กระทรวงแรงงานห่วงเอสเอ็มอีเข้าไม่ถึงแหล่งทุน จับมือ บสย.ค้ำประกันเงินกู้ปลอดหลักทรัพย์ เน้นสินเชื่อเพื่อส่งเสริมการจ้างงานเอสเอ็มอี ด้านประธาน ส.อ.ท.เชื่อเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งทุนง่ายขึ้น พร้อมเสริมสภาพคล่อง แนะควรจัดงานกระจายตามต่างจังหวัดเพื่อแพร่ข่าวสารให้เอสเอ็มอีอย่างทั่วถึง
นายอนุสรณ์ ไกรวัตนุสสรณ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า การแก้ปัญหาผู้ประกอบการเข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุน เพราะเงื่อนไขของธนาคารพาณิชย์ต่างๆ นั้น ขณะนี้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ได้เข้ามาร่วมในการเป็นหน่วยงานค้ำประกันเงินกู้ให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน และดำเนินธุรกิจมาแล้วไม่เกิน 3 ปี โดยปีแรกไม่คิดค่าบริการ และปีที่ 2-7 คิดค่าบริการในอัตราร้อยละ 2.5 ซึ่งผู้ประกอบการที่จะขอกู้เงินในโครงการสินเชื่อเพื่อส่งเสริมการจ้างงานเอสเอ็มอี วงเงิน 10,000 ล้านบาทของสำนักงานประกันสังคม (สปส.) นั้น สามารถกู้ผ่านได้ 3 ธนาคาร คือ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) และธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน)
ส่วนสถานประกอบการที่ดำเนินธุรกิจมานานกว่า 3 ปี บสย.คิดค่าบริการในอัตราร้อยละ 1.75 ของวงเงินกู้ทั้งหมด โดยทั้ง 2 โครงการจะต้องยื่นกู้ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2558 นอกจากนี้ ในส่วนของกระทรวงแรงงานจะมีการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการพัฒนาศักยภาพของแรงงาน โดยจูงใจในมาตรการลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า ตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. 2545 ส่วนสถานประกอบการที่ขาดเงินทุนในการยกระดับฝีมือแรงงาน สามารถขอกู้เงินจากกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงานได้ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.1
ด้าน นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธาน ส.อ.ท.กล่าวว่า ที่ผ่านมาเห็นได้ชัดว่ากลุ่มเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุนค่อนข้างยาก เนื่องจากผู้ประกอบการขาดความเข้าใจในเงื่อนไขการขอกู้เงิน รวมถึงไม่มีหลักทรัพย์ในการค้ำประกัน ซึ่งการจัดงานดังกล่าวเชื่อว่าจะสามารถช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าใจและเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น โดยมุ่งเน้นในการพัฒนาฝีมือแรงงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและเสริมสภาพคล่องทางการเงินให้กับกลุ่มเอสเอ็มอี ขณะเดียวกันมองว่าควรจัดงานลักษณะนี้ในภูมิภาคต่างๆ เพื่อสร้างความเข้าใจให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในต่างจังหวัดด้วย