ตัวอย่างคนสู้ชีวิต จากเกษตรกรหาเลี้ยงครอบครัวด้วยการทำนา ขายของหาบเร่ใน จ.เพชรบุรี กระทั่ง ลองฝึกทำขนมไทยชนิดต่างๆ กลายเป็นจุดพลิกผัน สู่เจ้าของผลิตภัณฑ์ขนมไทยเจ้าดังประจำเมืองเพชร มียอดขายหลักล้านบาทต่อเดือน ในชื่อ “แม่สมาน” โดยขายเป็นของฝากสำหรับนักท่องเที่ยว และส่งออกต่างประเทศ ไม่เท่านั้น ได้พัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ และมาตรฐานการผลิต สามารถวางขายในร้านสะดวกซื้อเจ้าดังอย่าง “เซเว่น อีเลฟเว่น” ช่วยกระจายความอร่อย พาของดีเมืองเพชรสู่มือผู้บริโภคทั่วประเทศ
สมาน กลิ่นนาคธนกร เจ้าของผลิตภัณฑ์ขนมไทย “แม่สมาน” เล่าชีวิตยิ่งกว่าละครของตัวเองให้ฟังว่า เป็นชาว ต.ห้วยโรง อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี โดยกำเนิด เดิมฐานะทางบ้านยากจนมาก มีโอกาสเรียนหนังสือแค่ ป.4 ต้องออกมาเลี้ยงชีพด้วยการทำนา กับรับจ้างทั่วไป มีรายได้ไม่กี่บาทต่อวัน
หลังจากมีครอบครัว ได้ย้ายมาขออาศัยอยู่กับญาติในตัวเมือง จ.เพชรบุรี ทำอาชีพหาบเร่ขายข้าวมันส้มตำเพื่อเลี้ยงดูครอบครัว โดยเฉพาะลูกตัวน้อยทั้ง 3 คน
ด้วยความยากจน ไม่มีทางเลยที่เวลานั้น ป้าสมานจะหาซื้อขนม หรือของเล่นเล็กๆ น้อยๆ เพื่อเป็นความสุขแก่ลูกๆ บ้าง ทว่า สิ่งที่เจ็บปวดที่สุด คือ สายตาของลูกๆ ที่มักต้องมองเพื่อนๆ กินขนมไทยอย่างเอร็ดอร่อย ในขณะที่ลูกของเธอ ทำได้แค่กลืนน้ำลาย จุดนี่เอง จึงคิดหันมาทำขนมหวานขายบ้าง เพราะอย่างน้อยๆ ถึงจะขายไม่ได้ แต่ลูกก็ยังได้กินขนมเหมือนเพื่อนเช่นกัน
“ป้าเริ่มทำขนมเมื่อปี พ.ศ.2518 ก่อนหน้านี้ ป้าไม่เคยทำขนมไทยมาก่อนเลย แต่อาศัยที่เราเป็นคนเพชรบุรี ก็จะคุ้นเคยกับขนมไทยต่างๆ อยู่แล้ว ทำตอนแรก อาศัยครูพักลักจำ ลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง ทุกครั้งที่ป้าเอาขนมไปขาย ป้าจะถามลูกค้าว่า “อร่อยไหมจ้ะ ขอให้บอกจริงๆ เลย ไม่ต้องเกรงใจ” ซึ่งแรกๆ ได้รับคำติมากกว่าคำชม แต่ด้วยความสงสารลูกค้าก็จะช่วยอุดหนุน และมักแนะนำเคล็ดลับต่างๆ ให้ ป้าก็นำมาพัฒนาค้นหาสูตรของตัวเอง จนขายดีขึ้นเรื่อยๆ จากทำวันละไม่กี่สิบชิ้น ก็เพิ่มจำนวนทำมากขึ้นเรื่อยๆ จากทำกันเองในครัวเรือน ก็ต้องสร้างโรงงานทำขนมของตัวเอง เพื่อส่งขายทั่วทั้งจังหวัดเพชรบุรี” ป้าสมาน เล่า
ในช่วงแรกนั้น ป้าสมานเริ่มต้นจากทำขนมใส่ไส้ ข้าวต้มมัด และตะโก้ จากนั้นเพิ่มเติมทำขนมไทยนานาชนิด รวมแล้วกว่า 30 ชนิด โดยสินค้าที่ได้รับความนิยมอันดับต้นๆ ได้แก่ หม้อแกง และข้าวเหนียวตัด การันตีคุณภาพเป็นโอทอป 5 ดาวประจำจังหวัด
สำหรับช่องทางขาย มีหน้าร้านของตัวเองชื่อ “ร้านเพ็ชรสมาน” อยู่ในตลาดสด จ.เพชรบุรี รวมถึง จะขายส่งให้ตามร้านขายขนมของฝากต่างๆ ใน จ.เพชรบุรี ซึ่งนำไปติดชื่อของตัวเอง ที่มักจะมีชื่อขึ้นต้นนำว่า “แม่....” ต่างๆ โดยแท้จริงแล้วส่วนหนึ่งผลิตจากร้าน “แม่สมาน” นี่เอง นอกจากนั้น ยังมีตัวแทนสั่งออเดอร์ไปขายยังต่างประเทศ เช่น สหรัฐฯ ยุโรป ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น เป็นต้น
ป้าสมาน เผยถึง สูตรเด็ดเคล็ดลับแห่งความอร่อยนั้น ต้องมาจากใช้วัตถุดิบคุณภาพดี รับซื้อจากเจ้าประจำที่ค้าขายกันมานับสิบปี โดยทำขนมสดใหม่วันต่อวันไม่มีเหลือเก็บค้างคืน นอกจากนั้น ยังมีเทคนิคการทำขนมเฉพาะตัว เช่น การอบขนมหม้อแกงจะอบโดยชักเอาและออกจากเตาสลับกันไป เพื่อให้หน้าขนมสวยงาม ไม่เกิดฟองอากาศ อีกทั้ง จะใช้น้ำตาลโตนด เพื่อได้ความหวานหอมตามแบบฉบับขนมเมืองเพชรแท้ๆ เป็นต้น
และที่สำคัญที่สุด คือ ต้องรู้ถึงพฤติกรรมและความชอบของลูกค้าแต่ละกลุ่มด้วย เพื่อจะทำขนมให้ออกมามีรสชาติตรงกับความพอใจของลูกค้าแต่ละกลุ่มมากที่สุด
“ขนมของป้าที่ส่งให้ลูกค้าแต่ละกลุ่ม ถึงจะเป็นขนมชนิดเดียวกัน แต่บางครั้ง รสชาติจะต่างกันไปเล็กน้อย เช่น คนกรุงฯ จะชอบรสหวานน้อย ส่วนลูกค้าท้องถิ่นจะชอบรสหอมมัน เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ มันมาจากการที่เราฟังคำแนะนำจากลูกค้าเพื่อมาพัฒนาขนมของเราให้ตรงกับความพอใจของลูกค้ามากที่สุด ซึ่งป้าจะจดสูตรขนมแต่ละชนิดไว้ เวลาผลิตใช้วิธีชั่งตวงวัด ให้ได้รสที่ลูกค้าแต่ละกลุ่มชอบเหมือนเดิมทุกครั้ง” ป้าสมาน อธิบายเสริม
แม้ใน จ.เพชรบุรี จะมีผู้ผลิตขนมหวานหลายราย อีกทั้ง สินค้าล้วนใกล้เคียงกันไปหมด แต่สิ่งที่เป็นจุดเด่นของขนม “แม่สมาน” นั้น ป้าสมานชี้มาที่ความไว้วางใจจากคนท้องถิ่น หากเป็นชาวเพชรบุรีแท้ๆ ถ้าจะซื้อขนมหวานกินเอง มักเจาะจงของ “แม่สมาน” เพราะเชื่อใจในรสชาติความอร่อยจากการเป็นผู้ผลิตตัวจริง
หลังประสบความสำเร็จ จากการเป็นผู้ผลิตเจ้าดังประจำจังหวัดแล้ว ป้าสมานยังไม่หยุดที่จะพัฒนาธุรกิจ โดยเมื่อปี พ.ศ.2552 ตัดสินใจขยายช่องทางตลาด ขายผ่านร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น (7-11) ซึ่งได้รับคำปรึกษาธุรกิจ และพัฒนาสินค้าเหมาะขายทั่วประเทศ ภายใต้ชื่อใหม่ว่า ‘เพชรบ้านแจม’
“ทาง 7-11 มีโครงการสนับสนุนสินค้าของเอสเอ็มอีไทยให้เข้าขายในร้าน เพื่อเพิ่มช่องทางตลาด ทำให้ป้าเกิดความสนใจมาก เมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว จึงติดต่อเข้าไป หลังจากนั้น ทาง 7-11 ส่งทีมงานมาช่วยสนับสนุนทั้งเรื่องคำปรึกษา พัฒนาบรรจุภัณฑ์และสินค้าให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค รวมถึง ช่วยดูแลเรื่องระบบมาตรฐานการผลิต โรงงาน ให้ได้มาตรฐานสากลครบถ้วน สามารถส่งออกต่างประเทศได้” เจ้าของธุรกิจ เผยและเล่าต่อว่า
ใช้เวลาพัฒนาสินค้าร่วมกับทาง 7-11 นานนับปี โดยขนมไทยที่จะวางขายในร้านสะดวกซื้อ เน้นเป็นขนมชนิดแห้งสามารถเก็บไว้ขายได้นาน สินค้าชิ้นแรกของแบรนด์ ‘เพชรบ้านแจม’ คือ ข้าวแต๋นน้ำแตงโม จากนั้น ได้พัฒนาสินค้าอื่นๆ ออกมาต่อเนื่อง ได้แก่ ขนมผิง และลูกอมกะทิ โดยเข้าวางขายในร้านสะดวกซื้อ 7-11 กว่า 7,000 สาขาทั่วประเทศ
จากขนมไทยเจ้าดังเมืองเพชร ซึ่งประสบความสำเร็จอยู่แล้ว เมื่อได้ช่องทางขายที่กว้างขึ้น ยิ่งทำให้ยอดขายเติบโตเพิ่มเป็นทวีคูณ โดยปัจจุบัน ป้าสมานเผยว่า ต่อเดือนมียอดทำขนมไม่ต่ำกว่าหลักหมื่นชิ้น สร้างรายได้ยังไม่หักค่าใช้จ่ายอยู่ที่หลักล้านบาทต่อเดือน ช่วยสร้างงานสร้างรายได้ให้แก่กลุ่มสมาชิกกลุ่มกว่า 40 คน
และที่สำคัญที่สุด คือ ความภาคภูมิใจที่อาชีพนี้ สามารถหารายได้ เลี้ยงดูลูกทั้ง 3 คนจนเติบใหญ่ และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีทุกคน ซึ่งปัจจุบัน ทั้ง 3 ได้กลับมาเป็นเสาหลัก ช่วยให้สินค้าได้รับการพัฒนาขึ้นอย่างมาก และมีช่องทางตลาดขยายไปทั่วทั้งประเทศแล้ว
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
โทร.081-995-8317 , 032-447-032