ไม้กินแมลง หรือพืชกินแมลง เป็นความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ ของกลุ่มพืชชนิดหนึ่งที่ใช้การดักจับแมลงและย่อยสลายด้วยกระบวนการทางเคมีก่อนจะดูดซึมเข้าสู่ลำต้น ซึ่งแตกต่างจากพืชทั่วไปที่ใช้การสังเคราะห์แสงในการสร้างอาหาร ไม้กินแมลงมีอยู่ด้วยกันหลายสายพันธุ์ แต่ที่นิยมปลูกกันมากจะเป็นกลุ่ม “หม้อข้าวหม้อแกงลิง”
ปัจจุบันไม้กินแมลงได้รับความนิยมของกลุ่มคนเลี้ยงไม้ประดับ เพราะรูปทรงลำต้นที่สวยงาม และยังมีคุณประโยชน์ช่วยกำจัดแมลง สร้างสมดุลทางธรรมชาติ แทนการใช้สารเคมี สำหรับฟาร์มที่ปลูกไม้กินแมลง ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในกลุ่มของคนเลี้ยง ก็ต้องยกให้ “ Exoflora” ของ “นายปฐมะ ตั้งประดิษฐ์”
ปฐมะเล่าว่า ได้เริ่มต้นเลี้ยงไม้กินแมลงมาตั้งแต่สมัยเรียนปริญญาตรี และเกิดความหลงใหลพืชชนิดนี้ ตัดสินใจย้ายมาเรียนด้านวนศาสตร์เพื่อศึกษาเรื่องราวของพืชชนิดต่างๆ อย่างจริงจัง พร้อมไปกับการพัฒนาสายพันธุ์ไม้กินแมลงอย่าง หม้อข้าวหม้อแกงลิง และจำหน่าย สร้างรายได้ระหว่างเรียน จนกลายเป็นอาชีพหลักถึงปัจจุบัน
สำหรับฟาร์ม Exoflora มีพืชกินแมลงหลากหลายสายพันธุ์ ประกอบไปด้วย กลุ่ม หม้อข้าวหม้อแกงลิง ซึ่งมีมากกว่า 100 สายพันธุ์ กาบหอยแครง ลักษณะคล้ายฝาหอยแครงที่คอยงับเข้าหากันอย่างรวดเร็วเวลามีอะไรมากระตุ้น ซาราซิเนีย เป็นไม้กินแมลงมีลักษณะเป็นกรวย มีสีสันสวยงาม ฝาปากกรวยทำหน้าที่ในการสร้างน้ำหวานเพื่อล่อแมลง มีต้นกำเนิดที่อเมริกาเหนือ บัตเตอร์เวิร์ด หรือพิงกุย จะมีต่อมขนที่สร้างสารเหนียวบนแผ่นใบไว้ดักจับแมลง หยาดน้ำค้าง จะมีสีของใบ และต่อมน้ำหวานเป็นตัวล่อแมลงให้มาติดบนขน กระเป๋าจิงโจ้ เป็นไม้กินแมลงเฉพาะถิ่น เป็นสายพันธุ์ใหม่ที่ทางฟาร์มสามารถเพาะเนื้อเยื่อ และนำมาปลูกในประเทศไทยได้สำเร็จ ซึ่งกระเป๋าจิงโจ้มีต้นกำเนิดมาจากปลายสุดของทวีปออสเตรเลีย
ทั้งนี้ ฟาร์มของคุณปฐมะแตกต่างจากฟาร์มเพาะเลี้ยงต้นไม้ทั่วไป เนื่องจากคุณปฐมะจะไม่ได้แค่เพียงขายต้นไม้ จะเน้นให้ความรู้ไปพร้อมๆ กัน เพราะเขามีดีกรีปริญญาโท ด้านวนศาสตร์ และเขาก็เป็นนักปรับปรุงพันธุ์พืช และได้มีโอกาสไปศึกษาที่ CHIBA UNIVERSITY ประเทศญี่ปุ่น ในสาขาวิชา Plant factory and Plant design และจากความรู้ที่ได้เรียนมาทำให้เขาอยากจะถ่ายทอดความรู้ที่ได้เรียน และฝึกงานที่ประเทศญี่ปุ่นมาพัฒนาด้านการเกษตรให้แก่คนไทย
“ที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสสร้างอาชีพ สร้างรายได้ จากการปลูกต้นไม้ขาย ซึ่งมองว่าอาชีพตรงนี้ไม่ธรรมดาเพราะสร้างรายได้ให้กับผมมาตลอด ผมเริ่มต้นการเลี้ยงต้นไม้ขายช่วงเรียนปริญญาตรี ผมมีรายได้เดือนละกว่า 10,000 บาท หลังจากนั้นเริ่มทำอย่างจริงจังหลังเรียนจบปริญญาตรี โดยเป็นการทำงานร่วมกับทางอาจารย์ และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และยังได้รับความอนุเคราะห์จากทางธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์การเกษตรในการสนับสนุนเงินทุนในช่วงเริ่มต้นจำนวน 50,000 บาท”
ทั้งนี้ ปัจจุบันทางฟาร์มมีรายได้จากการขายต้นไม้ต่อสัปดาห์ประมาณ 100 ต้น (ไม่รวมขายส่งให้พ่อค้า แม่ค้า) ราคาต้นไม้มีตั้งแต่เริ่มต้น 40 บาท ไปจนถึงหลักพันบาท และหลักหมื่นบาท สำหรับต้นไม้ของนักสะสม ที่ผ่านมามีกลุ่มลูกค้าที่เป็นกลุ่มนักสะสมประมาณ 10% ขายปลีก และขายส่งในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน โดยจุดเริ่มต้นลูกค้ามาจากเว็บไซต์ การออกงานแสดงสินค้า และหลังจากนั้นเกิดการบอกกันแบบปากต่อปาก
“กลุ่มลูกค้าของผมมีตั้งแต่เด็กเล็ก ไปจนถึงผู้ใหญ่วัย 60-70 ปี ซึ่งในกลุ่มเด็กรู้จักไม้กินแมลงจากในห้องเรียน และไม้กินแมลงมีอะไรที่น่าสนใจมากกว่าไม้ประดับทั่วไป ทำให้ได้รับการตอบรับจากเด็กเป็นอย่างดีในช่วงที่ผ่านมา และการขายต้นไม้ให้กับเด็กๆ ของผมจะไม่เหมือนร้านทั่วไป เพราะผมจะใช้วิธีการสอนให้เขาทดลองปลูกด้วยตัวเองที่ฟาร์ม ก่อนนำต้นไม้กลับบ้านไปหนึ่งต้นไปทดลองเลี้ยงและอีกหนึ่งต้นทางฟาร์มเราจะดูแลให้ ทำให้เด็กมีกิจกรรม สนุกเพลิดเพลิน และมีสมาธิ เพราะโดยส่วนตัวผมมีประสบการณ์จากการปลูกต้นไม้ช่วยแก้อาการใจร้อน และสร้างสมาธิ ทำให้ผมเรียนหนังสือได้ดีขึ้น ปัจจุบันได้ลูกค้ากลุ่มเด็กมาเป็นลูกค้าประจำ จนโตเป็นผู้ใหญ่”
สำหรับต้นไม้ของ EXOFLORA ใช้วิธีการเพาะเนื้อเยื่อ และการปักชำ ต้นไม้ที่สร้างชื่อให้ฟาร์มแห่งนี้ก็คือ หม้อข้าวหม้อแกงลิง เพราะเป็นสิ่งที่ถนัด และทำมาตั้งแต่ต้นเมื่อประมาณ 4 ปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบันมีพื้นที่ทำฟาร์มอยู่ 2 แห่ง ในซอยพหลโยธิน และลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี ทางฟาร์มไม่ได้ขายต้นไม้อย่างเดียว แต่จะปรับปรุงพันธุ์ใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับกลุ่มนักสะสมด้วย ใครสนใจเรื่องราวของการปลูกไม้กินแมลงก็สามารถเข้าไปพูดคุยขอความรู้จากคุณปฐมะได้ เขายินดีจะถ่ายทอดให้
โทร. 08-6928-8866
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SME ผู้จัดการออนไลน์” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *