สองพี่น้องตกลงร่วมทำธุรกิจทั้งที่ยังเรียนไม่จบ หลังสบช่องเห็นโอกาสเครื่องปรุงรสและส่วนประกอบอาหารไทยในสหรัฐอเมริกา ว่าแท้จริงแล้วชางต่างชาติก็นิยมในอาหารไทย บางครั้งต้องการทำเอง แต่แหล่งวัตถุดิบกลับหายากมีเฉพาะในไชน่าทาวน์ ดังนั้นหากทำเป็นเครื่องปรุงรสพร้อมนำไปประกอบอาหารได้หลากหลายน่าจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางธุรกิจที่เติบโตได้ ตัดสินใจผุดแบรนด์ “เอ็กโซติค ไทย” ครองตลาดสากลนาน 10 ปี
เมื่อมองเห็นโอกาสธุรกิจเครื่องปรุงรสไทยในเวทีโลก สองคนพี่น้อง “จิตติพร-วาสนา จันทรัช” จึงก้าวเข้าสู่เส้นทางเถ้าแก่มือใหม่ กับบริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด จำกัด โดยจุดเริ่มต้นของธุรกิจเกิดขึ้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เมื่อจิตติพร (พี่ชาย) ได้เดินทางไปศึกษาต่อที่สหรัฐอเมริกาเป็นเวลาหลายปี ได้เรียนรู้วัฒนธรรมต่างๆ รวมถึงการกินอยู่ของชาวต่างชาติ ก็พบว่าชาวอเมริกัน และยุโรปชื่นชอบในรสชาติอาหารไทยอยู่ไม่น้อย บางรายถึงขนาดต้องการซื้อเครื่องปรุงรสเพื่อนำมาประกอบอาหารเอง แต่ส่วนประกอบอาหารไทย ทั้งเครื่องผัด แกง ทอด รวมทั้งซอสต่างๆ มักจะมีจำหน่ายอยู่เฉพาะในร้านขายของชำของคนไทยหรือในไชน่าทาวน์เท่านั้น ไม่มีวางจำหน่ายตามซูเปอร์มาร์เกต ในขณะที่คนไทยยังหาซื้อลำบากเพราะแหล่งจำหน่ายไม่กว้างมากนัก จึงคิดจะทำครื่องปรุงรสมาจำหน่ายตามซูเปอร์มาร์เกตบ้าง โดยเริ่มจากการซื้อมาขายไปเท่านั้น แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายรายใหญ่ที่ใช้วัตถุดิบจากไทยส่งออกไปทั่วโลก ณ ขณะนี้
“ช่วงที่พี่ชายเรียนอยู่ที่สหรัฐอเมริกาก็เหมือนเด็กนักเรียนไทยทั่วไปที่มักทำอาหารไทยรับประทานเอง แต่ด้วยเครื่องปรุงรสหรือเครื่องเทศมีขายอยู่ในพื้นที่จำกัด ทำให้บางครั้งไม่สะดวกที่จะเดินทางไปซื้อ จึงคิดว่าน่าจะมีผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงรสของไทยขายที่ซูเปอร์มาร์เกตบ้าง หาซื้อได้สะดวก รวมถึงชาวต่างชาติที่นิยมรับประทานอาหารไทยจะได้มีโอกาสเข้าถึงรสชาติอาหารไทยได้ง่ายขึ้นด้วย ดังนั้นพี่ชายจึงมาปรึกษาที่จะทำธุรกิจด้านนี้ทั้งที่ยังเรียนไม่จบ”
หลังไอเดียธุรกิจบรรเจิด นายจิตติพรไม่รอช้าเดินทางกลับประเทศไทยทั้งที่ยังเรียนไม่จบปริญญาตรี ชักชวนน้องสาวทำแบรนด์ “Exotic Thai” วางตำแหน่งเป็นผู้ผลิตและผู้ส่งออกเครื่องปรุงและส่วนประกอบอาหารไทย ทดลองตลาดครั้งแรกด้วยเครื่องปรุงรสอาหารพื้นฐานที่จำเป็นต่อการปรุงอาหารไทยประมาณ 30 ชนิด เช่น เครื่องแกงแดง แกงกะทิ เส้นก๋วยเตี๋ยว พร้อมทั้งตั้งโรงงานผลิตที่ได้มาตรฐานระดับสากลในเขตส่งออกนิคมฯ แหลมฉบัง จ.ชลบุรี เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมตลาดอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันมีสินค้าภายใต้แบรนด์ Exotic Thai รวมกว่า 200 ชนิด รวมทั้งน้ำจิ้มรสชาติยอดนิยม อย่างน้ำจิ้มศรีราชาสไตล์เข้มข้น น้ำจิ้มไก่ลิ้นจี่ ซอสมะม่วง ซอสผัดขิงซีอิ๊วขาว เป็นต้น เพื่อให้สอดคล้องกับกระแสอาหารฟิวชันที่กำลังเป็นที่นิยมในต่างประเทศอยู่ในขณะนี้
“ที่ผ่านมาผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงรสและส่วนประกอบการอาหารไทยของ Exotic Thai จะส่งออกไปต่างประเทศ 100% เนื่องจากเราได้ปรับปรุงรสชาติให้เหมาะสมกับต่างชาติ หากคนไทยนำมาปรุงอาหารอาจจะไม่จัดจ้านมากนัก ส่วนการนำไปทำอาหารของชาวต่างชาติจะไม่ได้นำไปทำเป็นอาหารไทย แต่นำซอสต่างๆ ไปประยุกต์เข้ากับอาหารของเขาเพื่อเพิ่มรสชาติ โดยประเทศหลักในการส่งออกคือ นิวซีแลนด์ อังกฤษ และเยอรมนี ซึ่งประเทศเหล่านี้จะรู้จักอาหารไทยอยู่แล้ว โดยเฉพาะเยอรมนีพฤติกรรมผู้บริโภคมักทำอาหารรับประทานเอง”
ปัจจุบันสินค้าแบรนด์ Exotic Thai สามารถตีตลาดได้แล้วกว่า 60 ประเทศทั่วโลกทั้งตลาดในแถบยุโรป อเมริกาใต้ แอฟริกา อเมริกา เอเชีย ส่วนแผนธุรกิจในอนาคตจะมุ่งมั่นทำให้แบรนด์ผลิตภัณฑ์อาหารของไทยประสบความสำเร็จ โดยเน้นมาตรฐานและความเป็นธรรมชาติแบบครบวงจรให้มากที่สุด เช่น การทำ Contact Farming กับเกษตรกร เพื่อผลผลิตที่สะอาดปลอดภัย พร้อมก้าวเข้าสู่การเป็นผลิตภัณฑ์ออแกนิกเพื่อรองรับกำลังการผลิตประมาณ 20,000 ตัน/ปี
และจากความสำเร็จในฐานะผู้ประกอบการไทยที่ก้าวเข้าสู่เวทีโลกอย่างน่าภาคภูมิใจตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ล่าสุดได้รับรางวัล Prime Minister's Export Award 2012 หรือรางวัลผู้ส่งออกสินค้าและบริการดีเด่นประจำปี 2555 ประเภทใช้ตราสินค้าของตนเอง (Thai-Owned Brand) อีกด้วย
***สนใจติดต่อ 0-3849-1485 หรือที่ www.exoticfoodthailand.com ***
