สคบ.คลอดตราสัญลักษณ์คุ้มครองผู้บริโภค จับมือผู้ประกอบการสร้างความเชื่อมั่นผู้บริโภค พร้อมนำระบบประกันภัยมาสนับสนุนกระบวนการชดเชยและเยียวยาผู้บริโภคจากความไม่เป็นธรรม นำร่อง 10 ธุรกิจ ก่อนขยายครอบคลุมสินค้าและบริการทุกประเภท
นายจิรชัย มูลทองโร่ย เลขาธิการ สคบ. เปิดเผยว่า นับเป็นสัญญาณที่ดีที่ผู้ประกอบการพร้อมสนับสนุนแนวคิดตราสัญลักษณ์คุ้มครองผู้บริโภค ปัจจุบันสำนักงานฯ กำลังเร่งดำเนินการจัดทำรายละเอียดธุรกิจแต่ละประเภท เพื่อให้พร้อมสำหรับการตัดสินใจสมัครเข้าร่วมอย่างกว้างขวางมากขึ้น โดย สคบ.มั่นใจว่าการดำเนินการในเรื่องนี้จะก้าวหน้าตามลำดับ ทั้งการให้ความร่วมมือจากภาคเอกชนและการสนับสนุนด้านนโยบายจากรัฐบาลผ่านนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และประธานกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งเข้าใจและเห็นความสำคัญในเรื่องนี้
สำหรับตราสัญลักษณ์คุ้มครองผู้บริโภคเป็นโครงการที่ริเริ่มโดย สคบ. มีการนำระบบประกันภัยมาสนับสนุนกระบวนการชดเชยและเยียวยาผู้บริโภคจากการบริโภคสินค้าและบริการที่ไม่เป็นธรรม ให้เกิดความรวดเร็วภายใน 7-10 วัน เบื้องต้นจะดำเนินการใน 10กลุ่มธุรกิจนำร่อง ก่อนที่จะขยายครอบคลุมสินค้าและบริการทุกประเภท ปัจจุบันอยู่ระหว่างการประชาสัมพันธุ์ให้ผู้ประกอบการรับทราบ และเริ่มเปิดให้ผู้ประกอบการกลุ่มนำร่องสมัครเข้าร่วมรับตราสัญญลักษณ์ฯ แล้วทั้งผ่านสำนักงาน สคบ. และผ่านเว็บไซต์ www.ocpb.go.th
ด้านนางเพียงใจ แก้วสุวรรณ นายกสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย แสดงมุมมองต่อเรื่องนี้ว่า เป็นแนวคิดที่ดี เชื่อว่าตราฯ นี้น่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการรถยนต์บางส่วน โดยเฉพาะธุรกิจรถยนต์เก่า รถมือสองที่ลูกค้าไม่ได้ซื้อโดยตรงกับบริษัทผู้ผลิตที่มีปัญหาไม่ได้รับความเป็นธรรมในสินค้าและบริการ และยากแก่การตรวจสอบเวลามีปัญหา ส่วนกลุ่มรถใหม่นั้นไม่แน่ใจว่าจะเป็นประโยชน์มากน้อยเพียงไร เพราะปกติรถใหม่จะไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องคุณภาพสินค้าและบริการ หรือหากมีแต่ละบริษัทก็มีกลไกในการดำเนินการที่ชัดเจนเป็นระบบอยู่แล้วในปัจจุบัน ตรงนี้คงต้องดูรายละเอียดที่ทาง สคบ.กำลังจะประกาศว่าจะมีเงื่อนไขอย่างไร” นางเพียงใจเปิดเผย
ส่วนผู้ประกอบการสปาและธุรกิจความงาม นางจรัสศรี สุวรรณทรรภ ประธานกรรมการบริหารบริษัท โปรเกรสซีฟอินเตอร์เนชั่นแนล มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ให้ความเห็นต่อกรณีเดียวกันนี้ว่า จะมีส่วนช่วยธุรกิจด้านความงามมาก เพราะเป็นธุรกิจที่ผู้บริโภคตัดสินใจบริโภคบนพื้นฐานอารมณ์และความพึงพอใจเป็นหลัก
“การมีตราฯ น่าจะเหมือนกับการมีเบอร์ห้าเวลาเลือกอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า จะช่วยผู้บริโภคให้ไม่ต้องเสียเวลาหาข้อมูลจำเป็นของสินค้า เห็นตราฯ ก็มั่นใจได้ว่าจะได้รับสินค้าและบริการที่ได้มาตรฐาน และมีระบบการช่วยเหลือชัดเจนเวลาเกิดปัญหา เหล่านี้จะช่วยทั้งสร้างมาตรฐานและเพิ่มตลาดให้กลุ่มธุรกิจความงามได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในช่วงที่เราจะเข้าร่วม AEC เร็ว ๆ นี้ การก้าวสู่ตลาดต่างประเทศต้องการมาตรฐานที่เป็นสากลมากขึ้น ตราฯ จะเป็นส่วนหนึ่งของมาตรฐานสากลในเรื่องการให้ความเป็นธรรมแก่ผู้บริโภค ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นและควรทำ” นางจรัสศรีกล่าว
ในขณะที่ธุกิจกวดวิชาซึ่งจะเป็นหนึ่งในประเภทธุรกิจที่ สคบ.ตั้งเป้าให้เข้าร่วมตราสัญลักษณ์ฯ มาได้ระยะหนึ่งแล้วนั้น คิดว่าเป็นการริเริ่มที่เป็นประโยชน์ทั้งต่อผู้บริโภคและผู้ประกอบการ ซึ่งตราฯ จะช่วยผู้บริโภคกรองสินค้าและบริการ นางกุณฑิรา จุลสมัย กรรมการบริหารบริษัทแพลนนิท คอนซัลแตนท์ส จำกัด เปิดเผยว่า ทราบเรื่องตราฯ ยกของดีได้มาตรฐานออกจากส่วนที่ไม่ได้มาตรฐาน โดยไม่ต้องเสียเวลาศึกษาเป็นการกรองขั้นพื้นฐานสำหรับเลือกบริโภคได้ ซึ่งจะช่วยทำให้ผู้ประกอบการยกระดับคุณภาพสินค้าและบริการของตัวเองไปด้วย เราพร้อมเข้าร่วมเลย ส่วนหนึ่งเพราะธุรกิจเราเองเป็นตัวแทนประกาศนียบัตร ICDL ก็เป็นมาตรฐานสากลที่ได้รับการยอมรับจาก 150 ประเทศอยู่แล้ว ส่วนการดำเนินการนั้น ตอนนี้เรารอรายละเอียดจาก สคบ.ว่าจะต้องทำอย่างไร และอัตราเบี้ยประกันที่เหมาะสมสำหรับการเข้าร่วมของธุรกิจแบบของเรานั้นควรเป็นเท่าไร สำหรับในวงการ เท่าที่ทราบส่วนใหญ่เห็นด้วยกับแนวคิดนี้และรอรายละเอียดเหมือนกัน