แม้ปัจจุบันกระแสรักสุขภาพจะทำให้ผู้บริโภคหันมานิยมพืชผลการเกษตรที่ปลูกโดยปลอดสารเคมีมากขึ้น ทว่า ในส่วนเกษตรกรไทยแล้วต้องยอมรับว่ายังนิยมใช้ปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลงในการเพาะปลูก เพราะเชื่อว่าสารเคมีช่วยให้ได้ผลผลิตที่งดงามและรวดเร็ว รวมถึงต้นทุนประหยัดกว่าการใช้ปุ๋ยธรรมชาติ หรือการปลูกโดยเกษตรอินทรีย์
จากประเด็นดังกล่าวกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ บริษัท วิน วิน เวิลด์ไวด์ จำกัด โดย “ประเสริฐ หวานยิ่ง” กรรมการผู้จัดการบริษัท เข้ามาสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ “ปุ๋ยออแกนิก” จากวัตถุดิบธรรมชาติที่มีคุณสมบัติเหนือกว่าสารเคมี ไม่ว่าจะเป็นด้านความปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ขณะเดียวกันต้นทุนการเพาะปลูกต่ำกว่าใช้สารเคมี แถมได้ผลผลิตที่สูงกว่าด้วย ซึ่งเป็นนวัตกรรมคิดค้นโดยฝีมือคนไทยล้วนๆ
เจ้าของธุรกิจเล่าว่า เหตุที่สนใจมาทำธุรกิจนี้เพราะรู้ดีว่าตลาดผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการเพาะปลูกเกษตรมูลค่ามหาศาล ตลาดรวมกว่า 4 แสนล้านบาท ทว่า ผลิตภัณฑ์ปุ๋ยและยาฆ่าแมลงที่ขายในท้องตลาดปัจจุบันแทบทั้งหมดเป็นพวกสารเคมี ซึ่งในอนาคตจะไม่เป็นที่ยอมรับของทั้งผู้บริโภคในประเทศและของโลกอีกต่อไป ทำให้สนใจจะริเริ่มทำผลิตภัณฑ์ปุ๋ยออแกนิกแท้ๆ ที่ใช้ได้ผลดี ซึ่งจะตอบรับกระแสโลกแห่งอนาคต
“เมื่อผมวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์เจาะจงไปที่กลุ่มออแกนิก ผมเริ่มจากเข้าไปติดต่อสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) และโครงการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรม (ITAP) เพื่อเสนอความคิดอยากจะทำปุ๋ยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและเหมาะต่อการใช้งานจริง ซึ่งในความเป็นทางจริง สถาบันการศึกษาต่างๆ มีผลงานการวิจัยเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เพื่อการเกษตรที่เป็นออแกนิกอยู่หลายตัว ซึ่งพร้อมจะเผยแพร่ เราก็เลือกหยิบผลงานที่โดดเด่นนำมาพัฒนาต่อยอด” ประเสริฐระบุ และอธิบายเสริมว่า
ใช้เวลากว่า 4 ปีในการวิจัยและพัฒนา ตลอดจนผลิต ภายใต้งบประมาณรวมกันกว่า 20 ล้านบาท กว่าจะได้เป็นปุ๋ยออแกนิกชนิดน้ำ ประกอบด้วย 1. สารอาหารเสริมสำหรับการเติบโตของพืช ตรา “นิวเคลียร์ C.O.S.” และ 2. สารปรับสภาพดิน ตรา “ออมเงิน” โดยเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผ่านมาตรฐานสหพันธ์เกษตรอินทรีย์นานาชาติ (International Federation of Organic Agriculture Movements - IFOAM) และผลิตโดยวัตถุดิบจากแหล่งฟาร์มออแกนิกเช่นกัน
สำหรับสารอาหารเสริมสำหรับการเติบโตของพืชตรา “นิวเคลียร์ C.O.S.” เป็นสารสกัดจากเปลือกกุ้ง เปลือกปู ผ่านกระบวนการผลิต 3 เทคโนโลยี ประกอบด้วย ไคโตเทคโนโลยี (CHITO TECHNOLOGY) นาโนเทคโนโลยี (NANO TECHNOLOGY) และไบโอเทคโนโลยี (BIO TECHNOLOGY) โดยใช้เอนไซม์จากธรรมชาติ จึงมีความบริสุทธิ์ และมีขนาดเล็กกว่าไคโตซานทั่วไปถึง 1,000 เท่า ช่วยให้พืชดูดซึมสารอาหารได้อย่างรวดเร็ว และใช้ประโยชน์ได้ทันที มีคุณสมบัติเด่นช่วยกระตุ้นการเติบโตของพืช และเสริมสร้างภูมิต้านทานโรคต่างๆ
ส่วนสารปรับสภาพดินตรา “ออมเงิน” เป็นอาหารเสริมสำหรับพืชชนิดเข้มข้นใช้ฉีดพ่นที่พืชและดิน โดยเป็นสารสกัดจากสาหร่ายทะเลและฮิวมัสของแร่ภูเขาไฟ มีคุณสมบัติเด่นเร่งการเจริญเติบโตของทั้งราก ใบ ดอก และผล อีกทั้งช่วยฟื้นฟูสภาพของพืชให้ทนต่อสภาพแวดล้อมได้ทั้งอากาศร้อน หนาว และฝนแล้ง
ทั้งนี้ ในการใช้งานควรจะใช้ทั้ง 2 สารควบคู่กันจึงจะได้รับประโยชน์ครบถ้วน โดยอัตราส่วนในการใช้จะแตกต่างกันไปตามจุดประสงค์ เช่น หากต้องการใช้ปรับสภาพดิน อยู่ที่สัดส่วนสาร 1 ลิตร ผสมน้ำเปล่า 100 ลิตร หรือใช้บำรุงพืชผัก ใช้สาร 10 ซีซี ผสมน้ำ 20 ลิตร เป็นต้น โดยวิธีการใช้ควรฉีดพ่นไปที่ปากใบของพืชโดยตรงเพื่อจะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่มากที่สุด
ประเสริฐอธิบายแบบง่ายๆ ให้เห็นภาพว่า นวัตกรรมปุ๋ยออแกนิกเป็นการนำวัตถุดิบที่มีประโยชน์จากธรรมชาติมาย่อส่วนให้มีขนาดเล็กมากที่สุดด้วยเทคโนโลยีนาโน แล้วนำไปฉีดพ่นเข้าที่พืชโดยตรงผ่านทางปากใบ ซึ่งจะทำให้พืชได้รับประโยชน์อย่างรวดเร็วและมากที่สุด หากเปรียบกับการรักษามนุษย์ คล้ายกับการฉีดวัคซีนเข้าเส้นเลือดโดยตรง
เจ้าของธุรกิจยืนยันว่า จากการทดลองที่มีผลงานวิจัยยืนยัน พืชที่ใช้ปุ๋ยออแกนิกจะให้ผลผลิตมากกว่าพืชชนิดเดียวกันที่ปลูกโดยสารเคมีประมาณ 20% ในขณะเดียวกัน ต้นทุนการใช้ปุ๋ยออแกนิกอยู่ที่ประมาณ 40 บาทต่อไร่ ซึ่งต่ำกว่าการใช้สารเคมีในพื้นที่เท่ากัน ประมาณ 50%
“หนึ่งในเหตุผลว่า ที่ผ่านมาปุ๋ยออแกนิกยังไม่ถูกใช้อย่างแพร่หลายเพราะราคาค่อนข้างสูงทำให้เกษตรกรไม่สามารถเข้าถึงได้ง่าย ซึ่งในความเป็นจริงแล้วผลิตภัณฑ์ออแกนิกต้องถูกบวกค่าการตลาด และค่าบริหารจัดการต่างๆ ค่อนข้างมาก ทำให้ราคาจึงต้องถีบตัวสูงไปด้วย ซึ่งในแนวคิดของผมพยายามจะทำให้ปุ๋ยออแกนิกมีราคาต่ำที่สุด ด้วยการบวกกำไรน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อจะจูงใจให้เกษตรกรนิยมใช้ ซึ่งนอกจากจะดีต่อตัวเขาเองแล้ว ยังดีต่อผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อมด้วย” ประเสริฐกล่าว
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันทัศนคติของเกษตรกรไทยส่วนใหญ่ยังเชื่อว่า การปลูกพืชผลด้วยสารเคมีจะช่วยให้ได้ผลผลิตที่สวยงามและรวดเร็วกว่า อีกทั้งกระบวนการใช้ปุ๋ยออแกนิกยุ่งยากกว่าใช้สารเคมีด้วย ดังนั้น ในช่วงแรกที่จะผลักดันเกษตรกรให้ใช้ปุ๋ยออแกนิกจึงเน้นค่อยเป็นค่อยไป เบื้องต้นพยายามขอให้เกษตรกรนำปุ๋ยออแกนิกไปใช้ร่วมกับสารเคมีไปก่อนในอัตราส่วนผสมครึ่งต่อครึ่งเพื่ออย่างน้อยลดการใช้สารเคมี ขณะเดียวกัน มีทีมงานเข้าไปส่งเสริมและให้ความรู้เรื่องปุ๋ยออแกนิกเพื่ออนาคตเกษตรกรจะหันมาเลือกใช้ปุ๋ยออแกนิกอย่างเดียว 100%
เขาระบุด้วยว่า ปุ๋ยออแกนิกขายชุดละ 990 บาท ประกอบด้วย 1. สารอาหารเสริมสำหรับการเติบโตของพืชตรา “นิวเคลียร์ C.O.S.” ขนาด 500 ซีซี ราคา 320 บาท จำนวน 2 ขวด และ 2. สารปรับสภาพดินตรา “ออมเงิน” ขนาด 1 ลิตร ราคา 350 บาท โดย 1 ชุดสามารถใช้ได้ในพื้นที่ประมาณ 25 ไร่ และสามารถใช้ได้กับพืชทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นพืชผัก พืชสวน ไม้ผล ไม้ดอก ไม้ประดับ โดยผลที่ได้จะต่างกันไปมากบ้างน้อยบ้างขึ้นอยู่กับพืชชนิดนั้น อย่างไรก็ตาม ในอนาคตกำลังพัฒนาปุ๋ยออแกนิกที่เป็นสูตรเฉพาะเจาะจงไปสู่พืชแต่ละชนิด นอกจากนั้นปรับปรุงนำทั้งสองสูตรมาอยู่ด้วยกันในขวดเดียวเพื่อให้สะดวกต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น
ธุรกิจนี้เริ่มเปิดตัวมาประมาณ 2 ปี โดยช่องทางขายภายใต้การดำเนินงานของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ผ่านสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. (สกต.) โดยกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรชาวสวนลำไยใน จ.เชียงใหม่ และใกล้เคียง ซึ่งปีที่ผ่านมา (2555) มียอดขายประมาณ 60 ล้านบาท และเตรียมจะขยายช่องทางตลาดด้วยการเปิดรับตัวแทนขายทั่วประเทศ ซึ่งจะทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น โดยตั้งเป้าว่าภายในปีหน้า (2557) ยอดขายจะถึง 100 ล้านบาท
ประเสริฐย้ำว่า มั่นใจตลาดปุ๋ยออแกนิกจะเติบโตอย่างมหาศาล เนื่องจากกระแสของโลกในปัจจุบัน และอนาคต ทั้งในประเทศและทั่วโลกจะให้ความสำคัญต่อเรื่องสินค้าเกษตรที่ปลอดสารเคมี และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเรื่อยๆ และแน่นอนว่าเมื่อตลาดมีความต้องการสูงย่อมมีคู่แข่งในตลาดมากด้วยเช่นกัน ซึ่งหนทางที่ทำให้อยู่รอดได้จำเป็นต้องมีผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมลึกซึ้งเป็นของตัวเอง ประกอบกับราคาที่เหมาะสมสามารถดึงดูดลูกค้าได้ด้วย
โทร. 0-2347-7588 หรือ www.win-winworldwide.com
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SME ผู้จัดการออนไลน์” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *
จากประเด็นดังกล่าวกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ บริษัท วิน วิน เวิลด์ไวด์ จำกัด โดย “ประเสริฐ หวานยิ่ง” กรรมการผู้จัดการบริษัท เข้ามาสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ “ปุ๋ยออแกนิก” จากวัตถุดิบธรรมชาติที่มีคุณสมบัติเหนือกว่าสารเคมี ไม่ว่าจะเป็นด้านความปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ขณะเดียวกันต้นทุนการเพาะปลูกต่ำกว่าใช้สารเคมี แถมได้ผลผลิตที่สูงกว่าด้วย ซึ่งเป็นนวัตกรรมคิดค้นโดยฝีมือคนไทยล้วนๆ
เจ้าของธุรกิจเล่าว่า เหตุที่สนใจมาทำธุรกิจนี้เพราะรู้ดีว่าตลาดผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการเพาะปลูกเกษตรมูลค่ามหาศาล ตลาดรวมกว่า 4 แสนล้านบาท ทว่า ผลิตภัณฑ์ปุ๋ยและยาฆ่าแมลงที่ขายในท้องตลาดปัจจุบันแทบทั้งหมดเป็นพวกสารเคมี ซึ่งในอนาคตจะไม่เป็นที่ยอมรับของทั้งผู้บริโภคในประเทศและของโลกอีกต่อไป ทำให้สนใจจะริเริ่มทำผลิตภัณฑ์ปุ๋ยออแกนิกแท้ๆ ที่ใช้ได้ผลดี ซึ่งจะตอบรับกระแสโลกแห่งอนาคต
“เมื่อผมวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์เจาะจงไปที่กลุ่มออแกนิก ผมเริ่มจากเข้าไปติดต่อสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) และโครงการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรม (ITAP) เพื่อเสนอความคิดอยากจะทำปุ๋ยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและเหมาะต่อการใช้งานจริง ซึ่งในความเป็นทางจริง สถาบันการศึกษาต่างๆ มีผลงานการวิจัยเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เพื่อการเกษตรที่เป็นออแกนิกอยู่หลายตัว ซึ่งพร้อมจะเผยแพร่ เราก็เลือกหยิบผลงานที่โดดเด่นนำมาพัฒนาต่อยอด” ประเสริฐระบุ และอธิบายเสริมว่า
ใช้เวลากว่า 4 ปีในการวิจัยและพัฒนา ตลอดจนผลิต ภายใต้งบประมาณรวมกันกว่า 20 ล้านบาท กว่าจะได้เป็นปุ๋ยออแกนิกชนิดน้ำ ประกอบด้วย 1. สารอาหารเสริมสำหรับการเติบโตของพืช ตรา “นิวเคลียร์ C.O.S.” และ 2. สารปรับสภาพดิน ตรา “ออมเงิน” โดยเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผ่านมาตรฐานสหพันธ์เกษตรอินทรีย์นานาชาติ (International Federation of Organic Agriculture Movements - IFOAM) และผลิตโดยวัตถุดิบจากแหล่งฟาร์มออแกนิกเช่นกัน
สำหรับสารอาหารเสริมสำหรับการเติบโตของพืชตรา “นิวเคลียร์ C.O.S.” เป็นสารสกัดจากเปลือกกุ้ง เปลือกปู ผ่านกระบวนการผลิต 3 เทคโนโลยี ประกอบด้วย ไคโตเทคโนโลยี (CHITO TECHNOLOGY) นาโนเทคโนโลยี (NANO TECHNOLOGY) และไบโอเทคโนโลยี (BIO TECHNOLOGY) โดยใช้เอนไซม์จากธรรมชาติ จึงมีความบริสุทธิ์ และมีขนาดเล็กกว่าไคโตซานทั่วไปถึง 1,000 เท่า ช่วยให้พืชดูดซึมสารอาหารได้อย่างรวดเร็ว และใช้ประโยชน์ได้ทันที มีคุณสมบัติเด่นช่วยกระตุ้นการเติบโตของพืช และเสริมสร้างภูมิต้านทานโรคต่างๆ
ส่วนสารปรับสภาพดินตรา “ออมเงิน” เป็นอาหารเสริมสำหรับพืชชนิดเข้มข้นใช้ฉีดพ่นที่พืชและดิน โดยเป็นสารสกัดจากสาหร่ายทะเลและฮิวมัสของแร่ภูเขาไฟ มีคุณสมบัติเด่นเร่งการเจริญเติบโตของทั้งราก ใบ ดอก และผล อีกทั้งช่วยฟื้นฟูสภาพของพืชให้ทนต่อสภาพแวดล้อมได้ทั้งอากาศร้อน หนาว และฝนแล้ง
ทั้งนี้ ในการใช้งานควรจะใช้ทั้ง 2 สารควบคู่กันจึงจะได้รับประโยชน์ครบถ้วน โดยอัตราส่วนในการใช้จะแตกต่างกันไปตามจุดประสงค์ เช่น หากต้องการใช้ปรับสภาพดิน อยู่ที่สัดส่วนสาร 1 ลิตร ผสมน้ำเปล่า 100 ลิตร หรือใช้บำรุงพืชผัก ใช้สาร 10 ซีซี ผสมน้ำ 20 ลิตร เป็นต้น โดยวิธีการใช้ควรฉีดพ่นไปที่ปากใบของพืชโดยตรงเพื่อจะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่มากที่สุด
ประเสริฐอธิบายแบบง่ายๆ ให้เห็นภาพว่า นวัตกรรมปุ๋ยออแกนิกเป็นการนำวัตถุดิบที่มีประโยชน์จากธรรมชาติมาย่อส่วนให้มีขนาดเล็กมากที่สุดด้วยเทคโนโลยีนาโน แล้วนำไปฉีดพ่นเข้าที่พืชโดยตรงผ่านทางปากใบ ซึ่งจะทำให้พืชได้รับประโยชน์อย่างรวดเร็วและมากที่สุด หากเปรียบกับการรักษามนุษย์ คล้ายกับการฉีดวัคซีนเข้าเส้นเลือดโดยตรง
เจ้าของธุรกิจยืนยันว่า จากการทดลองที่มีผลงานวิจัยยืนยัน พืชที่ใช้ปุ๋ยออแกนิกจะให้ผลผลิตมากกว่าพืชชนิดเดียวกันที่ปลูกโดยสารเคมีประมาณ 20% ในขณะเดียวกัน ต้นทุนการใช้ปุ๋ยออแกนิกอยู่ที่ประมาณ 40 บาทต่อไร่ ซึ่งต่ำกว่าการใช้สารเคมีในพื้นที่เท่ากัน ประมาณ 50%
“หนึ่งในเหตุผลว่า ที่ผ่านมาปุ๋ยออแกนิกยังไม่ถูกใช้อย่างแพร่หลายเพราะราคาค่อนข้างสูงทำให้เกษตรกรไม่สามารถเข้าถึงได้ง่าย ซึ่งในความเป็นจริงแล้วผลิตภัณฑ์ออแกนิกต้องถูกบวกค่าการตลาด และค่าบริหารจัดการต่างๆ ค่อนข้างมาก ทำให้ราคาจึงต้องถีบตัวสูงไปด้วย ซึ่งในแนวคิดของผมพยายามจะทำให้ปุ๋ยออแกนิกมีราคาต่ำที่สุด ด้วยการบวกกำไรน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อจะจูงใจให้เกษตรกรนิยมใช้ ซึ่งนอกจากจะดีต่อตัวเขาเองแล้ว ยังดีต่อผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อมด้วย” ประเสริฐกล่าว
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันทัศนคติของเกษตรกรไทยส่วนใหญ่ยังเชื่อว่า การปลูกพืชผลด้วยสารเคมีจะช่วยให้ได้ผลผลิตที่สวยงามและรวดเร็วกว่า อีกทั้งกระบวนการใช้ปุ๋ยออแกนิกยุ่งยากกว่าใช้สารเคมีด้วย ดังนั้น ในช่วงแรกที่จะผลักดันเกษตรกรให้ใช้ปุ๋ยออแกนิกจึงเน้นค่อยเป็นค่อยไป เบื้องต้นพยายามขอให้เกษตรกรนำปุ๋ยออแกนิกไปใช้ร่วมกับสารเคมีไปก่อนในอัตราส่วนผสมครึ่งต่อครึ่งเพื่ออย่างน้อยลดการใช้สารเคมี ขณะเดียวกัน มีทีมงานเข้าไปส่งเสริมและให้ความรู้เรื่องปุ๋ยออแกนิกเพื่ออนาคตเกษตรกรจะหันมาเลือกใช้ปุ๋ยออแกนิกอย่างเดียว 100%
เขาระบุด้วยว่า ปุ๋ยออแกนิกขายชุดละ 990 บาท ประกอบด้วย 1. สารอาหารเสริมสำหรับการเติบโตของพืชตรา “นิวเคลียร์ C.O.S.” ขนาด 500 ซีซี ราคา 320 บาท จำนวน 2 ขวด และ 2. สารปรับสภาพดินตรา “ออมเงิน” ขนาด 1 ลิตร ราคา 350 บาท โดย 1 ชุดสามารถใช้ได้ในพื้นที่ประมาณ 25 ไร่ และสามารถใช้ได้กับพืชทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นพืชผัก พืชสวน ไม้ผล ไม้ดอก ไม้ประดับ โดยผลที่ได้จะต่างกันไปมากบ้างน้อยบ้างขึ้นอยู่กับพืชชนิดนั้น อย่างไรก็ตาม ในอนาคตกำลังพัฒนาปุ๋ยออแกนิกที่เป็นสูตรเฉพาะเจาะจงไปสู่พืชแต่ละชนิด นอกจากนั้นปรับปรุงนำทั้งสองสูตรมาอยู่ด้วยกันในขวดเดียวเพื่อให้สะดวกต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น
ธุรกิจนี้เริ่มเปิดตัวมาประมาณ 2 ปี โดยช่องทางขายภายใต้การดำเนินงานของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ผ่านสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. (สกต.) โดยกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรชาวสวนลำไยใน จ.เชียงใหม่ และใกล้เคียง ซึ่งปีที่ผ่านมา (2555) มียอดขายประมาณ 60 ล้านบาท และเตรียมจะขยายช่องทางตลาดด้วยการเปิดรับตัวแทนขายทั่วประเทศ ซึ่งจะทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น โดยตั้งเป้าว่าภายในปีหน้า (2557) ยอดขายจะถึง 100 ล้านบาท
ประเสริฐย้ำว่า มั่นใจตลาดปุ๋ยออแกนิกจะเติบโตอย่างมหาศาล เนื่องจากกระแสของโลกในปัจจุบัน และอนาคต ทั้งในประเทศและทั่วโลกจะให้ความสำคัญต่อเรื่องสินค้าเกษตรที่ปลอดสารเคมี และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเรื่อยๆ และแน่นอนว่าเมื่อตลาดมีความต้องการสูงย่อมมีคู่แข่งในตลาดมากด้วยเช่นกัน ซึ่งหนทางที่ทำให้อยู่รอดได้จำเป็นต้องมีผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมลึกซึ้งเป็นของตัวเอง ประกอบกับราคาที่เหมาะสมสามารถดึงดูดลูกค้าได้ด้วย
โทร. 0-2347-7588 หรือ www.win-winworldwide.com
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SME ผู้จัดการออนไลน์” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *