กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมชี้ตลาดรวมของอุตสาหกรรมสังฆทานและชุดสังฆภัณฑ์โตต่อเนื่องจากปัจจุบันพุทธศาสนิกชนที่ให้ความสนใจในการเข้าวัดเพื่อทำบุญกันมากขึ้น ส่งผลให้ยอดขายผลิตภัณฑ์สังฆทานและชุดสังฆภัณฑ์เติบโตได้กว่า 20-30% เล็งตั้งรับตลาดอาเซียนขยายตลาด
นายโสภณ ผลประสิทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลวันมาฆบูชานี้ส่งผลให้ตลาดรวมของธุรกิจสังฆทานและชุดสังฆภัณฑ์มีความคึกคักมากขึ้น และคาดว่าจะส่งผลให้ยอดขายเติบโตกว่า 20-30% จากช่วงปกติ ซึ่งเห็นได้จากกลุ่มลูกค้าที่จับจ่ายซื้อสินค้าในช่วงวันหยุดตามห้างสรรพสินค้าและร้านตัวแทนจำหน่ายเครื่องสังฆภัณฑ์ ซึ่งในปัจจุบันกล่าวได้ว่ามีพุทธศาสนิกชนที่ให้ความสนใจในการเข้าวัดเพื่อทำบุญในวันสำคัญทางศาสนากันมากขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยประชากรส่วนใหญ่ของประเทศไทยกว่าร้อยละ 90 นั้นนับถือศาสนาพุทธ และประเทศในแถบเอเชียโดยส่วนใหญ่อย่างประเทศลาว ก็มีประชากรกว่าร้อยละ 75 นับถือศาสนาพุทธ ประเทศพม่ามีประชากรกว่าร้อยละ 90 ที่นับถือศาสนาพุทธเช่นเดียวกัน และมีลักษณะการทำบุญที่ใกล้เคียงกัน จึงทำให้ธุรกิจสังฆทานและชุดสังฆภัณฑ์นั้น อาจเป็นธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตสูง และน่าจับตามอง ทางกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมจึงอยากผลักดันให้ธุรกิจกังกล่าวแผ่ขยายในวงกว้างสู่ประเทศแถบอาเซียนเมื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ได้
“ธุรกิจสังฆทานและชุดสังฆภัณฑ์นั้นควรมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ไปในทิศทางที่ต่างจากเดิม เพื่อให้สอดรับกับความต้องการของพุทธศาสนิกชนในประเทศไทยรวมถึงประเทศอาเซียน สามารถสร้างทางเลือกใหม่ให้กับพุทธศาสนิกชนได้ ซึ่งผู้ประกอบการอาจต้องมีการวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายให้แน่ชัด ความต้องการในผลิตภัณฑ์ของผู้ซื้อ ตลอดจนรูปแบบสินค้าที่ใหม่ แตกต่างสินค้าและบริการที่ได้มาตรฐาน และที่สำคัญพระสงฆ์ ภิกษุณี สามเณร ตลอดจนผู้ปฏิบัติธรรมต้องนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง และถูกต้องตามหลักพระพุทธศาสนา” อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมกล่าว
ด้าน นายวรชัญญ์ ศรีวิเชียร เจ้าของแบรนด์พุทธรักษา กล่าวว่า ตนเองและเพื่อนชื่นชอบในการทำบุญ จึงมีความคิดที่จะสร้างผลิตภัณฑ์ที่ใช้ถวายพระสงฆ์ ภิกษุณี สามเณรขึ้นมา ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่เคยขายในท้องตลาดนั้น ตนเองมองว่าบางผลิตภัณฑ์พระสงฆ์นั้นไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ จึงมีความตั้งใจที่จะส่งเสริมพุทธศาสนาและได้ร่วมกันคิดผลิตภัณฑ์สำหรับพระสงฆ์ ภิกษุณี สามเณร และผู้ปฏิบัติธรรม ที่ถูกต้องตามหลักพุทธศาสนา โดยเปลี่ยนแนวความคิดการทำบุญแบบเดิมให้หันมาสนใจถึงประโยชน์ และสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ผู้ที่ได้รับ ภายใต้ผลิตภัณฑ์ชื่อ “พุทธรักษา” โดยการถวายเครื่องไทยธรรมเป็นการให้กำลังแก่พระสงฆ์ในการปฏิบัติกิจพระศาสนา ช่วยให้พระสงฆ์ทำงานพุทธศาสนาให้พระศาสนาเจริญงอกงามต่อไป จึงถือได้ว่าร่วมบำรุงพระพุทธศาสนา หรือสืบต่ออายุพระศาสนาด้วย เมื่อพระศาสนาเจริญงอกงามก็แผ่ประโยชน์สุขไปให้แก่ประชาชน เพราะธรรมแผ่ไป ทำให้คนประพฤติดีงามสังคมก็มีความร่มเย็นเป็นสุข เป็นการเกิดขึ้นของกุศลธรรมขยายกว้างขวางออกไป