กสอ.ชู 5 ผลิตภัณฑ์จาก ผปก.SMEs ได้แก่ กระเช้าของขวัญ สินค้าเพื่อสุขภาพ เครื่องสำอางและน้ำหอม เสื้อผ้าแฟชั่น และอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นกลุ่มขายดีช่วงปีใหม่ ระบุการเมืองป่วนไม่กระทบจับจ่าย พร้อมจัดมหกรรม “ช้อปช่วยไทย สู่มาตรฐานไกล มาตรฐานอาเซียน” ระหว่างวันที่ 23-26 ธ.ค. 2556 ณ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ช่วยสร้างรายได้ให้ SMEs ช่วงปลายปี
นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กล่าวในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ของทุกปีว่า สินค้าที่จะได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง ได้แก่ กระเช้าของขวัญ สินค้าเพื่อสุขภาพ เครื่องสำอางและน้ำหอม เสื้อผ้า และอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งผู้บริโภคซื้อหาเป็นของฝากของขวัญ โดยสินค้าทั้ง 5 กลุ่มดังกล่าวมีสินค้าของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอยู่จำนวนมาก จึงนับเป็นโอกาสดีของเอสเอ็มอีในการสร้างรายได้ช่วงท้ายปี
รองอธิบดี กสอ.เผยด้วยว่า แม้ขณะนี้จะมีสถานการณ์ความไม่เรียบร้อยทางการเมือง ทว่า ส่งผลต่อการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคไม่มากนัก ประชาชนส่วนใหญ่ยังซื้อหาสินค้าเป็นของขวัญตามปกติ อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีควรเน้นการผลิตหรือออกแบบสินค้าที่มีคุณภาพ ประณีต การออกแบบไม่เหมือนใคร ซึ่งจะเหมาะต่อความต้องการของลูกค้า
ทั้งนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้ซื้อสินค้าของขวัญจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย ทาง กสอ.จึงได้จัดงานแสดงสินค้า “ช้อปช่วยไทย สู่มาตรฐานไกล มาตรฐานอาเซียน” ระหว่างวันที่ 23-26 ธ.ค. 2556 ณ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นหนึ่งโครงการส่งเสริมการตลาด (Market Place) ที่ดำเนินการขึ้นเพื่อเพิ่มศักยภาพให้แก่เอสเอ็มอีเตรียมพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
ด้านนิจรินทร์ โอกาสเสถียร ผู้อำนวยการส่วนบริการเงินทุน สำนักบริการกลาง กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวเสริมว่า การจัดงานดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในโครงการส่งเสริมการตลาด (Market Place) ซึ่งเป็นโครงการช่วยเหลือทั้งด้านเงินทุน และการตลาดให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรายย่อยๆ โดยในโครงการนี้ทาง กสอ.จะจัดตั้งเป็นกองทุนปล่อยกู้อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 6% ให้แก่เอสเอ็มอี เพื่อเป็นทุนหมุนเวียน และขยายธุรกิจ โดยวงเงินปล่อยกู้สูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อราย ปัจจุบันมีผู้ประกอบการอยู่ในโครงการประมาณ 4,000-5,000 ราย ยอดวงเงินปล่อยกู้รวมประมาณ 200 ล้านบาท และปีหน้า (2557) คาดวงเงินในการปล่อยกู้จะเพิ่มขึ้นประมาณ 50 ล้านบาท
สำหรับโครงการดังกล่าว นอกจากจะสนับสนุนด้านเงินทุนแล้ว ยังส่งเสริมความรู้ และเพิ่มช่องทางการตลาดด้วย ซึ่งการพาผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่อยู่ในโครงการมาออกบูทแสดงสินค้าเป็นการเพิ่มช่องทางตลาด ตลอดจนส่งเสริมให้เกิดการสร้างเครือข่ายระหว่างผู้ประกอบการ และได้ทดลองลงตลาดจริงเพื่อนำไปปรับปรุงธุรกิจหรือผลิตภัณฑ์ต่อไป
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SME ผู้จัดการออนไลน์” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *