ข่าวในประเทศ- “อินเดียน-วิคตอรี่” สานต่อตำนานและความคลาสสิกกว่า 1 ศตวรรษ นำเข้าแบรนด์สองล้อเมืองลุงแซม INDIAN MOTORCYCLE บุกตลาดเมืองไทยรวดเดียว 3 รุ่น เคาะราคาเริ่มต้น1.47-1.69ล้านบาท ตั้งเป้าจบปี 2557 ขายได้ 60 คัน พร้อมเร่งขยายเครือข่ายรับการเปิด AEC ภายใน 5 ปี ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศ
ณัฐพล ไตรณัฐี กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเดียน วิคตอรี่ มอเตอร์ไซเคิล จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทมีความพร้อมในการทำตลาด INDIAN MOTORCYCLE ซึ่งเป็นรถบิ๊กไบค์ที่มีความเก่าแก่ระดับตำนาน เป็นที่รู้จักและนิยมอย่างแพร่หลายในกลุ่มผู้หลงใหลสองล้อทั่วโลกนับตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 1901 และในวันนี้ INDIAN ได้กลับมาสร้างประวัติศาสตร์อีกครั้งในเมืองไทย เพื่อตอบรับกระแสความต้องการผู้บริโภค ถือเป็นการต่อยอดความสำเร็จอีกครั้งของบริษัท หลังจากบุกเบิกตลาดด้วยการแนะนำ VICTORY MOTORCYCLES บิ๊กไบค์สัญชาติอเมริกันเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งรถทั้งสองแบรนด์นี้วิจัยพัฒนาและทำตลาด โดย บริษัท โพลาริส อินดัสทรีส์ จำกัด (Polaris Industries) ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยใช้งบลงทุนกว่า 100 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างอาคารโชว์รูมและศูนย์บริการ บนพื้นที่ 1 ไร่เศษ (ไม่รวมที่ดิน) ถนนพัฒนาการ (ซอยพัฒนาการ 76) ครอบคลุมการบริการต่างๆ อาทิ การสต็อกรถ อะไหล่-อุปกรณ์ตกแต่ง คอลเลคชั่นเครื่องแต่งกายและกิจกรรมการขับขี่ทุกรูปแบบ รวมทั้ง HDP Cafe’ หรือมุมพบปะสังสรรค์ บริการกาแฟและเครื่องดื่ม
“ปีที่แล้วแนะนำรถบิ๊กไบค์ VICTORY MOTORCYCLES ซึ่งเป็นแผนที่ได้กำหนดไว้แต่แรก เพื่อรอความพร้อมด้านต่างๆ ทั้งในส่วนของโชว์รูม-ศูนย์บริการ การบริการหลังการขายและกิจกรรมต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้ที่จะมาขับขี่รวมกับเรา และรองรับการทำตลาดรถบิ๊กไบค์ระดับตำนาน INDIAN MOTORCYCLE ที่วันนี้ได้นำเข้ารถระดับไฮเอนด์ "2014 INDIAN CHIEF" มาจำหน่ายพร้อมกัน 3 รุ่น ประกอบด้วย INDIAN CHIEF CLASSIC ราคา 1,475,000 บาท INDIAN CHIEF VINTAGE ราคา 1,585,000 บาท และ INDIAN CHIEFTAIN ราคา 1,695,000 บาท โดยเจาะตลาดกลุ่มนักขับขี่ที่มีช่วงอายุ 30-65 ปี ชอบขับขี่ท่องเที่ยว ชอบสะสม หลงใหลในตำนานและความคลาสสิกของ INDIAN MOTORCYCLE ที่มีมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1901 ขณะที่ VICTORY เน้นเจาะกลุ่มนักขับขี่รุ่นใหม่วัย 25-55 ปี”
สำหรับการบุกเบิกเปิดตลาด INDIAN MOTORCYCLE อย่างเป็นทางการในครั้งนี้ บริษัท อินเดียน วิคตอรี่ มอเตอร์ไซเคิล จำกัด ได้นำเข้ารถบิ๊กไบค์ “2014 INDIAN CHIEF” จากสหรัฐอเมริกา จำนวน 3 รุ่น โดยทุกมาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ใหม่ล่าสุด Thunder Stroke 111 ขนาดความจุ 1,811 ซี.ซี. สามารถผลิตแรงบิดสูงสุดที่ 102.4 ฟุต-ปอนด์ ส่งถ่ายพละกำลังผ่านระบบเกียร์ 6 สปีด ให้กำลังดีแม้จะขับขี่ในรอบความเร็วเครื่องต่ำสามารถบิดเพียงกระชากความเร็วได้ดังใจ โดยเครื่องยนต์รุ่นนี้ได้รับการทดสอบเพื่อพิสูจน์สมรรถนะผ่านการวิ่งระยะทางกว่า 2 ล้านไมล์ ทั้งบนถนนจริงและในห้องทดสอบ จึงมั่นใจในประสิทธิภาพของความทนทานแข็งแกร่งได้อย่างเต็มเปี่ยม พร้อมการรับประกันตัวรถนานถึง 2 ปี หรือระยะทาง 20,000 กิโลเมตร (ขึ้นอยู่กับระยะใดถึงกำหนดก่อน) เพื่อรองรับทุกไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของผู้ขับขี่ ประกอบด้วย
INDIAN CHIEF CLASSIC สุดยอดครุยเซอร์ทรงพลัง ที่เกิดจากการผสมผสานอย่างลงตัวของเทคโนโลยีแห่งการขับขี่สมัยใหม่ ผนวกเข้ากับจิตวิญญาณอันเป็นตำนานของ INDIAN เกิดเป็นรูปลักษณ์อันสวยงามลงตัวโดดเด่นด้วยบังโคลนแบบคลุมล้อ เบาะหนังแท้ แผงคอนโซลขนาดใหญ่ติดตั้งเข้ากับถังน้ำมันทรงหยดน้ำ (Tear-Drop) และอัตลักษณ์อันทรงคุณค่าเครื่องหมายการค้าหัวหน้าชนเผ่าอินเดียนแดง (War Bonnet) บนบังโคลนหน้าของตัวรถ และยังมาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานคุณภาพสูงครบครัน เพื่อสุนทรียภาพและความมั่นใจในการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นระบบสตาร์ทเครื่องแบบไม่ใช้กุญแจ ระบบเบรก ABS ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบ Cruise Control คันเร่งไฟฟ้า ท่อไอเสีย True Dual ฝาครอบคาลิปเปอร์ และอีกหลายรายการ โดย INDIAN CHIEF CLASSIC มีราคาจำหน่าย 1,475,000 บาท
INDIAN CHIEF VINTAGE รถสไตล์ Soft Bagger ที่พัฒนาจากดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของ INDIAN มารวมเป็นหนึ่งเดียวกับอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ เพื่อมอบประสบการณ์ขับขี่ที่ไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็นเบาะหนังและกระเป๋าหนังด้านข้างสำหรับใส่สัมภาระ โดยสามารถถอดประกอบได้อย่างง่ายดายในเวลาไม่กี่วินาที ปลายบังโคลนตกแต่งโครเมียม นอกจากนี้ยังติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานจากโรงงานเช่นเดียวกับ INDIAN CHIEF CLASSIC อาทิ บังโคลนแบบคลุมล้อ ล้อซี่ลวด ยางขอบขาว แผงคอนโซลสีโครเมียมที่ติดตั้งเข้ากับตัวถังน้ำมัน โดย INDIAN CHIEF VINTAGE มีราคาจำหน่าย 1,585,000 บาท
INDIAN CHIEFTAIN รถสไตล์ Hard Bagger รุ่นแรกในประวัติศาสตร์ของ INDIAN MOTORCYCLE ที่มาพร้อมความทันสมัย และสามารถมอบความสะดวกสบายเพื่อการขับขี่ที่เหนือระดับไปอีกขั้น โดยติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานสำคัญคือ กระเป๋าสัมภาระแบบ Hard Baggers สามารถเปิด-ปิดได้ด้วยรีโมทคอนโทรล โดดเด่นเหนือระดับด้วยระบบเครื่องเสียงคุณภาพสูง พร้อมระบบบลูทูธไว้รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน โดย INDIAN CHIEFTAIN มีราคาจำหน่าย 1,695,000 บาท
ด้านแผนธุรกิจในปีนี้ อินเดียน วิคตอรี่ มอเตอร์ไซเคิล ตั้งเป้าขยายเครือข่ายให้ครอบคลุมทุกภูมิภาคของไทย เพื่อให้การบริการทั้งก่อนและหลังการขายสามารถตอบสนองความต้องการและสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคสูงสุด ล่าสุดได้เจรจากับนักธุรกิจที่มีใจรักในการขับขี่และสนใจทำธุรกิจหลายรายแล้ว โดยจะเปิดดีลเลอร์ที่ภาคใต้ 1 แห่ง ภาคอีสาน 1 แห่ง เพื่อรองรับการเปิดตลาดการค้าเสรีอาเซียน (AEC)
“เมื่อเกิด AEC ภาคใต้จะเป็นจุดเชื่อมต่อไปยังมาเลเซียและสิงคโปร์ ภาคอีสานจะเชื่อมต่อกับลาว กัมพูชา เวียดนาม และจีน จะส่งผลให้การเติบโตทางเศรษฐกิจมีสูง โอกาสการทำตลาดของเราจะเติบโตตามไปด้วย ภายใน 5 ปีจากนี้จะเปิดดีลเลอร์ครบทุกภูมิภาค ขณะที่ยอดขาย INDIAN ปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 60 คัน โดยรุ่น CHIEF VINTAGE จะได้รับความสนใจสูงสุด เพราะมีราคาเหมาะสม มีอุปกรณ์ให้ครบ เช่น กระเป๋าข้างสีน้ำตาล กระจกบังลมหน้า (Windshield) กันล้ม (Highway Bar) ล่าสุดขายได้แล้วกว่า 20 คัน ขณะที่ VICTORY ตั้งเป้าขายปีนี้ไว้ที่ 20 คัน เนื่องจากเป็นโปรดักท์ใหม่เพิ่งทำตลาดในอเมริกาเมื่อปี 1998 ต่างจาก INDIAN ที่มีตำนานมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1901 ไบค์เกอร์ชาวไทยให้การยอมรับมากกว่า”
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring
ณัฐพล ไตรณัฐี กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเดียน วิคตอรี่ มอเตอร์ไซเคิล จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทมีความพร้อมในการทำตลาด INDIAN MOTORCYCLE ซึ่งเป็นรถบิ๊กไบค์ที่มีความเก่าแก่ระดับตำนาน เป็นที่รู้จักและนิยมอย่างแพร่หลายในกลุ่มผู้หลงใหลสองล้อทั่วโลกนับตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 1901 และในวันนี้ INDIAN ได้กลับมาสร้างประวัติศาสตร์อีกครั้งในเมืองไทย เพื่อตอบรับกระแสความต้องการผู้บริโภค ถือเป็นการต่อยอดความสำเร็จอีกครั้งของบริษัท หลังจากบุกเบิกตลาดด้วยการแนะนำ VICTORY MOTORCYCLES บิ๊กไบค์สัญชาติอเมริกันเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งรถทั้งสองแบรนด์นี้วิจัยพัฒนาและทำตลาด โดย บริษัท โพลาริส อินดัสทรีส์ จำกัด (Polaris Industries) ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยใช้งบลงทุนกว่า 100 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างอาคารโชว์รูมและศูนย์บริการ บนพื้นที่ 1 ไร่เศษ (ไม่รวมที่ดิน) ถนนพัฒนาการ (ซอยพัฒนาการ 76) ครอบคลุมการบริการต่างๆ อาทิ การสต็อกรถ อะไหล่-อุปกรณ์ตกแต่ง คอลเลคชั่นเครื่องแต่งกายและกิจกรรมการขับขี่ทุกรูปแบบ รวมทั้ง HDP Cafe’ หรือมุมพบปะสังสรรค์ บริการกาแฟและเครื่องดื่ม
“ปีที่แล้วแนะนำรถบิ๊กไบค์ VICTORY MOTORCYCLES ซึ่งเป็นแผนที่ได้กำหนดไว้แต่แรก เพื่อรอความพร้อมด้านต่างๆ ทั้งในส่วนของโชว์รูม-ศูนย์บริการ การบริการหลังการขายและกิจกรรมต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้ที่จะมาขับขี่รวมกับเรา และรองรับการทำตลาดรถบิ๊กไบค์ระดับตำนาน INDIAN MOTORCYCLE ที่วันนี้ได้นำเข้ารถระดับไฮเอนด์ "2014 INDIAN CHIEF" มาจำหน่ายพร้อมกัน 3 รุ่น ประกอบด้วย INDIAN CHIEF CLASSIC ราคา 1,475,000 บาท INDIAN CHIEF VINTAGE ราคา 1,585,000 บาท และ INDIAN CHIEFTAIN ราคา 1,695,000 บาท โดยเจาะตลาดกลุ่มนักขับขี่ที่มีช่วงอายุ 30-65 ปี ชอบขับขี่ท่องเที่ยว ชอบสะสม หลงใหลในตำนานและความคลาสสิกของ INDIAN MOTORCYCLE ที่มีมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1901 ขณะที่ VICTORY เน้นเจาะกลุ่มนักขับขี่รุ่นใหม่วัย 25-55 ปี”
สำหรับการบุกเบิกเปิดตลาด INDIAN MOTORCYCLE อย่างเป็นทางการในครั้งนี้ บริษัท อินเดียน วิคตอรี่ มอเตอร์ไซเคิล จำกัด ได้นำเข้ารถบิ๊กไบค์ “2014 INDIAN CHIEF” จากสหรัฐอเมริกา จำนวน 3 รุ่น โดยทุกมาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ใหม่ล่าสุด Thunder Stroke 111 ขนาดความจุ 1,811 ซี.ซี. สามารถผลิตแรงบิดสูงสุดที่ 102.4 ฟุต-ปอนด์ ส่งถ่ายพละกำลังผ่านระบบเกียร์ 6 สปีด ให้กำลังดีแม้จะขับขี่ในรอบความเร็วเครื่องต่ำสามารถบิดเพียงกระชากความเร็วได้ดังใจ โดยเครื่องยนต์รุ่นนี้ได้รับการทดสอบเพื่อพิสูจน์สมรรถนะผ่านการวิ่งระยะทางกว่า 2 ล้านไมล์ ทั้งบนถนนจริงและในห้องทดสอบ จึงมั่นใจในประสิทธิภาพของความทนทานแข็งแกร่งได้อย่างเต็มเปี่ยม พร้อมการรับประกันตัวรถนานถึง 2 ปี หรือระยะทาง 20,000 กิโลเมตร (ขึ้นอยู่กับระยะใดถึงกำหนดก่อน) เพื่อรองรับทุกไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของผู้ขับขี่ ประกอบด้วย
INDIAN CHIEF CLASSIC สุดยอดครุยเซอร์ทรงพลัง ที่เกิดจากการผสมผสานอย่างลงตัวของเทคโนโลยีแห่งการขับขี่สมัยใหม่ ผนวกเข้ากับจิตวิญญาณอันเป็นตำนานของ INDIAN เกิดเป็นรูปลักษณ์อันสวยงามลงตัวโดดเด่นด้วยบังโคลนแบบคลุมล้อ เบาะหนังแท้ แผงคอนโซลขนาดใหญ่ติดตั้งเข้ากับถังน้ำมันทรงหยดน้ำ (Tear-Drop) และอัตลักษณ์อันทรงคุณค่าเครื่องหมายการค้าหัวหน้าชนเผ่าอินเดียนแดง (War Bonnet) บนบังโคลนหน้าของตัวรถ และยังมาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานคุณภาพสูงครบครัน เพื่อสุนทรียภาพและความมั่นใจในการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นระบบสตาร์ทเครื่องแบบไม่ใช้กุญแจ ระบบเบรก ABS ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบ Cruise Control คันเร่งไฟฟ้า ท่อไอเสีย True Dual ฝาครอบคาลิปเปอร์ และอีกหลายรายการ โดย INDIAN CHIEF CLASSIC มีราคาจำหน่าย 1,475,000 บาท
INDIAN CHIEF VINTAGE รถสไตล์ Soft Bagger ที่พัฒนาจากดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของ INDIAN มารวมเป็นหนึ่งเดียวกับอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ เพื่อมอบประสบการณ์ขับขี่ที่ไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็นเบาะหนังและกระเป๋าหนังด้านข้างสำหรับใส่สัมภาระ โดยสามารถถอดประกอบได้อย่างง่ายดายในเวลาไม่กี่วินาที ปลายบังโคลนตกแต่งโครเมียม นอกจากนี้ยังติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานจากโรงงานเช่นเดียวกับ INDIAN CHIEF CLASSIC อาทิ บังโคลนแบบคลุมล้อ ล้อซี่ลวด ยางขอบขาว แผงคอนโซลสีโครเมียมที่ติดตั้งเข้ากับตัวถังน้ำมัน โดย INDIAN CHIEF VINTAGE มีราคาจำหน่าย 1,585,000 บาท
INDIAN CHIEFTAIN รถสไตล์ Hard Bagger รุ่นแรกในประวัติศาสตร์ของ INDIAN MOTORCYCLE ที่มาพร้อมความทันสมัย และสามารถมอบความสะดวกสบายเพื่อการขับขี่ที่เหนือระดับไปอีกขั้น โดยติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานสำคัญคือ กระเป๋าสัมภาระแบบ Hard Baggers สามารถเปิด-ปิดได้ด้วยรีโมทคอนโทรล โดดเด่นเหนือระดับด้วยระบบเครื่องเสียงคุณภาพสูง พร้อมระบบบลูทูธไว้รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน โดย INDIAN CHIEFTAIN มีราคาจำหน่าย 1,695,000 บาท
ด้านแผนธุรกิจในปีนี้ อินเดียน วิคตอรี่ มอเตอร์ไซเคิล ตั้งเป้าขยายเครือข่ายให้ครอบคลุมทุกภูมิภาคของไทย เพื่อให้การบริการทั้งก่อนและหลังการขายสามารถตอบสนองความต้องการและสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคสูงสุด ล่าสุดได้เจรจากับนักธุรกิจที่มีใจรักในการขับขี่และสนใจทำธุรกิจหลายรายแล้ว โดยจะเปิดดีลเลอร์ที่ภาคใต้ 1 แห่ง ภาคอีสาน 1 แห่ง เพื่อรองรับการเปิดตลาดการค้าเสรีอาเซียน (AEC)
“เมื่อเกิด AEC ภาคใต้จะเป็นจุดเชื่อมต่อไปยังมาเลเซียและสิงคโปร์ ภาคอีสานจะเชื่อมต่อกับลาว กัมพูชา เวียดนาม และจีน จะส่งผลให้การเติบโตทางเศรษฐกิจมีสูง โอกาสการทำตลาดของเราจะเติบโตตามไปด้วย ภายใน 5 ปีจากนี้จะเปิดดีลเลอร์ครบทุกภูมิภาค ขณะที่ยอดขาย INDIAN ปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 60 คัน โดยรุ่น CHIEF VINTAGE จะได้รับความสนใจสูงสุด เพราะมีราคาเหมาะสม มีอุปกรณ์ให้ครบ เช่น กระเป๋าข้างสีน้ำตาล กระจกบังลมหน้า (Windshield) กันล้ม (Highway Bar) ล่าสุดขายได้แล้วกว่า 20 คัน ขณะที่ VICTORY ตั้งเป้าขายปีนี้ไว้ที่ 20 คัน เนื่องจากเป็นโปรดักท์ใหม่เพิ่งทำตลาดในอเมริกาเมื่อปี 1998 ต่างจาก INDIAN ที่มีตำนานมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1901 ไบค์เกอร์ชาวไทยให้การยอมรับมากกว่า”
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring