“คำรณวิทย์” แถลงข่าวผลงานชุดสืบสวน สน..สุทธิสาร จับกุมคนร้ายจี้ชิงทรัพย์ธนาคารกสิกรไทย สาขาซอยลาดพร้าว 10 พร้อมของกลางเงินสดที่จี้ไป 2 แสนกว่าบาท พร้อมรถที่ใช้ก่อเหตุ สารภาพตกงานและต้องการนำเงินไปให้เมียเพื่อง้อขอคืนดี อีกทั้งมีอาการทางประสาท บช.น.ตบรางวัลให้พลเมืองดี 1 หมื่นบาท ที่ขับรถตามรถคนร้ายหมายถีบให้ล้ม
เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (4 ต.ค.) ที่กองบัญชาการตรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชยุต ธนทวีรัชต์ พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูต รอง ผบช.น. พ.ต.อ.สำเริง สวนทอง ผกก.สน.สุทธิสาร พ.ต.ท.ดุสิต วารีประโคน รรท.รอง ผกก.สส.สน.สุทธิสาร พ.ต.ท.ดวงโชติ สุวรรณจรัส สว.สส.สน.สุทธิสาร ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมตัว นายเจตสการณ์ ตรีจิรกุล อายุ 54 ปี ผู้ต้องหาชิงทรัพย์ธนาคารกสิกรไทย สาขาปากซอยลาดพร้าว 10 พร้อมของกลางกางเกง และรองเท้าที่ใส่ขณะก่อเหตุ เงินสด 227,200 บาท จักรยานยนต์ หมายเลขทะเบียน มนฉ 879 กรุงเทพมหานคร ระเบิดปลอมที่ใช้ก่อเหตุ และหน้ากากอนามัย 1 อัน โดยจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 147/11 ซอยประชาสงเคราะห์ 26 แขวงเขตดินแดง
พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้ายเข้าไปชิงทรัพย์ธนาคารกสิกรไทย สาขาปากซอยลาดพร้าว 10 ได้เงินสดจำนวน 228,320 บาท ก่อนจะหลบหนีไป โดยมีพลเมืองดีซึ่งเป็นพนักงานส่งเอกสารขี่จักรยานยนต์ตามคนร้ายไปถึงบริเวณแยกสุทธิสาร แต่สุดท้ายตามไม่ทัน ชุดสืบสวนจึงเร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดและนำเบาะแสที่พลเมืองดีให้การมาเป็นข้อมูลในการติดตามจับกุมคนร้าย ซึ่งในวันเดียวกันชุดสืบสวนสน.สุทธิสาร ก็สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ที่บ้านพัก พร้อมตรวจยึดของกลางได้ทั้งหมด
ด้าน พ.ต.อ.สำเริง กล่าวว่า หลังเกิดเหตุนายสมภพ แสงอุตส่าห์ พนักงานส่งเอกสารได้ขี่จักรยานยนต์ติดตามคนร้ายไปและพยายามใช้เท้าถีบรถของคนร้ายให้ล้ม แต่คนร้ายสามารถหลบหนีไปได้ ทำให้คลาดกันที่แยกสุทธิสาร ฝ่ายสืบสวน สน.สุทธิสาร จึงเร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด จนทราบหมายเลขทะเบียนรถของคนร้าย ซึ่งมีชื่อของนายเจตสการณ์เป็นผู้ครอบครอง จากนั้นชุดสืบสวนได้นำภาพถ่ายของนายเจตสการณ์มาเปรียบเทียบกับกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุและให้พลเมืองดีดู พบว่าเป็นคนเดียวกัน จึงเดินทางไปที่บ้านพักของนายเจตสการณ์ ที่ย่านประชาสงเคราะห์ ก่อนจะสอบสวน
ทั้งนี้ นายเจตสการณ์รับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุชิงทรัพย์ธนาคารกสิกรไทยจริง สาเหตุเพราะตกงานและต้องการหาเงินไปให้ภรรยาเพื่อขอคืนดี ประกอบกับมีอาการทางประสาท ขณะที่ขับรถวนไปมาอยู่บริเวณถนนลาดพร้าว เห็นธนาคารคนไม่พลุกพล่าน จึงตัดสินใจลงมือ ไม่ได้มีการวางแผนแต่อย่างใด สำหรับเงินสดทั้งหมดได้โอนให้ภรรยา 220,000 บาท และซุกซ่อนไว้ในกางเกงในที่ใส่อีก 7,200 บาท ส่วนระเบิดปลอมนั้นเป็นดินน้ำมันที่ซื้อมาให้หลานเล่น เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาชิงทรัพย์ ก่อนนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพและส่งให้พนักงานสอบสวน สน.สุทธิสารดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวด้วยว่า ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่เน้นเรื่องการป้องกันเหตุอาชญากรรม โดยเฉพาะคดีเกี่ยวกับทรัพย์ ทาง บช.น.ได้สั่งการให้ทุกพื้นที่กวดขันการออกตรวจร้านทอง ธนาคาร พร้อมทั้งให้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่ หากมีจุดใดที่ใช้การไม่ได้ก็ให้ปรับปรุง เนื่องจากเป็นเบาะแสสำคัญที่ทำให้จับกุมคนร้ายได้ แต่ก็ต้องขอความร่วมมือจากทางธนาคารและร้านทองด้วย ตนเข้าใจว่ามีประกัน แต่เมื่อเกิดเหตุแล้วตำรวจต้องจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ นอกจากนี้ ทาง บช.น.ได้มอบเงินสดจำนวน 1 หมื่นบาท ให้แก่พลเมืองดี ที่ช่วยตามจับคนร้าย เพื่อเป็นสินน้ำใจและขอบคุณที่ช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ