นอกจากการวางแผนดำเนินธุรกิจขั้นพื้นฐานแล้ว ผู้ประกอบการ SMEs ยังควรเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพของธุรกิจให้แข็งแกร่ง ท่ามกลางภาวะการแข่งขันที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นหลังเปิด AEC ดังนี้
1.ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ AEC
ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีส่วนใหญ่ยังคงขาดความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับเนื้อหาและรายละเอียดเกี่ยวกับ AEC อยู่มาก ดังนั้น ควรที่จะต้องศึกษาในเรื่องนี้ให้เข้าใจอย่างชัดเจนเสียก่อน โดยอาจจะเข้าร่วมรับฟังสัมมนากับทางหน่วยงานภาครัฐที่จัดสัมมนาเกี่ยวกับ AEC หรือสอบถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ผู้ประกอบการมีพื้นฐาน และมีความเข้าใจที่ชัดเจน ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาธุรกิจ เพื่อรองรับการแข่งขันในลำดับถัดไป
2.บริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
การบริหารต้นทุนให้ต่ำที่สุด มีผลต่อความสามารถในการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็น การสั่งซื้อสินค้า การบริหารสต๊อกสินค้า ควรมีการจัดทำบัญชีรายการสินค้าเข้าออก และบัญชีรายรับรายจ่ายในแต่ละวัน เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาประยุกต์ใช้ในการวางแผนการจัดซื้อสินค้า และการทำสต๊อกสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3.พัฒนาสินค้าและบริการ
ผู้ประกอบการ SMEs ควรที่จะมัดใจลูกค้า ด้วยการพัฒนาสินค้าและบริการให้มีความหลากหลายและเกิดความแตกต่าง ด้วยความคิดสร้างสรรค์ มีคุณภาพและมาตรฐาน เนื่องด้วยสินค้าและบริการของไทยมีข้อเสียเปรียบในเรื่องต้นทุนที่สูงกว่าหลายๆ ประเทศในอาเซียน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ทำให้ผู้ประกอบการไทยไม่สามารถแข่งขันได้ ดังนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงการแข่งขันทางด้านราคา และหันมายกระดับสินค้าและบริการให้มีคุรภาพและมาตรฐานยิ่งขึ้น
4.พัฒนาคุณภาพของบุคลากร
การจ้างบุคลากรที่ดี การพัฒนาความสัมพันธ์ที่เหมาะสม และทำให้พนักงานเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติงานเป็นกุญแจสำคัญทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะแรงงานที่มีทักษะและความชำนาญ นอกจากนี้ การที่นายจ้างสามารถดูแลพนักงานได้อย่างทั่วถึงและเป็นธรรม ก็จะทำให้พนักงานมีขวัญและกำลังใจที่ดี ผลที่ตามมา คือ กิจการจะประสบผลสำเร็จตามที่วางไว้
5.รักษาฐานลูกค้าเก่าให้มั่น ไปพร้อมๆ กับการสร้างฐานลูกค้าใหม่
ผู้ประกอบการ SMEs ที่มีความน่าเชื่อถือ มีความใกล้ชิดแลผูกพันกับกลุ่มลูกค้าเก่ามายาวนาน อาจจะง่ายต่อการเข้าใจในพฤติกรรมของลูกค้า และความรู้สึกดีๆ จากลูกค้าเก่า อาจนำไปสู่การบอกต่อแบบปากต่อปากจนกลายเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้ได้ลูกค้าใหม่ๆ มากขึ้น
6.นำเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาธุรกิจมากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็น Wireless Technology และเว็บไซต์ต่างๆ เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการควรนำมาใช้ เพื่อเป็นช่องทางในการขายสินค้าและบริการ ผู้ประกอบการ SMEsควรหันมาใช้อินเทอร์เน็ต ที่มีเว็บไซต์ 2 ภาษา ในการเจาะกลุ่มลูกค้าให้กว้างขวางมากขึ้น หรือที่เรียกว่า e-Commerce ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวก และสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้เพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบันพบว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคในอาเซียน เริ่มหันมาซื้อขายสินค้าและบริการผ่านช่องทางออนไลน์กันมากขึ้น
7.เตรียมความพร้อมทางด้านภาษา ผู้ประกอบการไทยส่วนใหญ่ยังคงต้องพัฒนาทักษะด้านภาษาให้พร้อมที่จะทำการค้าขายกับชาวต่างชาติหากผู้ประกอบการคิดที่จะขยายธุรกิจให้เติบโตมากขึ้น เพราะการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าไม่สามารถสื่อความเข้าใจตรงกันได้ นับเป็นอุปสรรคในการทำธุรกิจและอาจทำให้สูญเสียลูกค้าไปให้กับคู่แข่งได้อย่างง่ายดาย
ที่มา : นิตยสาร SME Thailand
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SME ผู้จัดการออนไลน์” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *