ขึ้นชื่อว่านมสดความเข้มข้นต้องมาเป็นอันดับหนึ่งถึงจะมัดใจผู้บริโภคตั้งแต่หยดแรกที่ลิ้มลอง เช่นเดียวกับเจ้าของธุรกิจ “Hokkaido Milk” ประทับใจครั้งแรกกับนมสดๆ จากฟาร์มโคนมเมืองฮอกไกโด ณ แดนปลาดิบ แหล่งเลื่องชื่อผลิตภัณฑ์นมที่โด่งดังไปทั่วโลก เกิดไอเดีย 2 ผสาน นำน้ำนมจากเกษตรไทย ผนวกองค์ความรู้การผลิตนมฮออกไกโดจากญี่ปุ่นเกิดเป็นน้ำนมเข้มข้นป้อนตลาดไทย
เป็นเวลากว่า 3 ปีที่ “Hokkaido Milk” ค่อยๆ เติบโตกลายเป็นร้านนมที่ขึ้นชื่อในเรื่องความเข้มข้นแบบฉบับญี่ปุ่น ซึ่ง “วรวิทย์ วงศ์แสนประเสริฐ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮอกไกโด โมริโมโตะ จำกัด เจ้าของนมพร้อมดื่มแบรนด์ฮอกไกโด เล่าว่า ตนได้มีโอกาสเดินทางไปชมฟาร์มโคนมที่เมืองฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ได้เห็นกรรมวิธีการผลิตนมสดที่เข้มข้นจากเครื่องจักรที่ทันสมัยจนสร้างชื่อไปทั่วโลก ถึงขนาดว่าใครไปฮอกไกโดแล้วไม่ได้ชิมนมก็เหมือนมาไม่ถึง
โดยขั้นตอนการผลิตนมฮอกไกโดมีความแตกต่างจากการผลิตน้ำนมโคของไทย นั่นคือองค์ความรู้ และเครื่องจักรที่ทำให้นมสดมีความเข้มข้น รับรู้ได้ถึงความสดใหม่ที่แท้จริง จึงเกิดไอเดียที่จะนำองค์ความรู้ดังกล่าวมาพัฒนาน้ำนมไทยบ้างที่เขาเชื่อว่าคุณภาพไม่แตกต่างกันนัก หากใส่ความเชี่ยวชาญที่ชาวฮอกไกโดมีน่าจะทำให้น้ำนมสดของไทยมีความเข้มข้นได้ไม่แพ้กัน
“ผมใช้น้ำนมดิบจากคอนแทกต์ฟาร์มในประเทศควบคู่กับนำเข้าวัตถุดิบบางรายการจากญี่ปุ่น มาผลิตเป็นนมแบรนด์ Hokkaido Milk ป้อนตามสาขาต่างๆ ที่ปัจจุบันมี 26 สาขาทั่วกรุงเทพฯ ที่การตกแต่งหน้าร้านจะสื่อบุคลิกออกมาเป็นสไตล์ญี่ปุ่น ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่ากำลังนั่งดื่มนมฮออกไกโดที่ประเทศญี่ปุ่นอย่างแท้จริง ไม่ว่ารายการสินค้า แพกเกจจิ้ง โต๊ะ เก้าอี้ และการตกแต่งภายในร้านอื่นๆ ที่เน้นความเป็นญี่ปุ่นสมัยใหม่”
จุดแข็งของร้าน Hokkaido milk คือ น้ำนมโคสดเข้มข้น รวม 7 รสชาติ ได้แก่ รสธรรมชาติ (ขายดี), กล้วยหอม (ขายดี), ชาเขียวมัจฉะ, ชาซีลอน, ช็อกโกแลต, แคนตาลูปญี่ปุ่น และลาเวนเดอร์ เป็นการนำเข้าดอกลาเวนเดอร์จากญี่ปุ่นที่เมืองฟุราโน บนเกาะฮอกไกโดมีทุ่งลาเวนเดอร์เป็นที่รู้จักดี โดยได้รับการตอบรับดีจากลูกค้าวัยทำงานและครอบครัวที่ต่างประทับใจในเรื่องความเข้มข้นของน้ำนม รวมถึงรสชาติไม่หวานจนเกินไป แต่ขณะเดียวกันก็ให้ความหอมละมุนแตกต่างกันไปตามรสชาติ ซึ่งคาดว่าภายในปีหน้าจะออกอีกหนึ่งรสชาติ คือ White Choccolate นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์นมอื่นๆ ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน คือ โยเกิร์ตดริงก์, โยเกิร์ตสด, พุดดิ้ง และซอฟต์ครีมมิลค์คุกกี้ รวมถึงยังมีไอศกรีม Hokkaido Soft Gelato เนื้อละเอียด 8 รสชาติให้เลือกสรร
สำหรับการขยายธุรกิจ ล่าสุดทาง Hokkaido Milk ตัดสินใจขายแฟรนไชส์ให้แก่ผู้สนใจเน้นทำเลตามห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน โรงพยาบาล โรงเรียน และแหล่งชุมชน ซึ่งใช้เงินลงทุนเบื้องต้นประมาณ 1.5-2.5 ล้านบาท (ขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่) เริ่มตั้งแต่ 15-60 ตารางเมตร แบ่งเป็นค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ (Franchise Fee) 400,000 บาท, ค่าบริหารจัดการ 5% ของยอดขาย, ค่าการตลาด 2% ของยอดขาย และค่าการตลาดท้องถิ่น 2% ของยอดขาย ระยะเวลาคืนทุนประมาณ 2 ปีครึ่ง
ปัจจุบันยอดขายของผลิตภัณฑ์นมมีรายได้สูงสุด 90% แต่ปีนี้มีแผนเพิ่มสัดส่วนยอดขายของกลุ่มเบเกอรีภายใต้แบรนด์ฮอกไกโด โมริโมโตะ และไอศกรีมภายใต้แบรนด์ฮอกไกโด ซอฟต์ เจลาโตเป็น 20% และ 10% โดยยอดขายของนมจะเหลือ 70% ด้วยการเพิ่มเมนูใหม่ๆ และกลุ่มอาหารเข้ามาให้มีความหลากหลายและครบครัน
อนาคตเตรียมขยายสาขาไปตามต่างจังหวัด ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นเตรียมการด้านการขนส่ง เนื่องจากนม Hokkaido Milk เก็บได้นาน 12 วันในอุณหภูมิ 5 องศาเซลเซียส โดยจำนวนสาขาแฟรนไชส์ตั้งเป้าไว้ที่ 12 สาขาในปี 2556 ที่จะถึงนี้
***สนใจติดต่อ 08-3493-3311, 0-2921-5746 หรือที่ www.hokkaidomilk.com Facebook : hokkaidomilk.com***
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SME ผู้จัดการออนไลน์" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *