>>จาก “วังดินสอ” วังเก่าแก่อายุกว่า 80 ปี ในเครือสายพระญาติของหม่อมเจ้าดาราทอง หรือพระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดช (พระองค์พีระ) ผู้สร้างชื่อจนเป็นที่รู้จักในหมู่นักแข่งรถ ได้รับการปรับปรุงใหม่ให้สวยงามและคงรูปแบบความคลาสสิคไว้ด้วยสไตล์การตกแต่งอาคารแบบวินเทจ กลายเป็นร้านอาหารชั้นเลิศรายล้อมด้วยสวนสวยและน้ำพุหงส์คอยต้อนรับแขกผู้มาเยือน กลายเป็นดินแดนมหัศจรรย์ที่หลบซ่อนตัวจากความวุ่นวายของย่านธุรกิจอย่างสุขุมวิท
เมนูของที่นี่ได้รับการรังสรรค์ขึ้นจาก 2 ความมหัศจรรย์ คือวัตถุดิบนำเข้าคุณภาพดีจากทั่วทุกมุมโลก อาทิ หอยเชลล์ฮอกไกโด กุ้งทะเล เนื้อออสเตรเลีย วากิวเทนเดอร์ลอยน์ ผนวกเข้ากับความสร้างสรรค์ของ “เชฟไอซ์ - ธีรพันธุ์ สัตตบุศย์” ที่เชี่ยวชาญทั้งในการทำอาหาร Fusion Cuisine จากการผสมผสานเทคนิคการปรุงอาหารทั้งแบบโบราณและนวัตกรรมการทำอาหารแบบใหม่ๆ เข้าไว้ด้วยกัน จนได้รับการการันตีด้วยรางวัล Thailand Best Restaurant ประจำปี 2010, 2011 และ 2012 โดยมีประสบการณ์ทั้งจากการทำอาหารฝรั่งเศส, อิตาเลียน, อเมริกา และอาหารไทย ในร้านอาหารชื่อดังมากมายทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ
ซึ่งเชฟไอซ์ได้เข้ามาคิดค้นเมนูใหม่ให้กับทางร้าน โดยจัดเป็น 7 คอร์สเมนูอาหารใหม่สุดยอดเคล็ดลับจาก 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก เริ่มจากเมนูเรียกน้ำย่อยด้วย Mousse De Pomme De Terre มูสมันฝรั่งบดเนื้อครีมนุ่มชุ่มลิ้น, ต่อด้วย Seared Japanese Hokkaido Scallop with Japanese Ponzu & French Black Truffle Juice Vinaigrette Pudding หอยเชลล์สดทอดสั่งตรงจากฮอกไกโด ที่เสิร์ฟตัดเข้ารสกับเยลลีซอสถั่วเหลืองญี่ปุ่นและเพิ่มรสซอสกระเทียมวาซาบิในรูปแบบไอศกรีมโฮมเมด ตอกย้ำรสชาติความเป็นญี่ปุ่นฟิวชัน หรือจะเลือกเป็น Seared French “Rougie” Foie Gras with Apple Cider Jelly นุ่มลิ้นกับฟัวกราสชั้นเลิศอันขึ้นชื่อของร้านบองชูร์จาก Rougié แบรนด์ฝรั่งเศสอันดับ 1 ของโลก และเกรดที่ดีที่สุดในเมืองไทย เสิร์ฟพร้อมซอสเยลลีแอปเปิลและน้ำส้มสายชูบัลซามิกให้รสหวานซ่อนเปรี้ยวสดชื่นกำลังดี
ตามด้วยคอร์สที่ 3 กับ Roasted Pumpkin & Chestnut Soup with French “Rougie” Foie Gras Terrine on Baggett ซุปฟักทองบดเนื้อข้นหอมกลิ่นไทยๆ ของอบเชยและเกาลัด ลอยอบอวลอยู่ทั่วปาก เสิร์ฟเข้ารสพร้อมขนมปังฝรั่งเศสและฟัวกราส หรือเลือก Puree of Chick Pea Soup with Seared Local Sea Prawn ซุปถั่วตาไก่ เสิร์ฟพร้อมกุ้งแชบ๊วยไทยหมักซอสก่อนนำไปย่างส่งกลิ่นหอมใบโหระพาที่บดเข้ากันกับความหวานมันของเม็ดมะม่วงหิมพานต์และกระเทียม
หลังจากนั้นพักเว้นวรรคด้วย Marinated Roasted Portobello Salad สลัดเห็ดพอร์โทเบลโลหมักบัลซามิกและเครื่องเทศอบ เพิ่มซอสบัลซามิกทรัฟเฟิลออยล์ ทานคู่กับน้ำสลัดฮัลนี่มาสสาจรสหวานอมเปรี้ยว หรือเลือก Norwegian Smoked Salmon Salad กับแซลมอนจากนอร์เวย์พันล็อกเกตให้สีสันสดใส เสิร์ฟพร้อมซอสบัลซามิกทรัฟเฟิลออยล์ ก่อนเคลือบความละมุนหวานเปรี้ยวด้วย Raspberry Sherbet ไอศกรีมโฮมเมดของบองชูร์
มาถึงเมนคอร์ส เป็น Australian Premium Grade Lamb Tenderloin with Balsamic and Port Wine Braised Cabbage and Demi Glace with Chocolate Espresso เนื้อแกะสันในเกรดพรีเมียมจากออสเตรเลีย ที่คลุกเคล้ากับเครื่องเทศก่อนนำไปทอดแล้วอบ จึงได้เป็นเนื้อแกะอย่างดีกรอบนอก นุ่มใน เสิร์ฟพร้อมกะหล่ำตุ๋นไวน์แดงให้หอมกรุ่น หวานน้ำผึ้ง และเข้มข้นด้วยซอสแกะที่ใช้เวลาเคี่ยวด้วยไฟอ่อนทั้งวัน ก่อนเติมกลิ่นหอมอบอวลทั่วปากด้วยช็อกโกแลตและกาแฟเอสเปรสโซ่ที่เข้ากันได้ดี หรือเลือกทาน Pistachio Crusted Japanese Snow Fish with Roasted Garlic Cauliflower Puree & Fennel Vin Blance ที่เชฟตั้งใจอบปลาหิมะจากญี่ปุ่น พร้อมเครื่องเทศญี่ปุ่นกับถั่วพิสตาชิโอและดอกกะหล่ำ เสิร์ฟเข้ากันกับซอสเฟนเนวินบองซ์ที่ให้รสสัมผัสหอมซ่าในเวลาเดียวกัน แตถ้าคนไหนชอบเนื้อต้องลอง Tournedos Rossini Roasted Premium Australian Wagyu Tenderloin, Pan Fried Rougie Foie Gras, Black Truffles and Madeira Wine Sauce เนื้อวากิวอบคุณภาพสูงเกรด Marbling 7+ นำเข้าจากออสเตรเลีย เสิร์ฟเข้ารสกับฟัวกราส พร้อมซอสเคี่ยวกระดูกวัวและไวน์ไมเดียร่าเคี่ยวจนข้นส่งกลิ่นหอมไวน์ชวนเคลิบเคลิ้ม
ปิดท้ายด้วย Variation of Chocolates ไวต์ช็อกโกแลตร้อน โฮมเมดจากเบลเยียม เรียงตัวตามด้วยมูสช็อกโกแลตและตบท้ายชั้นบนด้วยไอศกรีมช็อกโกแลตได้อย่างเข้ากัน หรือสำหรับท่านที่ชื่นชอบความหวานมันสามารถเลือก Pistachio Crusted Panna cotta with Sunkist Orange Jelly ที่เชฟต้องใช้ถั่วพานาคอตต้าแช่นมมาทั้งวัน ก่อนกรองเอาแต่น้ำนมที่หอมอบอวลพานาคอตต้ามาใช้ทำเป็นวุ้นมูสนุ่มลิ้นตัดรสกับเจลลีส้มซันคิสเป็นรายการสุดท้ายของค่ำคืน
ในส่วนของบาร์ มีไวน์ให้เลือกอีกมากมายหลากหลายถึง 150 ชนิด ทั้งเก่าและใหม่จากทั่วโลก รวมทั้งเป็นวิสกี้ที่ดีที่สุดและบรั่นดีชั้นเลิศ โดยสามารถเลือกนั่งดื่มด่ำกับอาหารรสเลิศท่ามกลางวิวของสวนสวย หรือต้องการความเป็นส่วนตัวในห้องไพรเวตชั้น 2
ร้าน Bonjour ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท ระหว่าง ซอยสุขุมวิท 59 และ 61 ติดกับคอนโดฟูลเลอร์ตัน เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 11.00 - 23.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ 0-2714-2112 และ 081-483-5056 :: Text by FLASH
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net