xs
xsm
sm
md
lg

“ปู” ชู SMEs-OTOP หัวหอกเดินหน้า ศก.ประเทศ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี  กล่าวเปิดโครงการ “SMEs & OTOP สู่เวทีโลก” และการสัมมนาเชิงปฎิบัติการ SMEs Roadmap เปิดแนวรุกบุก AEC  (ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก Yingluck Shinawatra)
นายกฯ ชูธุรกิจเอสเอ็มอี และโอทอป เป็นหัวหอกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ดึง 5 กระทรวง 6 แบงก์รัฐ เสริมแกร่งเข้าถึงแหล่งเงินทุน เสริมศักยภาพรับเปิดประชาคมอาเซียน ระบุรัฐบาลทำงานคู่ภาคเอกชนสอดคล้องลงทุน 2.2 ล้านล้านบาท ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนจีดีพีของเอสเอ็มอีต่อประเทศ จากร้อยละ 37 เป็นร้อยละ 40 ในอีก 5 ปีข้างหน้า

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในการเป็นประธานเปิดตัวโครงการ “SMEs & OTOP สู่เวทีโลก” และการสัมมนาเชิงปฎิบัติการ SMEs Roadmap เปิดแนวรุกบุก AEC ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-19 มีนาคม 2556 ว่า โครงการดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อช่วยเหลือให้ผู้ประกอบการ SMEs & OTOP และรัฐวิสาหกิจชุมชนได้เข้าถึงแหล่งทุน ซึ่งจะช่วยเสริมธุรกิจให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยรัฐบาลได้บูรณาการความร่วมมือ 5 หน่วยงานภาครัฐ และ 6 ธนาคารที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงการคลัง กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงมหาดไทย ขณะที่สถาบันการเงิน ได้แก่ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือเอ็กซิมแบงก์, ธนาคารออมสิน, ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.), ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.), ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) หรือไอแบงก์, ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (บสย.) ในการเป็นแหล่งทุนของผู้ประกอบการ และพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการไทยให้เติบโต

“โครงการนี้ ถือเป็นความก้าวหน้าของนโยบายรัฐบาลที่ต้องการให้ผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ซึ่งขอขอบคุณสถาบันการเงินทั้ง 6 แห่ง ที่ทำงานร่วมกันกับรัฐบาลอย่างเข้มแข็ง เพราะ SMEs & OTOP เป็นหัวใจในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ก่อให้เกิดมูลค่าส่งออก ถึง 2 ล้านล้านบาท และ SME บางรายมีโอกาสยกระดับเป็นบริษัท ซึ่งถือเป็นจังหวะที่ดีในการเตรียมตัวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน” นายกฯ กล่าว

ทั้งนี้ รัฐบาลกำหนดยุทธศาสตร์เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไปสู่ตลาดสากล มีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนการเติบโต สำหรับธุรกิจ SMEs & OTOP และรัฐวิสาหกิจชุมชน ในได้ในสัดส่วนของจีดีพี จากสัดส่วนร้อยละ 37 เป็นร้อยละ 40 ของประเทศในอีก 5 ปีข้างหน้า

น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวด้วยว่า ภาครัฐต้องทำงานร่วมกับภาคเอกชนเพื่อให้สอดรับกับโครงสร้างพื้นฐานที่รัฐบาลจะลงทุนมูลค่ากว่า 2.2 ล้านล้านบาท โดยรัฐบาลเห็นว่าหากโครงสร้างพื้นฐานเจริญ เศรษฐกิจจะดี การจ้างงานจะเกิด จังหวัดที่ใกล้ชายแดนจะเกิดการค้าขายเชื่อมกันกับประเทศเพื่อนบ้าน และในอนาคตจะมีการพัฒนาทั้งโครงข่ายเทคโนโลยี พลังงาน ที่สำคัญโครงสร้างพื้นฐาน ลดต้นทุนการขนส่งที่ทุกวันนี้สูงถึงร้อยละ 15
.
ทั้งนี้ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลจะเชื่อมต้นน้ำมาถึงปลายทางจุดส่งออก เพิ่มศักยภาพด้านความรวดเร็ว ลดการสูญเสียของสินค้า นอกจากนี้จะมีการสร้างเมืองศูนย์กลางของแต่ละภาคเพื่อเป็นศูนย์กลางกระจายสินค้า ดังนั้น กระทรวงการคลังและกระทรวงที่เกี่ยวข้องต้องทำงานอย่างบูรณาการร่วมกันเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการ เพราะจากการเดินทางไปต่างประเทศของตนเองพบว่าสินค้นไทยมีคุณภาพ อยู่ที่ว่าจะฉกฉวยโอกาสการขายอย่างไร ทั้งนี้รัฐบาลจะพยายามทำทุกวิถีทางในการเปิดตลาดใหม่ให้ผู้ประกอบการ

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SME ผู้จัดการออนไลน์" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
กำลังโหลดความคิดเห็น