xs
xsm
sm
md
lg

"เอสเอ็มอีแบงก์" ใจดี! พักจ่ายเงินต้น อุ้มธุรกิจท่องเที่ยวเจอพิษ ศก.รัสเซีย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นางสาลินี วังตาล ประธานคณะกรรมการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์)
"เอสเอ็มอีแบงก์" อุ้มลูกค้าธุรกิจท่องเที่ยวได้รับผลกระทบจากวิกฤต ศก.รัสเซีย พักจ่ายเงินต้น จ่ายแค่ดอกเบี้ย แนะปรับตัวหันมาทำตลาดลูกค้าในปท.แทน ตั้งเป้าปีนี้ เน้นปล่อยกู้รายย่อย สินเชื่อใหม่โต 4 หมื่นล้านบาท ยอดรวม 1.2 แสนล้านบาท

นางสาลินี วังตาล ประธานคณะกรรมการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) เปิดเผยว่า จากปัญหาเศรษฐกิจของรัสเซีย ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการท่องเที่ยวไทย ทั้งเมืองพัทยาและภูเก็ต โดยเฉพาะที่ภูเก็ตช่วงครึ่งปีหลังของ พ.ศ.2557 รายได้ลดลงถึง 50% ทำให้เอสเอ็มอีแบงก์ ได้ออกมาตรฐานช่วยเหลือลูกค้าธนาคารที่ประกอบธุรกิจการท่องเที่ยว ด้วยการขยายเวลาชำระเงินต้น ให้ชำระเพียงดอกเบี้ย เพื่อให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวอยู่ได้ ทั้งนี้ ขอแนะนำให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวว่า ควรจะหันมาทำตลาดให้บริการนักท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้น ด้วยการลดค่าบริการต่างๆ เพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤติช่วงนี้

นางสาลินี เผยด้วยว่า สำหรับยุทธศาสตร์ของเอสเอ็มอีแบงก์ในปีนี้ (2558) จะเน้นช่วยรายย่อย กำหนดมาตรฐานขชชัดเจนจะลดวงเงินปล่อยกู้ต่อรายให้น้อยลง ไม่เกิน 15 ล้านบาทต่อราย ซึ่งการที่ปล่อยกู้จำนวนน้อยลงดังกล่าว จะเป็นการลดแรงจูงใจของผู้มีอำนาจจะสั่งการให้ปล่อยกู้ รวมถึง ในอนาคตหากใครที่ขึ้นมามีอำนาจดูแลเอสเอ็มแบงก์ แล้วคิดจะมาปรับนโยบายนี้ ต้องตอบสังคมให้ได้ว่า เหตุใดจึงไม่เน้นปล่อยกู้รายย่อย เพราะนโยบายหลักของเอสเอ็มอีแบงก์ถูกตั้งมาเพื่อช่วยผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมโดยเฉพาะ ไม่ได้ตั้งมาเพื่อช่วยรายใหญ่

ทั้งนี้ ตั้งเป้าจะขยายสินเชื่อใหม่ ประมาณ 40,000 ล้านบาท ประกอบด้วย สินเชื่อ 9 เมนูคืนความสุขเอสเอ็มอี ที่เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา วงเงิน 20,000 ล้านบาท และตั้งวงเงินสินเชื่อเพิ่มอีก 20,000 ล้านบาท เป็นโครงการพิเศษ “สินเชื่อ SMEs คนดี” เป็นการให้สินเชื่อลูกค้าเดิมที่มีคุณภาพดีของธนาคาร และลูกค้าใหม่ที่มีศักยภาพ ดังนั้น ธนาคารคาดว่ายอดสินเชื่อคงค้างสุทธิสิ้นปี 2558 น่าจะอยู่ในระดับ 120,000 ล้านบาท เนื่องจากธนาคารตั้งเป้าจะปล่อยสินเชื่อใหม่ 40,000 ล้านบาทดังกล่าว และจะขายเอ็นพีแอลออกไปประมาณ 11,000 ล้านบาท ขณะเดียวกัน อาจมีลูกหนี้มาชำระคืน หรือรีไฟแนนซ์ไปอยู่กับธนาคารอื่น เป็นผลให้ยอดสินเชื่อสุทธิน่าจะเพิ่มขึ้น 30,000 ล้านบาท คือ จาก 90,000 ล้านบาทในสิ้นปี 2557 ปรับขึ้นมาอยู่ในระดับประมาณ 120,000 ล้านบาทในสิ้นปี 2558 หรือคิดเป็นอัตราเพิ่มประมาณ 33%

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SME ผู้จัดการออนไลน์” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *


กำลังโหลดความคิดเห็น