เปิดมุมมอง SMEs รับมือวางแผนอนาคตอย่างไรกับต้นทุนเพิ่มแบบไม่มีลด

ที่ผ่านมาสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) จัดอบรมให้แก่ผู้บริหารระดับสูงใน “SMEs Advance” จำนวน 2 รุ่น รวมกว่า 220 คน ภายใต้โครงการยกระดับมาตรฐานการบริหารจัดการธุรกิจ SMEs เพื่อช่วยผลักดันให้ผู้บริหารระดับสูงของธุรกิจ SMEs สร้างเสริมจุดแข็งและลดจุดอ่อนในองค์กรธุรกิจและการประกอบธุรกิจของตนเอง ซึ่งการอบรมในครั้งนี้ได้มีการกล่าวถึงกลยุทธ์บริหารความเสี่ยงในอนาคต รับมือภาวะการเปลี่ยนแปลงจากปัจจัยต่างๆ โดยเฉพาะต้นทุนที่สูงขึ้นทั้งทางตรงและทางอ้อม จากค่าขนส่ง ค่าไฟฟ้า และลอจิสติกส์สืบต่อเนื่องจากค่าแรงงาน

อาจารย์จากรั้วแม่โดมแนะปรับกระบวนทัพทุกด้านแบบยั่งยืน

ด้าน ดร.สมประสงค์ โกศลบุญ อาจารย์พิเศษ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หนึ่งในวิทยากรการอบรม “SMEs Advance” กล่าวถึงแนวโน้มการทำธุรกิจของธุรกิจ SMEs ในอนาคตว่า SMEs ต้องเผชิญกับปัญหาต้นทุนด้านต่างๆ ที่ถีบตัวสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นค่าแรงงานที่ไม่มีทางหวนกลับลดไปเป็นเหมือนเดิมอีกต่อไป ขณะเดียวกันต้นทุนสินค้าทางอ้อมที่แฝงมา ทั้งค่าขนส่งและค่าพลังงานหรือไฟฟ้าก็มีแต่จะยิ่งสูงขึ้นอีก มีทางเดียวคือ เจ้าของธุรกิจ SMEs ต้องหาวิธีการปรับตัวเพื่อให้ก้าวต่อไปข้างหน้าอย่างมั่นคง

“SMEs ใดยังไม่เปลี่ยนแปลงเพื่อปรับกระบวนการผลิตหรือวิธีการผลิตเพื่อรับมือกับปัจจัยภายนอกที่เกิดขึ้น อาจจะส่งผลให้ไม่มีความสามารถสร้างธุรกิจให้มั่นคงอยู่ต่อไปได้ การปรับตัวควรทำทั้งระบบ ทั้งด้านการจัดการในองค์กร การจัดการทางด้านการผลิต และการจัดการทางด้านตลาดที่เหมาะสมและสอดคล้องกัน รวมถึงการบริหารทางการเงินของธุรกิจ SMEs วันนี้ควรต้องเริ่มพิจารณาในการหาช่องทางทางการเงินใหม่ๆ โดยเฉพาะธุรกิจส่งออก จะต้องหาเทคนิคเฉพาะที่อาจจะต้องเสียค่าธรรมเนียมบ้าง แต่ได้ต้นทุนที่ต่ำลง เช่น การทำฟอร์เวิร์ด เพื่อป้องกันความเสี่ยงทางการค้าและค่าเงิน หากเป็นธุรกิจที่ค้าขายผ่านชายแดนก็ควรหาระบบการจัดการที่ถูกกว่า เช่น การเอาต์ซอร์ส เป็นต้น”

“เฟรมเลสคอร์ปอเรชั่น” ยุคนี้อาศัยต้องปั้นยอดขายเพิ่ม

นางสกุลรัตน์ ทิพย์วรรณงาม บริษัท เฟรมเลสคอร์ปอเรชั่น จำกัด ผลิตและจำหน่ายฉากกันอาบน้ำและกระจกนิรภัย กล่าวว่า ต้นทุนที่ขึ้นและกระทบต่อทางบริษัทคือ ค่าแรงงานและค่าวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ แต่ด้วยว่า ที่ผ่านมากิจการของบริษัทไม่ได้ต้องใช้เงินกู้มาเพื่อทำธุรกิจ ต้นทุนที่ขึ้นจึงไม่เป็นปัญหาต่อการดำเนินงานขององค์กร อีกทั้งไม่ได้ตั้งเป้าหมายยอดขายไว้สูง ยอดขายที่เข้ามาในขณะนี้ยังสามารถเติบโตต่อไปได้

“หากเมื่อใดยอดขายตกลง บริษัทฯ จะเร่งหาทางและวางแผนให้ยอดขายขยับดีขึ้น โดยใช้กลยุทธ์วิธีการขายเข้ามาช่วยขยายตลาดเพิ่ม ในขณะที่คู่แข่งก็มีอยู่ในระดับหนึ่งแต่ยังไม่เกิดการแข่งขันมากนัก อย่างไรก็ตาม ก็จะนำความรู้จากการอบรมที่ได้จากโครงการ SME Advance เช่น กลยุทธ์การขายโดยเน้นในเรื่องการสร้างจุดเด่นในเรื่องการให้บริการ โดยตอบสนองลูกค้าให้เร็ว เข้าถึงลูกค้าว่าลูกค้ามีความต้องการอย่างไร รู้เขารู้เรา รู้สเปกที่แท้จริงของลูกค้า สร้างความได้เปรียบเหนือกว่าคู่แข่งขันด้วยการสร้างระบบการบริการที่ดี เช่น การให้บริการช่างติดตั้งฟรี ทีมงานมีความแข็งแกร่งในด้านความชำนาญ เสริมทักษะความรู้และการอบรมให้แก่ทีมช่าง ทั้งนี้ บริษัทฯ ให้ความสำคัญต่อช่างมากเพราะช่างที่มีความชำนาญหายากขึ้น” นางสกุลรัตน์กล่าว

“โซป วิลล่า” กลยุทธ์บริหารสต๊อกลดต้นทุน

นายกัลป์ หอพรศิริ เจ้าของธุรกิจและผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท โซป วิลล่า จำกัด ผลิตและจำหน่ายสบู่จากวัตถุดิบธรรมชาติ น้ำมันรำข้าว กล่าวว่า จากการขึ้นค่าแรงช่วงที่ผ่านมาและราคาวัตถุดิบน้ำมันจากธรรมชาติที่สูงขึ้นประมาณ 20% เช่น มะพร้าว ปาล์ม รวมทั้งน้ำมันหอมระเหยและสมุนไพร ส่งผลกระทบทำให้ต้นทุนการผลิตของบริษัทสูงขึ้นตามไปด้วย

“สำหรับหลักสูตร SMEs Advance ที่ได้เข้าร่วมการอบรมนี้เป็นประโยชน์ต่อองค์กรอย่างมาก โดยกำลังมีความคิดนำความรู้ที่ได้มาเพื่อประยุกต์ใช้ในองค์กรให้เป็นรูปเป็นร่างและมีการวางแผนการจัดการด้านต่างๆ อย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะกลยุทธ์การบริหารจัดการด้านต้นทุนที่เกิดขึ้น สิ่งที่ต้องทำคือ การมี Economy of Scale การบริหารสต๊อกเพื่อเก็บรักษาวัตถุดิบให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ขณะเดียวกันต้องมีต้นทุนต่ำสุด หรือนำการ Outsource ในส่วนการผลิตมาพิจารณาเปรียบเทียบประสิทธิภาพเพื่อเลือกหากลยุทธ์ที่ดีกว่า เนื่องจากต้นทุนที่สูงขึ้นส่งผลต่อยอดขายและสัดส่วนกำไรที่น้อยลง” นายกัลป์กล่าวเสริม

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SME ผู้จัดการออนไลน์” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *