จ.สุราษฎร์ธานี ถือเป็นแหล่งเลี้ยง“หอยนางรม”สำคัญของประเทศ โดยปกติกว่าที่วัตถุดิบจะมาถึงผู้บริโภค จะมีพ่อค้าคนกลางเข้าไปรับซื้อจากผู้เลี้ยงแล้วส่งต่อไปตลาดสดค้าส่งต่างๆ แต่เมื่อหนุ่มลูกหม้อเข้ามาทำหน้าที่ตัวกลาง จัดระบบเสียใหม่ รับซื้อจากต้นทางส่งถึงปลายทางโดยตรง ด้วยแผนตลาดดังกล่าว ไม่ถึงปีหลังเข้าสู่วงการ สามารถก้าวเป็นผู้ส่งหอยนางรมรายใหญ่ที่สุดของประเทศ
สมเดช บุญชูวงศ์ หรือที่คนในวงการรู้จักในชื่อ‘บอย ซีฟู้ด’เล่าว่า ครอบครัวเป็นชาวสุราษฎร์ธานี โดยคุณแม่ (ศศิธร บุญชูวงศ์) ยึดอาชีพทำฟาร์มเลี้ยงหอยนางรมมากว่า 20 ปี ทว่า ส่วนตัวไม่เคยสนใจสานต่อ หันไปมุ่งมั่นทำธุรกิจผลิตกระเป๋าหนังกว่า 10 ปี จนเมื่อ1-2 ปีให้หลัง ประสบปัญหาถูกสินค้าจีน เวียดนามเลียนแบบขายตัดราคา กระทบยอดตกกว่า 70% จนต้องปิดกิจการพร้อมมีหนี้สินค้างอีกกว่า 3 ล้านบาท
จากวิกฤตดังกล่าว บอย บอกว่า เมื่อคิดหาช่องทางทำมาหากินใหม่ ทำให้ย้อนคิดถึงอาชีพที่ละเลยมาตลอด คือ ขายหอยนางรมจากฟาร์มของแม่นั่นเอง
“จากประสบการณ์ที่ผมเห็นขั้นตอนซื้อขายหอยนางรมตั้งแต่เด็ก ทำให้รู้ว่า กว่าหอยจะส่งถึงร้านอาหาร ต้องผ่านหลายขั้นตอน ทำให้ต้นทุนสูงขึ้น และใช้เวลานาน หอยเลยลดความสด และที่สำคัญ ร้านอาหารจะหาหอยนางรมตัวใหญ่สดๆ ได้ยาก ในเมื่อมีความพร้อมเรื่องวัตถุดิบอยู่แล้ว ผมเลยคิดจะมาทำหน้าที่นำหอยนางรมจากฟาร์มส่งตรงให้ร้านอาหารเลย” บอยเล่าแนวคิด และอธิบายวิธีหาตลาดว่า
“เริ่มแรกเอาหอยจากฟาร์มของแม่ ใส่กล่องโฟมหิ้วไปเสนอตามร้านอาหารซีฟู้ดดังๆ ขอคุยกับเจ้าของร้านโดยตรง เสนอว่า ผมสามารถหาหอยสดๆ ขนาดใหญ่มาส่งให้คุณถึงร้านได้ทุกวัน ในราคาที่ถูกกว่าคุณไปซื้อที่ตลาดประมาณ 10 % หลายร้านก็ให้ความสนใจ ทดลองสั่งออเดอร์” สมเดช กล่าว
ในเดือนแรกขายได้กว่า 5,000 ตัว จากนั้นเริ่มมีออเดอร์มากขึ้นเรื่อยๆ หนุ่มคนขยันเลยเห็นช่องทางต่อยอดธุรกิจด้วยการสร้างเครือข่ายรับซื้อหอยนางรมจากฟาร์มอื่นๆ ใน จ.สุราษฎร์ธานี โดยวิธีจูงใจให้ราคาที่สูงกว่าตลาด ประมาณ 10% และที่สำคัญ ซื้อแล้วจ่ายด้วย“เงินสด”ทันที ทำให้ผู้เลี้ยงเกิดความพึงพอใจ เลือกที่จะมาขายให้แก่เขาแทนรายเดิม
“ที่ผ่านมาคนเลี้ยงกว่าจะได้เงินมันค่อนข้างยุ่งยาก บางรายก็โดนโกง ส่วนผมเป็นคนท้องถิ่น เมื่อมารับซื้อเอง คนเลี้ยงก็ไว้วางใจ เพราะรู้จักผมกับแม่ดี และผมก็ใช้วิธีจ่ายสดและให้ราคาดีกว่าตลาด ทำให้ผู้เลี้ยงพอใจ ทุกวันนี้มีฟาร์มเลี้ยงกว่า 20 เจ้าที่ส่งหอยให้ผม ซึ่งผมจะมีเงื่อนไขว่า จะรับซื้อเฉพาะหอยขนาดใหญ่ คัดคุณภาพเท่านั้น” บอย เสริม
เพราะซื้อจากฟาร์มเลี้ยงส่งร้านอาหารได้โดยตรง นี่เป็นจุดสำคัญทำให้ตัดต้นทุนไปได้มาก หอยนางรมที่ได้ จึงสดกว่าและถูกกว่าท้องตลาด ส่งให้ตลาดตอบรับอย่างดีขึ้น ออเดอร์เพิ่มต่อเนื่อง จากที่เริ่มในเดือนตุลาคม 2556 เมื่อถึงพฤษภาคม2557 ที่ผ่านมา ยอดส่งกว่า 70,000 ตัวต่อเดือน เน้นหอยขนาดใหญ่ ประมาณเท่ากำปั้น ตัวละ 25-40 บาท (แล้วแต่ขนาด) ยอดส่งขั้นต่ำครั้งละ50 ตัวขึ้นไป นับเป็นผู้ส่งหอยนางรมในประเทศ ที่มีปริมาณมากสุด กระจายส่งตามร้านอาหารแนวซีฟู้ดเจ้าดังทั่วประเทศกว่า 50 แห่ง โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และพัทยา
ด้านระบบบริหารจัดการให้ส่งได้รวดเร็วและทุกวัน จะมีตารางการเลี้ยงหอยนางรมของฟาร์มแต่ละแห่งเพื่อรู้ถึงปริมาณพร้อมส่ง ควบคู่กับตารางกำหนดส่งสินค้าให้ร้านอาหารแต่ละแห่ง ตัวอย่างเช่น หากจะส่งให้ร้านอาหารแห่งหนึ่งในวันเสาร์ จะสั่งให้เริ่มกระบวนการเก็บหอยในเช้าวันศุกร์ แล้วนำมาแยกคัดขนาด ต่อด้วยบรรจุลงกล่องโฟม จากนั้น ส่งสินค้าด้วยบริการบริษัทขนส่ง ไปถึงลูกค้าในวันรุ่งขึ้น เท่ากับหลังเก็บจะถึงร้านอาหารได้ในเวลาประมาณ 2 วัน
บอย บอกด้วยว่า นอกจากหอยนางรมแล้ว ยังใช้รูปแบบธุรกิจเดียวกัน รับซื้อวัตถุดิบของทะเลอื่นๆ จากฟาร์มเลี้ยงส่งให้ร้านอาหารด้วยไม่ว่าจะเป็นปู กุ้ง และปลา ฯลฯ อย่างไรก็ตาม ปริมาณการส่งของทะเลอื่นๆดังกล่าวยังถือว่าเป็นเพียงรายเล็กๆ เมื่อเทียบกับรายอื่นที่ทำอยู่แล้ว ดังนั้น พยายามเน้นส่งหอยนางรมเป็นหลักสำคัญมากกว่า เพราะมีความพร้อมทั้งด้านวัตถุดิบ เครือข่ายและเป็นที่รู้จักของลูกค้าดีอยู่แล้ว
ส่วนปัจจัยเสี่ยงของธุรกิจนี้อยู่ที่ใช้เงินหมุนเวียนค่อนข้างสูง ต่อเดือนหลักล้านบาท เพราะต้องจ่ายเงินสดให้แก่ผู้เลี้ยงทันที ดังนั้น การส่งของให้แก่ร้านอาหาร ใช้วิธีเก็บเงินสดเช่นกัน เพื่อจะมีทุนนำไปหมุนเวียนซื้อวัตถุดิบต่อไป นอกจากนั้น หากเกิดมรสุมจะทำให้มีผลผลิตน้อย โดยมากภาวะดังกล่าวจะเกิดในช่วงเดือนตุลาคมถึงธันวาคมของทุกปี อย่างไรก็ตาม ด้วยฟาร์มเครือข่ายที่มีอยู่ในมือค่อนข้างมาก พยายามบริหารจัดการให้ส่งวัตถุดิบแก่ลูกค้าได้ไม่ขาด
จากก่อนหน้ามีหนี้อยู่ประมาณ 3 ล้านบาท สมเดช บอกว่า หลังจากทำอาชีพนี้มาแค่ประมาณ 8 เดือน เกือบปลดหนี้ได้หมดแล้ว เป็นรายได้ดีกว่าที่คาดหวังไว้ในตอนแรกมาก ส่วนแผนในอนาคต ตั้งใจจะขยายเครือข่ายทั้งส่วนฟาร์มเลี้ยง ควบคู่หาลูกค้ารายใหม่เพิ่มขึ้นด้วย
โทร.08-1423-6686
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SME ผู้จัดการออนไลน์" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *