตถุดิบ ซึ่งเป็นผลิตผลในท้องถิ่น นอกจากนั้น ธนาคารได้เริ่มเดินหน้าให้สินเชื่อโครงการ “แม่ค้าคนดี” วงเงินมูลค่า 5,000 ล้านบาท โดยทำ MOU กับตลาดทั่วประเทศ เช่น ตลาดประตูน้ำขอนแก่น ตลาดเซฟวันโคราช ตลาดเจริญศรี อุบลราชธานี ป่าตองโอทอป ชอปปิ้งพาราไดซ์ ภูเก็ต โดยปล่อยกู้แม่ค้าเพื่อการเซ้งแผงค้าขาย หรือเป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ ซึ่งสามารถกู้ได้รายละไม่เกิน 5 ล้านบาท ทั้งหมดนี้ส่งผลให้เดือนมกราคม ธพว.มีผลกำไรสุทธิ 98 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าผลประกอบการจะเพิ่มขึ้นได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ปลายปีกว่า 1,200 ล้านบาท และสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ตามเป้าที่ 40,000 ล้านบาท

ด้านสินเชื่อใหม่ เอสเอ็มอีแบงก์มุ่งหน้าขยายสินเชื่อตามพันธกิจตามมติซูเปอร์บอร์ดเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2557 ให้ธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อให้ผู้ประกอบการรายย่อยวงเงินไม่เกิน 15 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะมีมติซูเปอร์บอร์ดออกมาเอสเอ็มอีแบงก์มีลูกค้าทั้งรายเดิม และรายใหม่มายื่นคำขอสินเชื่อวงเงินรวมเกินกว่า 15 ล้านบาทไว้อยู่ก่อนแล้ว ขณะนี้อยู่ในกระบวนการพิจารณาสินเชื่อของธนาคารหรือบางรายได้รับการอนุมัติเรียบร้อยแล้ว ธนาคารจึงได้ทำหนังสือขอผ่อนปรนไปยังซูเปอร์บอร์ด โดยผ่านสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ขอให้ธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อเกิน 15 ล้านบาทให้ลูกค้า 2 กลุ่ม คือ ลูกค้ารายใหม่ ที่ได้รับเรื่องไว้แล้วอยู่ระหว่างพิจารณาจากธนาคาร และบางรายได้รับการอนุมัติแล้ว แต่ธนาคารไม่สามารถเบิกจ่ายสินเชื่อให้ได้ ซึ่งลูกค้าเหล่านี้เป็นสินเชื่อที่มีคุณภาพดี วงเงินที่ขออยู่ในระดับ 30-40 ล้านบาท และส่วนใหญ่เป็นลูกค้าในเขตภูมิภาค ลูกค้าอีกกลุ่มหนึ่งที่ธนาคารได้ขอผ่อนผันไปคือ ลูกค้ารายเดิมที่มีคุณภาพดี มีการชำระเงินกู้จนมียอดคงค้างต่ำกว่าวงเงิน และต้องการเบิกเงินเพิ่มให้เต็มวงเงินตามที่ธนาคารได้ผูกพันไว้แล้วตั้งแต่แรก รอผลการพิจารณาผ่อนปรนของซูเปอร์บอร์ดอยู่

ขณะนี้มีลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งดังกล่าวโดยตรงได้ทำหนังสือร้องทุกข์มายังธนาคารเพื่อขอให้เร่งรัดพิจารณาให้ด้วย เพราะเป็นการยากที่จะไปขอใช้สินเชื่อจากธนาคารเอกชน หรือธนาคารอื่นได้ในเวลาอันสั้น

ด้านนายสุพจน์ อาวาส กรรมการผู้จัดการเอสเอ็มอีแบงก์ เปิดเผยว่า จากข่าวลือเกี่ยวกับประเด็นเอสเอ็มอีแบงก์จะถูกยุบไปควบรวมกับธนาคารออมสินนั้น ขอยืนยันว่าส่วนตัวไม่เคยได้รับข้อมูลดังกล่าวเลย และจากที่มีโอกาสได้เข้าพูดคุยกับผู้มีอำนาจโดยตรง ได้บอกว่า ขอให้ทางเอสเอ็มอีแบงก์ตั้งใจทำงาน โดยไม่ต้องหวั่นไหวกับข่าวลือที่เกิดขึ้น จึงเชื่อว่าข่าวดังกล่าวที่ออกมาเป็นเพียงความคิดเห็นของบุคคลบางคน และเป็นเพียงการโยนหินถามทางเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ในนามของผู้บริหารของเอสเอ็มอีแบงก์ อยากจะสื่อสารว่าภายใต้ทีมบริหารชุดใหม่นี้มีความตั้งใจอย่างเต็มเปี่ยมจะพาเอสเอ็มอีแบงก์ให้เดินต่อไปได้ ไม่จำเป็นต้องไปควบรวมกับใคร โดยขอเวลาพิสูจน์ตัวเอง 1 ปี หากเลยช่วงเวลาดังกล่าวไปแล้วไม่มีอะไรดีขึ้นพร้อมจะให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ ก็ตาม โดยจะไม่โวยวายหรืออิดออดใดๆ ทั้งสิ้น และส่วนตัวมั่นใจว่า จากความทุ่มเทของผู้บริหารชุดนี้ และพนักงานเอสเอ็มอีแบงก์ทุกคน มั่นใจว่าทำสำเร็จ ปัญหาเก่าๆ ที่ผ่านมาจะไม่เกิดขึ้นกับเอสเอ็มอีแบงก์อีกต่อไป

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEsผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *


นายสุพจน์ อาวาส กรรมการผู้จัดการ เอสเอ็มอีแบงก์
พลโท พิศณุ พุทธวงศ์   หัวหน้าฝ่ายเสนาธิการประจำประธานองคมนตรี  ในฐานะผู้ทรงคุณวุฒิด้านธรรมาภิบาล
กำลังโหลดความคิดเห็น