ธุรกิจร้านกาแฟคงเป็นสิ่งที่ใครหลายๆ คนใฝ่ฝัน ด้วยหลากหลายเหตุผล สำหรับ เมืองทอง คอฟฟี่ ร้านอาหารและเครื่องดื่มที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ของสองสามีภรรยา “วรวุฒิ อนุวัตินุโชติกุล” และ “ธัญชนก ผาทอง” ได้พลิกผันตัวเองจากพนักงานธนาคารมาทำธุรกิจส่วนตัว
ธัญชนก เจ้าของร้าน เล่าว่า เดิมเราทำธุรกิจคาร์แคร์ และเห็นว่าร้านกาแฟน่าจะเป็นทางเลือกสำหรับลูกค้าที่มารอใช้บริการล้างรถ จึงได้ตัดสินใจเปิดร้านดังกล่าว โดยได้ไปเรียนการทำกาแฟ มาจากผู้เชี่ยวชาญซึ่งเป็นชาวต่างชาติ และมาเรียนเพิ่มเติมอีก จากร้านกาแฟสวัสดี ซึ่งสอนเทคนิคการชงกาแฟในเบื้องต้น
หลังจากนั้น มาคิดสูตรการชงกาแฟของตัวเองเพื่อให้กาแฟได้รสชาติกลมกล่อม โดยการมิกซ์หรือผสมผสานความโดดเด่นของกาแฟแต่ละชนิดเพื่อให้ได้รสชาติกาแฟที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร เช่น นำความหอมของคาปูชิโนมาผสมผสานกับความเข้มของกาแฟลาเต ได้กาแฟอีกรสชาติหนึ่งที่มีทั้งความหอมและความเข้มข้น และยังได้มีการคิดสูตรใหม่ อย่างการนำชามาผสมกับกาแฟในสัดส่วนครึ่งต่อครึ่ง โดยตั้งชื่อขึ้นมาใหม่ว่า “คอปเปอร์” เพิ่มทางเลือกใหม่ให้แก่ลูกค้า และสูตรที่กำลังได้รับความนิยมมากอีกสูตรหนึ่งคือ กาแฟปั่นโปะหน้าด้วยไอศกรีม เป็นต้น
การพัฒนาสูตรเครื่องดื่มใหม่ถือว่าเป็นจุดเด่นของร้านกาแฟเมืองทอง ที่ช่วยให้เขายังคงรักษาลูกค้าเดิม ซึ่งเป็นคนในย่านนั้นไว้ได้ อีกยังให้ความสำคัญต่อการบริการที่เป็นกันเองกับลูกค้า รวมถึงภายในร้านที่เน้นความสะอาด รูปแบบการจัดร้านถือว่าไม่ได้โดนเด่น หรือมีลูกเล่นอะไร เน้นบรรยากาศที่นั่งสบายมากกว่า อาจจะแตกต่างจากร้านที่อยู่ใกล้เคียงบางร้านที่มุ่งเน้นจุดขายการจัดร้านที่โดดเด่น อย่างร้านอาหารบ้านไม้ชายน้ำ ที่ภายในร้านถูกจัดเป็นพิพิธภัณฑ์ของเก่า และตั้งอยู่ริมลำธาร เรียกได้ว่าได้เปรียบทั้งทำเลและการจัดร้าน ซึ่งได้รับความนิยมจากลูกค้านักท่องเที่ยวและคนทั่วไป แม้ไม่ได้กินอาหารก็เข้าไปชื่นชมดื่มดำกับเสน่ห์ของเก่าโบราณที่ทางร้านนำมาประดับตกแต่งไว้ทุกซอกทุกมุมของร้าน
ทั้งนี้ เมื่อกลับมาดูร้านกาแฟเมืองทอง ซึ่งอาจจะถือว่าไม่ใช่คู่แข่งกันโดยสิ้นเชิง เพราะด้วยอาหาร และเครื่องดื่มแตกต่างกัน ร้านกาแฟเมืองทองขายเครื่องดื่มกาแฟ และอาหาร ซึ่งเป็นอาหารจานเดียว เช่น สเต๊ก ข้าวผัด มะกะโรนี สปาเกตตี อาหารออกแนวฝรั่งๆ เพราะด้วยพื้นที่ปากช่องใกล้เขาใหญ่มีนักท่องเที่ยวที่เป็นชาวต่างชาติเข้ามาใช้บริการจำนวนมาก แต่กลุ่มนักท่องเที่ยวก็ยังไม่ใช่กลุ่มหลัก เพราะมีประมาณ 20-30% ของลูกค้าทั้งหมด ที่เหลือ 50% เป็นลูกค้าที่มาใช้บริการล้างรถ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคนในย่านนั้น โดยเฉพาะตอนช่วงพักเที่ยง จะมีพนักงานที่ทำงานในบริษัทห้างร้านในปากช่องเดินทางมากินอาหารที่ร้าน เพราะเน้นขายราคาไม่แพง โดยราคาเริ่มต้นสำหรับอาหารอยู่ที่ 55 บาท ถึง 120 บาท ส่วนกาแฟ ราคาเริ่มต้นที่ 20 บาท ไปจนถึง 45 บาท
สำหรับในส่วนของยอดขายต่อวันประมาณ 10,000 บาท แบ่งเป็นยอดขายกาแฟและเครื่องดื่มประมาณ 50-60 แก้ว หรือบางวันถ้ามีการสั่งไปเลี้ยงลูกค้ามียอดขายมากกว่า 100 แก้ว ลูกค้าที่มากินอาหารก็มักจะสั่งเครื่องดื่มด้วย ในส่วนของกำไรที่ได้จากการขายเครื่องดื่มและกาแฟจะได้มากกว่าการขายอาหาร เพราะการทำเครื่องดื่มต้นทุนต่ำทั้งวัตถุดิบและค่าแรง การทำเครื่องดื่มทำกันเอง ไม่ต้องจ้างคนงาน แต่การทำอาหารต้องจ้างแม่ครัว
ธัญชนกกล่าวถึงการแข่งขันในธุรกิจร้านกาแฟในย่านปากช่องว่าค่อนข้างรุนแรง เพราะมีร้านกาแฟเปิดให้บริการจำนวนมากเนื่องจากพื้นที่ที่อยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยว แต่ส่วนใหญ่ยังไม่มีร้านที่เปิดให้บริการทั้งอาหารและเครื่องดื่มเหมือนกับร้านเรา ส่วนร้านกาแฟที่มีแบรนด์ก็มักจะเปิดอยู่ในปั๊มน้ำมัน ซึ่งที่ผ่านมาร้านกาแฟเปิดในปั๊มยอดขายไม่น่าจะดีนัก เพราะจะเห็นว่าบางแบรนด์เปิดไปได้ระยะหนึ่งก็ต้องปิดกิจการลง และมีร้านใหม่เข้ามาเปิดแทน
นอกจากนี้ ทางร้านจะมีการปรับปรุงร้านอย่างต่อเนื่อง เพราะเล็งเห็นถึงความสำคัญของสถานที่ที่ต้องสะอาด และสะดวกสบาย โดยส่วนหนึ่งได้รับเงินกู้สนับสนุนจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอีแบงก์) วงเงิน 3 ล้านบาท
------------------
โทร. 0-4428-0354, 08-1877-7171
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SME ผู้จัดการออนไลน์" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *