อาจารย์คณะนิเทศศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างแบรนด์ผ่านตลาดออนไลน์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แนะผู้ประกอบการเอสเอ็มอีหันมาให้ความสำคัญต่อตลาดออนไลน์ เพื่อรองรับการแข่งขันหลังเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ชี้พบสถิติผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มกว่า 24 ล้านคนในปี 2556 แต่เอสเอ็มอีไทยยังมองข้ามตลาดนี้ เหตุเพราะขาดความรู้ความเข้าใจ
ดร.พิชญ์พธู ไวยโชติ อาจารย์ประจำคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ผู้เชี่ยวชาญในด้านการสร้างแบรนด์ผ่านตลาดออนไลน์ เปิดเผยว่า การทำตลาดสินค้าผ่านระบบออนไลน์มีความสำคัญต่อการทำการค้ายุคใหม่มากขึ้น เพราะในแต่ละปีสถิติผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในไทยมีอัตราเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ล่าสุดเมื่อปี 56 ที่ผ่านมามีคนไทยเข้าถึงอินเทอร์เน็ตมากถึง 24 ล้านคน และยังมีโอกาสเติบโตต่อไปเรื่อยๆ จึงเป็นตลาดขนาดใหญ่ ซึ่งภาคธุรกิจจะมองข้ามไม่ได้เพราะตอนนี้ทั่วโลกไม่ว่าร้านค้าขนาดเล็กจนถึงบริษัทข้ามชาติก็สนใจเข้ามาทำตลาดออนไลน์ และทั้งหมดก็พบว่าสื่อออนไลน์ช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จเพิ่มขึ้น ทั้งธุรกิจเริ่มต้นใหม่ หรือธุรกิจที่ใหญ่อยู่แล้วก็ช่วยให้ยอดขายเติบโตจากเดิม เนื่องจากสื่อออนไลน์สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้มาก ใช้งบประมาณน้อยเพียงมีคอมพิวเตอร์ และเสียค่าไฟ ค่าอินเทอร์เน็ตอีกนิดหน่อย แถมยังสามารถเจาะตลาดสู่กลุ่มเป้าหมายได้ง่าย และคุ้มกว่าเมื่อเทียบกับการลงโฆษณาที่ราคาแสนแพง
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาผู้ประกอบการไทยยังให้ความสำคัญต่อสื่อออนไลน์ค่อนข้างน้อย โดยเฉพาะธุรกิจเอสเอ็มอี เพราะยังไม่เห็นถึงความสำคัญ และไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร ขาดความรู้ในเรื่องของการใช้สื่อออนไลน์ ดังนั้นผู้ประกอบการเองต้องเรียนรู้ ไม่ว่าจะเป็น วิธีรับส่งสินค้า การทำธุรกรรมทางการเงิน
“หลักสำคัญในการขายสินค้าผ่านสื่อออนไลน์ที่จะต้องยึดมั่นไว้ คือ ต้องมีความจริงใจ ซื่อสัตย์ น่าเชื่อถือ และการใส่รายละเอียดสินค้า วิธีการใช้ที่ถูกต้อง ครบถ้วนรอบด้าน รวมถึงการระบุสถานที่ติดต่อเบอร์โทรศัพท์ให้ชัดเจน การถ่ายรูปหรือทำคลิปวิดีโอตัวสินค้าก็ช่วยให้สินค้าขายได้ง่ายขึ้น”
ความสำคัญของสื่อออนไลน์ในวันนี้ยังไม่ได้มีแค่เฉพาะการค้าขายสินค้าเฉพาะในไทยเท่านั้น ต่อไปจะมีบทบาทมากต่อการขยายตลาดไปนอกประเทศ โดยเฉพาะหลังเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ที่คาดว่าแบรนด์สินค้าจากต่างประเทศ เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ที่เชี่ยวชาญในสื่อออนไลน์ จะเข้ามาแข่งขันแย่งส่วนแบ่งตลาดในไทยเพิ่มขึ้น
ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้องรีบตื่นตัวรับมือ เพราะเหลืออีกไม่ถึง 2 ปีก็จะมีการเปิดเสรีอาเซียนเต็มตัวแล้ว แต่ก็ควรต้องปรับตัวเรียนรู้และเพิ่มข้อมูลด้านภาษาเข้าไปด้วย เช่น ภาษาอังกฤษ หรือภาษาพื้นเมืองในประเทศที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้ง่ายต่อการติดต่อสื่อสาร และโปรโมตสินค้า
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SME ผู้จัดการออนไลน์” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *