กรมพัฒนาธุรกิจการค้าชะลอแก้ไขกฎหมายต่างด้าว หวั่นกระทบการลงทุนจากต่างประเทศ และเพื่อให้สอดรับกับนโยบายส่งเสริมการลงทุนของรัฐบาล พร้อมเตรียมดันธุรกิจธนาคารพาณิชย์และธุรกิจประกันภัยออกจากบัญชีสาม เนื่องจากผู้ประกอบการไทยมีความพร้อมในการแข่งขัน เดินหน้าตรวจสอบนอมินี หวังสร้างธุรกิจสีขาวรับ AEC ปลายปี 58
นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ตามที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ทำการศึกษาทบทวนและรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและภาคธุรกิจเกี่ยวกับการแก้ไขพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542
โดยการทบทวนกฎหมายต่างด้าวฯ ฉบับดังกล่าวกรมฯ ได้คำนึงถึงเป้าหมายหลัก 4 ประการ ได้แก่ (1) ส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ (2) ลดขั้นตอนการประกอบธุรกิจของคนต่างชาติ (3) อำนวยความสะดวกทางการค้าการลงทุน และ (4) ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อผู้ประกอบธุรกิจรายเดิม
จากผลการศึกษาฯ การรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน และปัจจัยแวดล้อมทางเศรษฐกิจโดยรวม กรมพัฒนาธุรกิจการค้ามีความเห็นว่าควรชะลอการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายต่างด้าวฉบับดังกล่าวออกไปก่อน เนื่องจากเมื่อพิจารณาภาพรวมของเศรษฐกิจ ภาวการณ์ลงทุนของประเทศที่ยังต้องการนักลงทุนจากต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้จึงยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่จะแก้ไขกฎหมายฉบับนี้ ซึ่งเป็นกฎหมายที่มีผลต่อการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ และสอดรับกับนโยบายส่งเสริมการลงทุนของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม กรมฯ ยังคงดำเนินการทบทวนประเภทธุรกิจในบัญชีท้ายพระราชบัญญัติฯ อันเป็นการดำเนินการตามกฎหมายที่ให้มีการทบทวนทุกปี เพื่อให้การดำเนินธุรกิจเกิดความคล่องตัวมากที่สุด และสอดคล้องกับสภาพการค้าการลงทุนและสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
สำหรับการทบทวนแก้ไขธุรกิจในบัญชีแนบท้ายพระราชบัญญัติฯ กรมฯ กำลังจะเสนอต่อคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว โดยมีปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน ให้นำธุรกิจธนาคารพาณิชย์ และธุรกิจประกันภัยออกจากบัญชีสาม ท้ายพระราชบัญญัติฯ ซึ่งเป็นไปตามสรุปผลการศึกษาฯ เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีกฎหมายและหน่วยงานที่กำกับดูแลอยู่แล้ว คือ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ทั้งนี้ การนำธุรกิจทั้ง 2 ประเภทออกจากบัญชีสาม เนื่องจากเห็นว่าผู้ประกอบการไทยมีความพร้อมในการแข่งขัน ลดความซ้ำซ้อนในการขออนุญาตประกอบธุรกิจ และเป็นการส่งเสริมการลงทุนให้มีมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่ากรมฯ จะไม่ได้ดำเนินการแก้ไขกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวฯ แต่กรมฯ ก็จะใช้วิธีการบริหารจัดการเพื่อให้การทำธุรกิจมีความสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เช่น ลดขั้นตอนการออกหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เป็นต้น
นอกจากนี้ กรมฯ ยังคงเดินหน้าในการตรวจสอบตัวแทนอำพราง หรือนอมินี อย่างต่อเนื่องและจริงจังเพื่อสร้างธรรมาภิบาลแก่ภาคธุรกิจ และหวังให้ภาคธุรกิจเป็นธุรกิจสีขาวที่สามารถสร้างความน่าเชื่อถือและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีแก่ภาคธุรกิจโดยรวม ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อการตัดสินใจลงทุนของนักลงทุนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ รองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ปลายปี 2558 นี้
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SME ผู้จัดการออนไลน์” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *