ASTVผู้จัดการรายวัน-ตลาดสองล้อหรูเติบโตแรงสวนทางเศรษฐกิจ “อินเดียน-วิคตอรี่” เผยโฉมโมเดลใหม่สัญชาติอเมริกัน 3 รุ่น เปิดราคา 1.47-1.69 ล้านบาท หวังเจาะกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ พร้อมทุ่มกว่า 100 ล้านบาท ผุดโชว์รูมและศูนย์บริการแห่งแรกในเมืองไทย ตั้งเป้า 5 ปีขยายครบทั่วประเทศ ด้านเวสป้าเล็งส่งรถใหม่รุกตลาดทุกไตรมาส ล่าสุดเปิดตัวรุ่นพรีมาเวร่า เคาะราคาเริ่มต้น 95,400 บาท ควบคู่การเพิ่มเครือข่าย ลั่นปีนี้โกยยอดทะลุหมื่นคัน
นายณัฐพล ไตรณัฐี กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเดียน วิคตอรี่ มอเตอร์ไซเคิล จำกัด เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ขัดแย้งในปัจจุบัน จะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่หรือบิ๊กไบค์ในเมืองไทยมากนัก เนื่องจากกำลังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง แม้ว่าไตรมาสแรกที่ผ่านมา ยอดขายตลาดรวมจะลดลงไปประมาณ 20% เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่เชื่อว่ายอดขายเฉลี่ยทั้งปีจะมีอัตราการเติบโตที่ดีขึ้น
“สถิติการจดทะเบียนรถประเภทนี้จากกรมขนส่งทางบกปีที่ผ่านมา มีปริมาณสูงถึง14,000 คัน และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 16,000 คัน ในปีนี้ ส่วนกลุ่มเป้าหมายของบริษัทต้องการเจาะตลาดเครื่องยนต์ไม่ต่ำกว่า 1,800 ซีซี. ซึ่งมีอยู่ประมาณ 1,000 คัน จากตัวเลขยอดขายรวมทั้งหมด โดยปีที่แล้วได้แนะนำรถบิ๊กไบค์วิคตอรี่ (VICTORY) เป็นแผนที่ได้กำหนดไว้แต่แรก เพื่อรอความพร้อมด้านต่างๆ ทั้งในส่วนของโชว์รูม-ศูนย์บริการ การบริการหลังการขายและกิจกรรมต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ให้กับลูกค้า และวันนี้ได้เพิ่มอีกหนึ่งตัวเลือกระดับไฮเอนด์เช่นกัน สำหรับยี่ห้ออินเดียน (INDIAN) ที่มีความเก่าแก่และเป็นที่รู้จักของนักบิดทั่วโลกตั้งแต่ปี 1901 ซึ่งรถทั้งสองแบรนด์นี้วิจัยพัฒนาและทำตลาดโดย บริษัท โพลาริส อินดัสทรีส์ จำกัด (Polaris Industries) ประเทศสหรัฐอเมริกา”
สำหรับโมเดลใหม่ อินเดียน โฉมปี 2014 ประกอบด้วย CHIEF CLASSIC ราคา 1,475,000 บาท, CHIEF VINTAGE ราคา 1,585,000 บาท และ CHIEFTAIN ราคา 1,695,000 บาท โดยทั้ง 3 รุ่น เป็นรถสไตล์ครุยเซอร์ มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ Thunder Stroke 111 ขนาดความจุ 1,811 ซีซี. ให้แรงบิดสูงสุด 102.4 ฟุต-ปอนด์ ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์ 6 สปีด
นายณัฐพล กล่าวต่อว่า เป้าหมายการจำหน่ายในปีนี้ อินเดียน 60 คัน วิคตอรี่ 20 คัน เชื่อว่าสามารถทำได้เนื่องจากความพร้อมของโชว์รูมและศูนย์บริการแห่งแรกในเมืองไทย ซึ่งใช้งบลงทุนกว่า 100 ล้านบาท ย่านถนนพัฒนาการ มีกำหนดเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 26 เม.ย.นี้ ครอบคลุมการบริการต่างๆ ครบวงจร อาทิ คาเฟ่-ร้านอาหาร การสต็อกรถ อะไหล่-อุปกรณ์ตกแต่ง คอลเลกชั่นเครื่องแต่งกาย และกิจกรรมการขับขี่ทุกรูปแบบ โดยพร้อมจะขยายโชว์รูมและศูนย์บริการให้ครบทั่วทุกภูมิภาคของไทย ภายใน 5 ปีนับจากนี้
นางพรนฎา เตชะไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายรถจักรยานยนต์สกู๊ตเตอร์พรีเมียมยี่ห้อ “เวสป้า” (Vespa) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดรถจักรยานยนต์ในไทย ช่วงไตรมาสแรกปีนี้ลดลงประมาณ 20% แต่เวสป้ามียอดขายเพิ่มขึ้นประมาณ 10% หรือทำได้กว่า 2,000 คัน ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับกลยุทธ์ทางการตลาด ไม่ว่าจะผ่านกิจกรรมหน้าร้าน หรือเจาะตรงเข้าหาลูกค้ามากขึ้น หลังจากในช่วงปลายปีที่ผ่านมาได้รับผลกระทบทางการเมืองและเศรษฐกิจ จนทำให้ยอดขายหลุดเป้าหมายไปกว่าพันคัน
“รถจักรยานยนต์กลุ่มพรีเมียม หรือรถราคามากกว่า 5 หมื่นบาทขึ้นไป ยังคงมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง อาจจะได้รับผลกระทบทางการเมืองและเศรษฐกิจบ้าง แต่ความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้ยังมีสูงอยู่ เพียงแต่ต้องปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสม จนทำให้เวสป้ารักษาการเติบโตในช่วงไตรมาสแรกไว้ได้ และจากนี้ไปเวสป้าจะมีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่และรุ่นตกแต่งพิเศษ เฉลี่ยไตรมาสละ 2 รุ่น โดยล่าสุดเปิดตัวรถรุ่นเวสป้า พรีมาเวร่า และยังเพิ่มตัวเลือกให้กับรุ่นจีทีเอส ประกอบกับปีนี้จะขยายตัวแทนจำหน่ายเพิ่มเป็น 75 แห่ง ซึ่งจากการดำเนินกลยุทธ์ดังกล่าว จึงมั่นใจจะทำยอดขายสกู๊ดเตอร์เวสป้าปีนี้ได้ 11,000 คัน มากกว่าปีที่ผ่านมาที่มียอดขายกว่า 7,000 คัน หรือมีจำนวนรถจดทะเบียนไปทั้งสิ้นกว่า 6,000 คัน”
สำหรับเวสป้า พรีมาเวร่า (Vespa Primavera) เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงมากในช่วง 1968 หรือปลายยุค 60 โดยได้ถูกนำมาพัฒนาเป็นโมเดลใหม่สู่ตลาดล่าสุด ซึ่งพรีมาเวร่าเปิดตัวทำตลาดทั้งรุ่น 125 ซีซี ราคา 95,400 บาท และรุ่น 150 ซีซี ราคา 115,900 บาท ขณะที่อีกรุ่นเวสป้า จีทีเอส 150 เป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ชื่นชอบรุ่นจีทีเอส300 ก่อนหน้านี้ โดยจีทีเอส150 มีราคาอยู่ที่ 139,900 บาท
นายณัฐพล ไตรณัฐี กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเดียน วิคตอรี่ มอเตอร์ไซเคิล จำกัด เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ขัดแย้งในปัจจุบัน จะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่หรือบิ๊กไบค์ในเมืองไทยมากนัก เนื่องจากกำลังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง แม้ว่าไตรมาสแรกที่ผ่านมา ยอดขายตลาดรวมจะลดลงไปประมาณ 20% เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่เชื่อว่ายอดขายเฉลี่ยทั้งปีจะมีอัตราการเติบโตที่ดีขึ้น
“สถิติการจดทะเบียนรถประเภทนี้จากกรมขนส่งทางบกปีที่ผ่านมา มีปริมาณสูงถึง14,000 คัน และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 16,000 คัน ในปีนี้ ส่วนกลุ่มเป้าหมายของบริษัทต้องการเจาะตลาดเครื่องยนต์ไม่ต่ำกว่า 1,800 ซีซี. ซึ่งมีอยู่ประมาณ 1,000 คัน จากตัวเลขยอดขายรวมทั้งหมด โดยปีที่แล้วได้แนะนำรถบิ๊กไบค์วิคตอรี่ (VICTORY) เป็นแผนที่ได้กำหนดไว้แต่แรก เพื่อรอความพร้อมด้านต่างๆ ทั้งในส่วนของโชว์รูม-ศูนย์บริการ การบริการหลังการขายและกิจกรรมต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ให้กับลูกค้า และวันนี้ได้เพิ่มอีกหนึ่งตัวเลือกระดับไฮเอนด์เช่นกัน สำหรับยี่ห้ออินเดียน (INDIAN) ที่มีความเก่าแก่และเป็นที่รู้จักของนักบิดทั่วโลกตั้งแต่ปี 1901 ซึ่งรถทั้งสองแบรนด์นี้วิจัยพัฒนาและทำตลาดโดย บริษัท โพลาริส อินดัสทรีส์ จำกัด (Polaris Industries) ประเทศสหรัฐอเมริกา”
สำหรับโมเดลใหม่ อินเดียน โฉมปี 2014 ประกอบด้วย CHIEF CLASSIC ราคา 1,475,000 บาท, CHIEF VINTAGE ราคา 1,585,000 บาท และ CHIEFTAIN ราคา 1,695,000 บาท โดยทั้ง 3 รุ่น เป็นรถสไตล์ครุยเซอร์ มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ Thunder Stroke 111 ขนาดความจุ 1,811 ซีซี. ให้แรงบิดสูงสุด 102.4 ฟุต-ปอนด์ ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์ 6 สปีด
นายณัฐพล กล่าวต่อว่า เป้าหมายการจำหน่ายในปีนี้ อินเดียน 60 คัน วิคตอรี่ 20 คัน เชื่อว่าสามารถทำได้เนื่องจากความพร้อมของโชว์รูมและศูนย์บริการแห่งแรกในเมืองไทย ซึ่งใช้งบลงทุนกว่า 100 ล้านบาท ย่านถนนพัฒนาการ มีกำหนดเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 26 เม.ย.นี้ ครอบคลุมการบริการต่างๆ ครบวงจร อาทิ คาเฟ่-ร้านอาหาร การสต็อกรถ อะไหล่-อุปกรณ์ตกแต่ง คอลเลกชั่นเครื่องแต่งกาย และกิจกรรมการขับขี่ทุกรูปแบบ โดยพร้อมจะขยายโชว์รูมและศูนย์บริการให้ครบทั่วทุกภูมิภาคของไทย ภายใน 5 ปีนับจากนี้
นางพรนฎา เตชะไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายรถจักรยานยนต์สกู๊ตเตอร์พรีเมียมยี่ห้อ “เวสป้า” (Vespa) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดรถจักรยานยนต์ในไทย ช่วงไตรมาสแรกปีนี้ลดลงประมาณ 20% แต่เวสป้ามียอดขายเพิ่มขึ้นประมาณ 10% หรือทำได้กว่า 2,000 คัน ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับกลยุทธ์ทางการตลาด ไม่ว่าจะผ่านกิจกรรมหน้าร้าน หรือเจาะตรงเข้าหาลูกค้ามากขึ้น หลังจากในช่วงปลายปีที่ผ่านมาได้รับผลกระทบทางการเมืองและเศรษฐกิจ จนทำให้ยอดขายหลุดเป้าหมายไปกว่าพันคัน
“รถจักรยานยนต์กลุ่มพรีเมียม หรือรถราคามากกว่า 5 หมื่นบาทขึ้นไป ยังคงมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง อาจจะได้รับผลกระทบทางการเมืองและเศรษฐกิจบ้าง แต่ความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้ยังมีสูงอยู่ เพียงแต่ต้องปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสม จนทำให้เวสป้ารักษาการเติบโตในช่วงไตรมาสแรกไว้ได้ และจากนี้ไปเวสป้าจะมีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่และรุ่นตกแต่งพิเศษ เฉลี่ยไตรมาสละ 2 รุ่น โดยล่าสุดเปิดตัวรถรุ่นเวสป้า พรีมาเวร่า และยังเพิ่มตัวเลือกให้กับรุ่นจีทีเอส ประกอบกับปีนี้จะขยายตัวแทนจำหน่ายเพิ่มเป็น 75 แห่ง ซึ่งจากการดำเนินกลยุทธ์ดังกล่าว จึงมั่นใจจะทำยอดขายสกู๊ดเตอร์เวสป้าปีนี้ได้ 11,000 คัน มากกว่าปีที่ผ่านมาที่มียอดขายกว่า 7,000 คัน หรือมีจำนวนรถจดทะเบียนไปทั้งสิ้นกว่า 6,000 คัน”
สำหรับเวสป้า พรีมาเวร่า (Vespa Primavera) เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงมากในช่วง 1968 หรือปลายยุค 60 โดยได้ถูกนำมาพัฒนาเป็นโมเดลใหม่สู่ตลาดล่าสุด ซึ่งพรีมาเวร่าเปิดตัวทำตลาดทั้งรุ่น 125 ซีซี ราคา 95,400 บาท และรุ่น 150 ซีซี ราคา 115,900 บาท ขณะที่อีกรุ่นเวสป้า จีทีเอส 150 เป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ชื่นชอบรุ่นจีทีเอส300 ก่อนหน้านี้ โดยจีทีเอส150 มีราคาอยู่ที่ 139,900 บาท