xs
xsm
sm
md
lg

เปิดเทอมพ่อแม่ช็อต! ฉุดดัชนีฯ SMEs ลดทุกกลุ่มธุรกิจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายชาวันย์ สวัสดิ์ชู-โต
สสว.เผยดัชนีความเชื่อมั่น ผปก. SMEs เดือนพฤษภาคม 2556 ลดลงอยู่ที่ 43.5 โดยเป็นการลดลงทุกกลุ่มธุรกิจ สาเหตุจากเป็นช่วงเปิดเทอมผู้ปกครองชะลอใช้จ่าย รวมถึงเข้าสู่ฤดูฝน ส่งผลให้การบริโภค การขนส่ง และการท่องเที่ยวชะลอตัว โดยธุรกิจค้าส่งสินค้าอุปโภค/บริโภค ค้าปลีกน้ำมันและท่องเที่ยวและธุรกิจเกี่ยวเนื่อง ดัชนีลดลงมากที่สุด ขณะที่คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าค่าดัชนีเพิ่มขึ้นเพราะผู้ประกอบการเชื่อเศรษฐกิจจะดีขึ้น

นายชาวันย์ สวัสดิ์-ชูโต รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยถึงผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการภาคการค้าและบริการ (Trade & Service Sentiment Index : TSSI) ประจำเดือนพฤษภาคม เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเมษายน 2556 พบว่าดัชนี TSSI SMEs รวมภาคการค้าและบริการลดลงอยู่ที่ 48.6 จากระดับ 52.8 (ลดลง 9.3) และเป็นการลดลงทุกภาคธุรกิจ โดยภาคค้าส่ง ภาคค้าปลีก และภาคบริการค่าดัชนีลดลงอยู่ที่ 48.9 43.0 และ 41.7 จากระดับ 50.0 51.0 และ 56.1 (ลดลง 1.1 8.0 และ 14.4) ตามลำดับ เช่นเดียวกับความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจประเทศและต่อธุรกิจตนค่าดัชนีลดลงอยู่ที่ 25.6 และ 35.6 จากระดับ 62.3 และ 58.8 (ลดลง 36.7 และ 23.2) ตามลำดับ

สำหรับสาเหตุสำคัญที่ทำให้ค่าดัชนีในเดือนพฤษภาคม 2556 ลดลงเนื่องจากเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนและเป็นช่วงการเปิดภาคเรียน ซึ่งส่งผลให้เกิดการชะลอตัวทั้งในด้านการบริโภคโดยรวม การเดินทาง ขนส่ง รวมถึงสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องที่ถือเป็นช่วง Low Season โดยปัจจัยบั่นทอนเห็นได้จากการส่งออกในเดือนพฤษภาคมปรับตัวลดลงในทุกอุตสาหกรรมและทุกตลาดเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีมูลค่าอยู่ที่ 19,830 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การลงทุนภาคเอกชนลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 เช่นเดียวกับการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ขณะที่ค่าครองชีพของประชาชนยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

นายชาวันย์กล่าวต่อว่า เมื่อพิจารณาแต่ละประเภทกิจการ พบว่า ภาคค้าส่ง กิจการค้าส่งสินค้าอุปโภค/บริโภค ค่าดัชนีลดลงมากที่สุดอยู่ที่ 47.4 จากระดับ 50.5 (ลดลง 3.1) เนื่องจากมีการเร่งการบริโภคไปมากในช่วงก่อนหน้านี้ และเข้าสู่ช่วงเปิดภาคเรียนประชาชนต้องใช้จ่ายในเรื่องค่าเล่าเรียนและอุปกรณ์การศึกษา ส่งผลให้สถานการณ์ด้านการบริโภคโดยรวมชะลอตัว เห็นได้จากดัชนีอุปโภคบริโภคในเดือนพฤษภาคมปรับตัวลดลงร้อยละ 0.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ภาคค้าปลีก กิจการค้าปลีกน้ำมัน ค่าดัชนีลดลงมากที่สุดอยู่ที่ 41.6 จากระดับ 57.3 (ลดลง 15.7) เนื่องจากเข้าสู่ช่วงฤดูฝน ขณะที่ระดับราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน 95 และน้ำมันดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.80 บาทต่อลิตร ส่งผลให้สถานการณ์ด้านการเดินทางชะลอตัวลง ภาคบริการ กิจการด้านการท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องเป็นกลุ่มที่ค่าดัชนีลดลงมากที่สุด โดยบริการด้านการท่องเที่ยวค่าดัชนีอยู่ที่ 36.0 จากระดับ 62.2 (ลดลง 26.2) โรงแรม/เกสต์เฮาส์/บังกะโล ค่าดัชนีอยู่ที่ 38.9 จากระดับ 56.1 (ลดลง 17.2) และร้านอาหาร/ภัตตาคาร ค่าดัชนีอยู่ที่ 40.1 จากระดับ 56.1 (ลดลง 16.0) เนื่องจากเข้าสู่ช่วงฤดูฝนซึ่งถือเป็นช่วง Low Season ของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ส่งผลให้สถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวชะลอตัวลง

ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า รวมภาคการค้าและบริการ พบว่า ค่าดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 48.6 จากระดับ 41.2 (เพิ่มขึ้น 7.4) และเป็นการเพิ่มขึ้นทุกภาคธุรกิจ โดยกิจการภาคค้าส่ง ภาคค้าปลีก และภาคบริการ ค่าดัชนีเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 51.3 48.4 และ 47.8 จากระดับ 48.3 40.1 และ 39.8 (เพิ่มขึ้น 3.0 8.3 และ 8.0) เช่นเดียวกับความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจประเทศและต่อธุรกิจตนเองที่ค่าดัชนีเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 45.8 และ 45.6 จากระดับ 34.8 และ 27.5 (เพิ่มขึ้น 11.0 และ 18.1)

เนื่องจากผู้ประกอบการส่วนใหญ่เชื่อมั่นว่าสถานการณ์เศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศจะปรับตัวดีขึ้น ทั้งด้านการบริโภค การขนส่งสินค้าและขนส่งมวลชน รวมถึงสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวที่จะกลับมาคึกคักจากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน นอกจากนี้ยังมีปัจจัยบวกมาจากค่าเงินบาทที่ปรับตัวอ่อนค่ามาอยู่ที่ระดับ 30.83 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม ส่งผลให้มีความสามารถในการแข่งขันด้านราคาสินค้าส่งออกเพิ่มขึ้น

ส่วนผลการสำรวจดัชนีรายภูมิภาคในเดือนพฤษภาคมเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเมษายน 2556 พบว่าทุกภูมิภาคมีค่าดัชนีปรับตัวลดลง โดยภูมิภาคที่มีค่าดัชนีลดลงมากที่สุด ได้แก่ ภาคกลาง ภาคตะวันตก และภาคตะวันออก ค่าดัชนีอยู่ที่ 40.8 จากระดับ 58.7 (ลดลง 17.9) รองลงมาคือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือค่าดัชนีอยู่ที่ 43.0 จากระดับ 54.3 (ลดลง 11.3) ภาคใต้ค่าดัชนีอยู่ที่ 43.6 จากระดับ 51.7 (ลดลง 8.1) ภาคเหนือค่าดัชนีอยู่ที่ 47.0 จากระดับ 54.7 (ลดลง 7.7) และกรุงเทพฯ และปริมณฑล ค่าดัชนีอยู่ที่ 42.5 จากระดับ 47.4 (เพิ่มขึ้น 4.9) ขณะที่ดัชนีคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าพบว่ามีค่าดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกภูมิภาค

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SME ผู้จัดการออนไลน์” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *


กำลังโหลดความคิดเห็น