xs
xsm
sm
md
lg

กรมพัฒนาธุรกิจฯ เผยส่งงบนิติบุคคลปี 56 ขยับเพิ่มร้อยละ 7

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นางสาวผ่องพรรณ    เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (กลาง)
กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเผยข้อมูลยอดส่งงบการเงินนิติบุคคลรอบปีบัญชี 2556 สูงขึ้นร้อยละ 7 ระบุพร้อมนำระบบไอทีมาใช้ในการจัดส่งงบ เพิ่มความรวดเร็ว และตรวจสอบได้แม่นยำ

นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยว่า ในปี 2557 มีนิติบุคคลที่ต้องนำส่งงบการเงินรอบปีบัญชี 2556 จำนวน 508,992 ราย เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา (ปี 2556) เพิ่มขึ้นจำนวน 34,417 ราย คิดเป็นร้อยละ 7 ซึ่งมีนิติบุคคลที่ต้องนำส่งงบการเงินรอบปีบัญชี 2555 จำนวน 474,575 ราย

โดยนิติบุคคลที่ปิดรอบปีบัญชี 31 ธันวาคม 2556 จะต้องนำส่งงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าภายในวันที่ 2 มิถุนายน 2557 และมีนิติบุคคลที่นำส่งงบการเงินแล้วร้อยละ 81 ของนิติบุคคลที่ต้องนำส่งงบการเงิน หรือคิดเป็นจำนวน 411,261 ราย เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (1 ม.ค.-31 พ.ค. 56) เพิ่มขึ้นจำนวน 24,587 ราย คิดเป็นร้อยละ 6 ซึ่งนิติบุคคลนำส่งงบการเงินรอบปีบัญชี 2555 มีจำนวน 386,674 ราย

ส่วนร้อยละ 19 หรือคิดเป็น 80,000-90,000 รายยังไม่ยอมส่งงบการเงิน ซึ่งกรมฯ จะส่งทีมติดตามตรวจสอบและเรียกดูบัญชีย้อนหลังของนิติบุคคลนั้นๆ ในเชิงลึกต่อไป และเหตุผลที่ยื่นส่งงบการเงินเพิ่มขึ้นมาจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ประชาสัมพันธ์และกำหนดอัตราค่าปรับตามระยะเวลาที่นำส่งงบการเงินล่าช้าตั้งแต่หลักพันบาทไปจนถึงหลายหมื่นบาทเป็นต้น
อัตราค่าปรับนำส่งงบการเงินล่าช้า
ทั้งนี้ หลังจากนิติบุคคลนำส่งงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าแล้ว กรมฯ จะนำงบการเงินดังกล่าวจัดทำเป็นรูปแบบของเอกสาร (Hard Copy) แปลงให้เป็นเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ และจัดเก็บข้อมูลในรูปเอกสารภาพ (IMAGE) และป้อนข้อมูล (Re-key) เพื่อเก็บข้อมูลที่ต้องการก่อนนำไปประมวลผลต่อในฐานข้อมูลอย่างเป็นระบบ เพื่อนำไปเผยแพร่ บริการข้อมูลงบการเงินให้แก่ประชาชนผู้สนใจ โดยกระบวนการเหล่านี้ใช้ระยะเวลาในการดำเนินการไม่ต่ำกว่า 5-6 เดือน ส่งผลให้ผู้ใช้งบการเงินภาครัฐ ภาคเอกชน และธุรกิจไม่สามารถนำข้อมูลไปวิเคราะห์ วางแผนตัดสินใจทางธุรกิจได้ทันต่อเหตุการณ์ และกรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะจัดทำโครงการให้บริการนำส่งงบการเงินผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Filing เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางในการนำส่งงบการเงิน ซึ่งในปี 2558 จะดำเนินการให้บริการนำส่งงบการเงินผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ควบคู่ไปกับการนำส่งงบการเงินในรูปแบบเอกสาร

อย่างไรก็ตาม กรมฯ มีเป้าหมายให้บริการนำส่งงบการเงินผ่านช่องทาง e-Filing เพียง 1 ช่องทางเท่านั้น ภายในระยะเวลา 3 ปี (ปี 2560) เพื่อให้งบการเงินของไทยเป็นมาตรฐานเดียวกันและสร้างโอกาสในการเติบโตให้กับภาคเอกชนในการแข่งขันระดับสากล

จากโครงการดังกล่าวจะทำให้กรมฯ สามารถตรวจสอบความถูกต้องและความมีอยู่จริงของธุรกิจเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจ การวิเคราะห์เพื่อวางแผนและตัดสินใจทางธุรกิจ รวมทั้งแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ ประเภทธุรกิจที่มีการขยายตัว ฐานะการเงิน ตลอดจนการประเมินสภาพธุรกิจ เพื่อสร้างศักยภาพการแข่งขัน สร้างโอกาสความร่วมมือทางธุรกิจ และการต่อยอดทางธุรกิจ การสร้างโอกาสและลดต้นทุนในการเข้าถึงข้อมูล ทำให้ธุรกิจได้รับความสะดวก รวดเร็ว ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนในการประกอบธุรกิจ และสนับสนุนข้อมูลแก่หน่วยงานภาครัฐเพื่อใช้ในการตรวจสอบและกำกับดูแลธุรกิจ รวมถึงการนำข้อมูลไปใช้ในการวางแผนและกำหนดนโยบายในการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจระดับประเทศ

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SME ผู้จัดการออนไลน์” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *


กำลังโหลดความคิดเห็น