กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เผยโอทอปไทยต้องมีคอนเซ็ปต์ก่อนบุกตลาดจีน เชื่อตลาดฉลุยโดยเฉพาะสินค้าวัฒนธรรมประเพณีไทย แนะเจาะลูกค้าระดับกลาง-บน
นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.) เปิดเผยถึงการส่งเสริมและพัฒนาสินค้าหนึ่งผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล หรือโอทอป (OTOP) ตามนโยบายรัฐบาลว่า จากการสำรวจตลาดและหารือกับผู้นำเข้าของทูตพาณิชย์เมืองซีอาน ประเทศจีน ผู้นำเข้าสินค้าโอทอปที่ครอบคลุมของตกแต่งบ้าน งานหัตถกรรม หรือสินค้าที่เกี่ยวกับวัฒนธรรมประเพณีไทย ได้ให้คำแนะนำการเข้าสู่ตลาดจีน ภายใต้แบรนด์โอทอป โดยต้องเสนอขายแนวความคิดที่ชัดเจน ทั้งด้านตัวผลิตภัณฑ์ ตลาดเป้าหมาย และการเลือกเจาะตลาดในพื้นที่ที่มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เหมาะสม
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ขาดไม่ได้ คือ การศึกษาทำความเข้าใจตลาด และเข้าให้ถึงกลุ่มผู้บริโภค ซึ่งแต่ละพื้นที่มีลักษณะเฉพาะมีความหลากหลายไม่เหมือนกัน ผู้ส่งออกควรมีความยืดหยุ่นและพร้อมที่จะหาความร่วมมือเพื่อพัฒนาต่อยอดธุรกิจ ให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีสภาพคล่องสูง โดยเฉพาะกลุ่มที่กล้าจับจ่ายใช้สอย มีการสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับคู่ค้า และมองหาช่องทางการค้าเพื่อขยายตลาด
ทั้งนี้ สินค้าไทยควรวางตำแหน่งไว้ที่ตลาดระดับกลาง-บน และประชาสัมพันธ์สร้างภาพลักษณ์ที่เหมาะสม เนื่องจากไม่สามารถใช้ราคาเป็นเครื่องมือในการชิงตลาดได้ โดยไทยมีภาพลักษณ์ที่ดีและอัตลักษณ์ของความเป็นไทยที่ได้รับการยอมรับอยู่แล้ว โดยเฉพาะด้านความปราณีตละเมียดละไมในงานฝีมือ แต่จุดอ่อนและข้อจำกัดของไทย คือ มักจะเลือกใช้แต่ภาษาอังกฤษเท่านั้น ควรใช้ภาษาจีนด้วย เพราะคนจีนยังรู้ภาษาอังกฤษในจำนวนที่น้อยอยู่
น.ส.สิริรัตน์ วงศ์ไพโรจน์พานิช ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองซีอาน ประเทศจีน กล่าวว่า กลุ่มสินค้าหัตถกรรมของไทยที่มีศักยภาพในการส่งออก ได้แก่ กลุ่มอัญมณี งานฝีมือและเครื่องทอง กลุ่มเฟอร์นิเจอร์ล้านนา กลุ่มงานไม้และแกะสลัก กลุ่มเครื่องแก้วและเครื่องดีบุก นอกจากนี้การขนส่งและระบบลอจิสติกส์ต้องให้เหมาะสมระหว่างไทยกับพื้นที่ต่างๆ ในจีนที่เป็นตลาดเป้าหมาย ส่วนด้านภาษีนำเข้านั้น สินค้าส่วนใหญ่ในกลุ่มนี้ได้รับสิทธิภายใต้ข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน-จีนอยู่แล้ว
สำหรับการทำตลาดควรคำนึงในเรื่องที่จีนมีความเป็นชาตินิยมสูงมาก มีความภาคภูมิใจในอารยธรรมจีนโบราณ ดังนั้น การทำตลาดของสินค้าไทยควรหลีกเลี่ยงการแข่งขันในสินค้าที่จีนสามารถนำไปเปรียบเทียบได้ว่าสินค้าของจีนเด่นหรือดีกว่า ยกเว้นเป็นสินค้าที่มีการสร้างมูลค่าเพิ่ม ทั้งในเชิงคุณภาพ ดีไซน์ นวัตกรรมและประโยชน์ใช้งาน
ส่วนช่องทางในการเข้าสู่ตลาดจีนมีหลายช่องทาง เช่น การวางจำหน่ายในศูนย์กระจายสินค้าไทยในจีน การเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในจีน การแต่งตั้งตัวแทนนำเข้าหรือทำสัญญาเป็นหุ้นส่วนกับนักธุรกิจจีน การเชิญนักธุรกิจจีนและผู้นำเข้าเดินทางไปเยือนไทย เป็นต้น