ชี้ธุรกิจกาแฟในไทยแนวโน้มยังอยู่ในช่วงขาขึ้น แนะ ผปก.และเกษตรกรเร่งเตรียมพร้อมรับเปิด AEC เตรียมจัดมหกรรมเสริมศักยภาพ Thailand ASEAN Coffee & Tea 2012 ระหว่างวันที่ 25-30 ก.ย.นี้ ณ ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ ชูเพื่อธุรกิจกาแฟไทยครบวงจร
นายสุวิทย์ ชัยเกียรติยศ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยพืชสวน กรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า ปัจจุบันผู้บริโภคกาแฟในประเทศไทยได้ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นโอกาสที่ดีของเกษตรกรและผู้ประกอบการกาแฟ อย่างไรก็ตาม จากการเข้าสู่เขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) ที่ได้เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2553 นั้น ได้มีข้อกำหนดเกี่ยวข้องกับสินค้ากาแฟที่ต้องลดภาษีการนำเข้าเป็น 0% ให้แก่ประเทศสมาชิกอาเซียน อีกทั้งยังมีกรอบความร่วมมือกลุ่มประเทศอาเซียน+3 (จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น) และอาเซียน+6 (จีน เกาหลีใต้ นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น อินเดีย) ซึ่งเป็นผลให้เกิดการแข่งขันทางธุรกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อีกทั้งรูปแบบการปลูกกาแฟในปัจจุบันยังเป็นสาเหตุหนึ่งที่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนั้น ในอนาคตเมื่อเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) แล้วการแข่งขันจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ดังนั้น ผู้ประกอบการไทย รวมถึงเกษตรกรไทยต้องเร่งปรับตัวรองรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
“แม้ที่ผ่านมาการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมา เกษตรกรและผู้ประกอบการกาแฟของไทยยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากประเทศไทยจัดให้กาแฟเป็นสินค้าอยู่ในประเภทอ่อนไหว พร้อมทั้งมีมาตรการปกป้องภาคการผลิตกาแฟภายในประเทศ อีกทั้งยังได้มีเงื่อนไขการนำเข้ากาแฟ แต่อีก 2 ปี การเข้าเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) กาแฟไทยจะเข้าสู่การแข่งขันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้” นายสุวิทย์กล่าว
ทั้งนี้ เพื่อเตรียมพร้อมรองรับปัญหาที่จะเกิดขึ้น กรมวิชาการเกษตรจึงได้ประสานงานกับสมาคมกาแฟและชาไทยและเอกชนทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมแสวงหามาตรการ เพิ่มทักษะ ความรู้ ขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยหนึ่งในนั้นคือ การร่วมมือจัดงาน Thailand ASEAN Coffee & Tea 2012 ขึ้นระหว่างวันที่ 25-30 กันยายน 2555 ณ หอประชุมมหิศร ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่
ด้านนายธีรวัฒน์ วงค์วรทัต นายกสมาคมกาแฟและชาไทย เผยว่า งานดังกล่าวถือเป็นงานประจำปีของวงการกาแฟ ชา และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง โดยมีกิจกรรมแสดงสินค้ากาแฟ ชา และเทคโนโลยีระดับอาเซียน มีประเทศต่างๆ ในอาเซียน รวมทั้งจีน อิตาลี และญี่ปุ่น พร้อมทั้งผู้ประกอบการในต่างประเทศเข้าร่วมแสดงมากมาย ศูนย์กลางจัดประชุม สัมมนา แลกเปลี่ยนทักษะความรู้ ประสบการณ์ระหว่างกัน โดยมุ่งหวังที่จะพัฒนาให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการแปรรูปกาแฟของกลุ่มประเทศอาเซียนในอนาคต
นอกจากนั้นยังเปิดเวทีจัดประชุมสัมมนาแลกเปลี่ยนทักษะ ความรู้ ความคิดเห็น ประสบการณ์ แสวงหาความร่วมมือทางการค้า การลงทุน และการส่งเสริมพัฒนากาแฟ ชาระหว่างกัน การเจรจาธุรกิจ จัดการฝึกอบรม โดยมีวิทยากรผู้มีประสบการณ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศมาให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการ
รวมถึงยังมีการแข่งขันชิงสุดยอดนักชงกาแฟเวทีแรกของประเทศไทย “Thailand Barista & Latte Art Championship” การจัดแสดงจัดนิทรรศการกาแฟที่ได้รับสัญลักษณ์ด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม เช่น Rainforest Fair-trade Bird friendly และ Organic การประกาศเกียรติคุณแก่บุคคล หน่วยงาน องค์กรและโครงการที่สร้างคุณประโยชน์แก่วงการกาแฟ ชา ของประเทศไทยและประเทศในกลุ่มอาเซียน
