บช.น.สอบกล้องวงจรปิด พบเบาะแสสำคัญชุดวอร์มที่ใช้จี้ชิงทรัพย์ร้านทอง คล้ายชุดทางราชการของคนมีสี ส่วนคดีจี้ชิงเงินแบงก์พบคนร้ายลงมือเพียลำพัง สั่งตั้งด่านตรวจเข้มสกัดโจรชุม เชื่อเพราะพิษเศรษฐกิจ
วันนี้ (25 ก.ย.) ที่กองบัญชาการตํารวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รอง ผบช.น. รับผิดชอบงานด้านสืบสวน เปิดเผยความคืบหน้าการติดตามตัวคนร้ายจี้ชิงทรัพย์ร้านทองง้วนเฮง ตั้งอยู่เชิงสะพานซังฮี้ เขตบางพลัด ว่าชุดสืบสวนได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดแล้ว และไล่ดูภาพย้อนหลัง เพราะเชื่อว่าคนร้ายน่าจะมาดูลาดเลาก่อนจะลงมือ และดูว่าหลังก่อเหตุแล้วคนร้ายหลบหนีไปทางไหน ส่วนที่ตั้งข้อสังเกตว่าคนร้ายจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคนมีสีนั้นก็ยังตรวจสอบอยู่ และอาจจะเป็นไปได้ เพราะชุดที่ใช้ก่อเหตุเป็นชุดวอร์มคล้ายชุดของทางราชการ ซึ่งกําลังตรวจสอบอยู่เช่นกัน และน่าจะมีความคืบหน้าเร็วๆ นี้
ส่วนคดีจี้ชิงทรัพย์ธนาคารกสิกรไทย สาขาธนบุรี ได้เงินไปกว่า 2 แสนบาทนั้น พล.ต.ต.ปริญญากล่าวถึงความคืบหน้าของคดีว่า กําลังให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ติดตามคนร้ายและวิเคราะห์ดูว่าเหตุใดคนร้ายถึงเลือกธนาคารดังกล่าวเป็นที่ก่อเหตุ เพราะมีอีกธนาคารตั้งอยู่ติดกัน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทราบว่ามีคนร้ายที่ก่อเหตุเพียงคนเดียวและใช้จักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนเป็นยานพาหนะ
“สาเหตุที่เกิดอาชญากรรมบ่อยครั้งในช่วงนี้ น่าจะเป็นเพราะภาวะเศรษฐกิจ คนต่างต้องการใช้เงินทอง แต่เลือกวิธีหาเงินที่ผิดกฎหมาย ทั้งนี้ในส่วนการป้องกันก็จะมีการเพิ่มกําลังสายตรวจและสายสืบ คอยซุ่มดูตามจุดเป้าหมาย ที่คนร้ายน่าจะก่อเหตุรวมถึงอาจตั้งด่านตรวจให้มากขั้น เพื่อเฝ้าระวัง” พล.ต.ต.ปริญญากล่าวทิ้งท้าย