ธปท.เผยพฤติกรรมคนไทยโอนเงินผ่านบัญชีมากกว่าจ่ายผ่านบัตรเครดิต ชี้มั่นใจในความปลอดภัยมากกว่า และไม่มีค่าธรรมเนียม
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยพฤติกรรมคนไทยมีการโอนเงินจากบัญชีธนาคารมากกว่าการตัดเงินจากบัญชีบัตรอิเล็กทรอนิกส์เพื่อชำระค่าสินค้าและบริการผ่านระบบอินเทอร์เน็ตมากขึ้น โดยพบว่ามูลค่าการตัดเงินจากบัญชีอิเล็กทรอนิกส์สูงถึง 23 เท่า เหตุผู้บริโภคกังวลระบบและความปลอดภัยของบัตรอิเล็กทรอนิกส์และผลจากค่าธรรมเนียมถูกกว่า เผยแนวโน้มมีโอกาสเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตามการชำระค่าสินค้าและบริการแบบออฟไลน์
ทั้งนี้ ทีมวิเคราะห์ระบบการชำระเงิน ฝ่ายนโยบายระบบชำระเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยรายงาน Payment Systems Insight ล่าสุดไตรมาส 4 ของปี 2556 ซึ่งวิเคราะห์เจาะลึกถึงประเด็นการชำระเงินค่าสินค้าและบริการผ่านอินเทอร์เน็ตของไทย พบว่า ปัจจุบันพฤติกรรมของผู้บริโภคน่าสนใจมากขึ้นในการชำระเงินและจ่ายบิลออนไลน์ โดยคนไทยนิยมชำระค่าสินค้าและบริการผ่านอินเทอร์เน็ตโดยการโอนเงินจากบัญชีธนาคารโดยตรงมากกว่าการตัดเงินจากบัญชีบัตรอิเล็กทรอนิกส์ แต่ผู้ใช้บริการทั่วไปยังคุ้นเคยการติดต่อสอบถามกับบุคคลโดยตรงอยู่
สำหรับตัวเลขผู้บริโภคส่วนใหญ่มักจะใช้วิธีการตัดเงินจากบัญชีธนาคารโดยตรง ซึ่งมีมูลค่ารวม 5.89 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 95.6% ของมูลค่าการชำระเงินเพื่อซื้อสินค้าและบริการทั้งหมด และมีมูลค่ามากกว่าการตัดเงินจากบัญชีบัตรอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดรวมกันถึงประมาณ 23 เท่า (การใช้บัตรเครดิตและบัตรเดบิตผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ตมีมูลค่า 2.65 หมื่นล้านบาท และ 188 ล้านบาท ตามลำดับ) โดยมูลค่าการใช้จ่ายเฉลี่ยต่อรายการยังสูงกว่า โดยมีมูลค่าเฉลี่ยสูงถึง 14,227 บาทต่อรายการ ขณะที่การตัดเงินผ่านบัญชีบัตรเครดิตและบัตรเดบิตอยู่ที่ระดับ 6,174 บาท และ 1,669 บาทต่อรายการ ตามลำดับ
โดยเหตุผลสำคัญเกิดจากพฤติกรรมของผู้บริโภคเองที่มีความกังวลในเรื่องของระบบและมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยเฉพาะการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องมีการกรอกชื่อ นามสกุล หมายเลขบัตร และข้อมูลทางการเงินอื่นๆ นอกจากนี้ยังเป็นผลจากลักษณะการรับชำระค่าสินค้าและบริการของผู้ประกอบการที่นิยมรับชำระเงินด้วยวิธีการตัดเงินจากบัญชีธนาคาร ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะการคิดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมผ่าน e-Banking ถูกกว่าเมื่อเทียบกับการรับชำระเงินผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิต
อย่างไรก็ตาม การทำธุรกรรมชำระเงินผ่านอินเทอร์เน็ตมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยตลอดทั้งปี 2556 การชำระเงินผ่านอินเทอร์เน็ตของกลุ่มลูกค้าบุคคลมีปริมาณ 192 ล้านรายการ คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 4.30 แสนล้านบาท หรือขยายตัว 40.8% และ 33.3% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับปี 2555 โดยช่องทางการชำระเงินทางอินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่เป็นการโอนเงิน ส่วนการชำระค่าสินค้าและบริการโดยตรงมีสัดส่วนเพียง 14% เท่านั้น
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SME ผู้จัดการออนไลน์” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *