xs
xsm
sm
md
lg

“ก้อนฝ้าย” ผ้าพันคอเส้นใยธรรมชาติ โกยทรัพย์รับลมหนาว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผ้าฝ้ายพันคอ ในแบบของร้านก้อนฝ้าย
พอลมหนาวมาเยือน แม้ว่าจะไม่ได้ทำให้คนเมืองหลวงรู้สึกสักเท่าไหร่ แต่สำหรับ “ก้อนฝ้าย” ร้านผลิตภัณฑ์ผ้าพันคอทอมือเส้นใยธรรมชาติจากฝ้าย กลับเป็นช่วงที่สร้างยอดขายโกยรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ เพราะสาวๆ ก็คงจะอยากได้ผ้าพันคอเล็กๆ สักผืนเอาไว้คลายหนาว หรือสวมใส่รับแฟชั่นการแต่งตัวต้อนรับลมหนาวกันบ้าง
นายเฉลิมพล ยานะโส เจ้าของร้าน
ก่อนอื่นคงต้องมาทำความรู้จักกับร้านก้อนฝ้ายกันเสียก่อน ใครที่ได้มีโอกาสไปเดินชอปปิ้งรับลมหนาวกันที่ ASIATIQUE The Riverfront ก็คงจะได้เห็นร้านแห่งนี้กันบ้าง ซึ่งสิ่งที่สะดุดตา และเรียกลูกค้าได้เป็นอย่างดี ก็คงจะอยู่ที่สีสันสดใสของผ้าฝ้ายพันคอ ที่ทางร้านได้บรรจงออกแบบลวดลาย โดยการดึงความโดดเด่นของลวดลายผ้ามัดย้อมของภาคใต้มาผสมผสานกับผ้าฝ้ายทอมือของภาคเหนือ ซึ่งความลงตัวที่ไม่เหมือนใครนี้ทำให้ร้านก้อนฝ้าย ของ “นายเฉลิมพล ยานะโส” ได้รับการตอบรับจากลูกค้าทั้งไทย และเทศ

เฉลิมพลเล่าถึงที่มาของ “ก้อนฝ้าย” ว่า เกิดขึ้นมาจากครอบครัวทอผ้าฝ้ายจำหน่ายอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ มาตั้งแต่รุ่นคุณย่า ซึ่งคุณภาพการทอเรียกว่าไม่แพ้ใคร จนมาวันหนึ่งได้มาเรียนต่อที่กรุงเทพฯ และได้มีโอกาสไปเดินสวนลุมไนท์บาซาร์ เห็นร้านขายสินค้าผลิตภัณฑ์โอทอปจำนวนมาก แต่รู้สึกแปลกใจที่ไม่มีผ้าทอมือจากผ้าฝ้ายจำหน่ายเลยในช่วงนั้นเมื่อประมาณสัก 6-7 ปีก่อน ทำให้เกิดความคิดว่า ในเมื่อเรามีผ้าฝ้ายสวย น่าจะลองนำมาขายบ้าง ได้ปรึกษาทางบ้าน ก่อนตัดสินใจเปิดร้านก้อนฝ้ายครั้งแรกที่สวนลุมไนท์บาซาร์
ผ้าในรูปแบบของงานชาวเขา
ผลตอบรับออกมาดีเกินคาด ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะในช่วงนั้นยังไม่มีผ้าพันคอผ้าฝ้ายในรูปแบบที่เราจำหน่าย ลูกค้าโดยเฉพาะชาวต่างชาติค่อนข้างชื่นชอบ เนื่องจากเป็นผ้าฝ้ายทอมือธรรมชาติ หรือแม้แต่คนไทยเองก็ชื่นชอบเช่นกัน หลังจากเปิดได้ 1 ปีสวนลุมไนท์บาซาร์ปิดตัวลง จึงได้ย้ายมาขายที่สวนจตุจักร การเปิดร้านที่จตุจักรส่วนใหญ่จะได้กลุ่มลูกค้าที่เป็นพ่อค้า แม่ค้า มารับไปจำหน่ายมากขึ้น โดยขายส่งในราคาผืนเล็ก 100 ผืนขึ้นไปราคาผืนละ 25 บาท ราคาขายปลีกหน้าร้านขาย 45 บาท ส่วนผืนใหญ่ 100 ผืนขึ้นไปราคาผืนละ 45 บาท ขายปลีกหน้าร้าน 85 บาท

อย่างไรก็ตาม การขายที่ตลาดนัดสวนจตุจักรขายได้เฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ ก็เลยเปลี่ยนหันมาเปิดร้านที่ ASIATIQUE แทนเพราะสามารถขายได้ทุกวัน และที่สำคัญมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินมาก เพราะที่ผ่านมาลูกค้ากว่า 60-70% เป็นชาวต่างชาติ ในแถบเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น ฮ่องกง จีน สิงคโปร์ อินโดนีเซีย เป็นต้น ข้อดีของผ้าฝ้ายคือ ผ้าจะนิ่มและให้ความอบอุ่นได้ดีกว่าผ้าชนิดอื่น และที่สำคัญเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ จะมีเรื่องสารเคมีอยู่บ้างก็เฉพาะเทคนิคการย้อมแบบสีสันสดใส

ในส่วนของคนที่ชื่นชอบความเป็นธรรมชาติ ทางร้านก็มีผ้าย้อมสีธรรมชาติจำหน่ายด้วยเช่นกัน เพราะจุดเริ่มต้นครั้งแรกของเราก็มาจากเทคนิคการย้อมสีธรรมชาติ ส่วนข้อเสียของผ้าฝ้ายทอมืออยู่ที่ไม่ค่อยทน แต่ลูกค้าไม่ค่อยติดใจตรงนี้ เพราะด้วยราคาที่ไม่แพง ทำให้สามารถเปลี่ยนแบบใหม่ได้ตลอดเวลา และด้วยเหตุนี้เองทำให้เราต้องพยายามคิดลวดลายใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้า
ร้านที่เปิดให้บริการอยู่ที่ ASIATIQUE
สำหรับในส่วนของการผลิต ใช้กลุ่มแม่บ้านทอผ้าในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งทำให้กับเรามานานก็จะค่อนข้างรู้ใจกัน เพราะถ้าได้ช่างทอที่ไม่รู้ใจกัน ปัญหาคือคุณภาพการทอ และอาจจะทำให้เราสิ้นเปลืองวัตถุดิบฝ้าย เพราะการตั้งราคาขายแพง หรือถูกขึ้นอยู่กับเทคนิคตรงนี้ด้วย ในส่วนของยอดขายต่อเดือน ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 150,000 บาท ลูกค้าส่วนหนึ่งมาจากออเดอร์การสั่งซื้อจากลูกค้าต่างประเทศ และเดือนที่สามารถขายได้มากคือตั้งแต่เดือนตุลาคม ไปจนถึง กุมภาพันธ์ เพราะเป็นช่วงของการมอบของขวัญ ลูกค้านิยมซื้อไปให้เป็นของขวัญมากพอกับการซื้อไปใช้เอง

ทั้งนี้ ในส่วนของการลงทุน ทางร้านได้รับเงินกู้จากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในโครงการเพื่อวันใหม่ เป็นเงินกู้ดอกเบี้ยพิเศษให้ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมืองในปี 2553 ที่ผ่านมา เป็นวงเงิน 200,000 บาท

โทร.08-6574-0736

                                      --------------------
กำลังโหลดความคิดเห็น