xs
xsm
sm
md
lg

ม.กรุงเทพเปิดหลักสูตรแฟชั่น-ความงาม ปั้น SMEs รับมือ AEC

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

 ผศ.ดร.เกษมสันต์ พิพัฒน์ศิริศักดิ์ ผู้อำนวยการหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (เอ็มบีเอ)
มหาวิทยาลัยกรุงเทพเล็งเห็นถึงการเติบโตของธุรกิจแฟชั่นและความงาม เปิดหลักสูตร MBA (เอสเอ็มอี) แฟชั่นและความงาม ครั้งแรกของเอเชีย รองรับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน AEC ในปี 2558 เปิดสอนเสาร์-อาทิตย์ ระยะเวลาปีครึ่ง ค่าเรียน 1.9 แสนบาท

ผศ.ดร.เกษมสันต์ พิพัฒน์ศิริศักดิ์ ผู้อำนวยการหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (เอ็มบีเอ) และกรรมการที่ปรึกษาบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เปิดเผยว่า ทางมหาวิทยาลัยกรุงเทพได้เล็งเห็นถึงศักยภาพการเติบโตของธุรกิจแฟชั่น และความงามที่มีมูลค่าตลาดรวมนับแสนล้านบาทต่อปี และเพื่อให้สอดคล้องกับบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และจำนวนผู้ประกอบการจำนวนมาก และยังไม่มีสถาบันการศึกษาใดที่เปิดหลักสูตรการเรียนการสอนเพื่อพัฒนา SMEs กลุ่มนี้ให้เติบโตอย่างเข้มแข็ง และรองรับการปรับตัวเพื่อรับมือการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558

ทั้งนี้ ทางมหาวิทยาลัยกรุงเทพจึงได้เปิดหลักสูตรการบริหารการจัดการธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาธุรกิจความงาม และแฟชั่น หลักสูตรนี้เปิดเป็นปีการศึกษาแรกและเป็นที่แรกของประเทศไทย และเอเชีย ซึ่งหลักสูตรดังกล่าวนี้ช่วยผู้ประกอบการคนไทยหลายคนที่มีองค์ความรู้ด้านแฟชั่น และความงามอยู่แล้ว แต่ขาดศักยภาพในการบริหารธุรกิจ แทนที่จะเดินทางออกไปเรียนต่างประเทศ และเป็นการสร้างโอกาสSMEs ไทยในการก้าวเข้าสู่ AEC

สำหรับกลุ่มเป้าหมายนักศึกษาหลักสูตรนี้แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกคือ SME ที่ทำธุรกิจความงามและแฟชั่นอยู่แล้ว กลุ่มที่สองคือ นักศึกษาที่จบทางด้านศิลปกรรมที่เน้นด้านแฟชั่น ซึ่งปริญญาตรีจะเน้นเรียนในเรื่องศาสตร์ของศิลป์อย่างเดียว แต่หลักสูตรนี้จะสอนการต่อยอดเอาศิลปะเหล่านี้ออกไปทำเงิน เพราะปัจจุบันมีศิลปะอย่างเดียวธุรกิจก็อยู่ไม่รอด ต้องใช้ศิลปะบวกการตลาด ส่วนกลุ่มที่สามคือ คนที่เพิ่งค้นพบชีวิต หลังจากที่เรียนจบปริญญาตรีไปตามกระแส

โดยหลักสูตร MBA SMEs สาขาธุรกิจความงามและแฟชั่น เป็นหลักสูตรเสาร์-อาทิตย์ ระยะเวลาการเรียนการสอน 1 ปีครึ่ง ค่าใช้จ่าย 1.9 แสนบาท เนื้อหาจะแบ่งออกเป็นหลักสูตร SME ทั่วไป โดยวิชาหลักจะมีทั้งด้านบัญชีและภาษี ซึ่งเป็นจุดที่ SME ไทยขาด รวมทั้งวิชาวางแผนทางการเงิน เพราะปัญหา SME ไทยที่เจอคือบริหารเงินไม่เป็น ทำให้ไม่สามารถกู้เงินจากสถาบันการเงินได้ เลยทำให้ธุรกิจต้องล้มเลิกไป โดยเฉพาะในภาวการณ์ปัจจุบันที่รัฐบาลประกาศขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท SME เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด

ดังนั้น เราจะมาปรับความคิดของเขาว่าหลังจากได้รับผลกระทบในเรื่องต้นทุน เขาควรจะมีแนวทางอย่างไรในการบริหารต้นทุน ซึ่งคณาจารย์ที่เราเชิญมาสอนก็จะเป็นคณาจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของการเงินส่วนบุคคล ขณะเดียวกันก็จะมีการเชิญอาจารย์จากภาคอุตสาหกรรมซึ่งประกอบวิชาชีพ SME แต่ได้รับคุณวุฒิสูง จบปริญญาเอกมาให้คำแนะนำ”

นอกจากนี้ยังมีวิชาด้านการตลาด ซึ่ง SME ปัจจุบันยังขาดทักษะในเรื่องการตลาด ในขณะเดียวกันเราก็พบอีกว่า SME บางคนยังอยู่ในภาคอุตสาหกรรม ก็เลยเปิดในเรื่องของการผลิตให้เขาเรียนด้วย และที่ขาดไม่ได้คือ การวางแผนทรัพยากร ตบท้ายด้วยวิชาการวางแผนกลยุทธ์ในมุมมองของ SME จากนั้นจะให้เลือกวิชาเลือกที่ถนัด โดยทุกคนจะต้องทำโครงการเพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่ตัวเองเรียนอยู่นั้นเอาไปใช้ได้จริง ซึ่งในส่วนสาขาธุรกิจความงามจะเน้นในเรื่องการสร้างตราสินค้าให้ก้าวไปในระดับสากล

ทั้งนี้ ที่สำคัญเรายังจัดชั่วโมงให้คำปรึกษาจาก SME ตัวจริงที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านทรงผม ดร.สมศักดิ์ ชลาชล ให้เกียรติมาเป็นผู้เชี่ยวชาญในวิธีการดำเนินธุรกิจ ส่วนสายแฟชั่นได้แก่ อ.พลพัฒน์ อัศวประภา เจ้าของแบรนด์ asava ส่วนสายเครื่องสำอาง ความงาม ได้แก่ พญ.นลินี ไพบูลย์ จากกิฟฟารีนมาให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการทำธุรกิจ และการพัฒนาหลักสูตรด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น