กรมการปกครองเชื่อ อส.นราฯ พลิกธุรกิจฟื้นหลังลดรุนแรง

รองอธิบดีกรมการปกครองชี้สมาชิกกองอาสารักษาดินแดง 3 จังหวัดชายแดนใต้ช่วยกระตุ้นภาคธุรกิจฟื้นตัวเร็ว ชูกลยุทธ์ใกล้ชิดชาวบ้านลดความรุนแรง เผยนักลงทุนเห็นโอกาสด้านขนส่งไปมาเลเซียแห่ลงทุนเพิ่ม ด้านผู้ว่าฯ นราธิวาส มั่นใจชาวบ้านพร้อมเข้า AEC หลังไม่พบปัญหาด้านภาษา

นายอภิชาติ เทียวพานิช รองอธิบดีกรมการปกครอง เปิดเผยถึงบทบาทของสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) ในจังหวัดนราธิวาส ว่า ขณะนี้สถานการณ์ความรุนแรงในจังหวัดนราธิวาสค่อนข้างน้อยตั้งแต่ต้นปี 2555 ที่ผ่านมา โดยส่วนหนึ่งมาจากการจัดตั้งสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน หรือ อส.ซึ่งเป็นชาวบ้านในท้องถิ่นมีความใกล้ชิดกับชาวบ้าน คอยดูแลรักษาความปลอดภัย ร่วมกับตำรวจและทหาร ส่งผลให้เหตุการณ์ความรุนแรงลดลงอย่างเห็นได้ชัด และในขณะเดียวกัน ในแง่เศรษฐกิจก็ฟื้นตัวเร็ว ชาวบ้านสามารถกลับไปประกอบอาชีพดั้งเดิมได้ อย่าง การกรีดยาง และการค้าขายกับประเทศมาเลเซีย

ทั้งนี้ จังหวัดนราธิวาสมีสมาชิก อส.จำนวน 336 นาย กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน 19 นาย ชุดรักษาความสงบเรียบร้อย (ผรส.) 95 นาย ชุดรักษาความสงบเรียบร้อยในหมู่บ้าน (ชรบ.) 570 นาย ชุดคุ้มครองตำบล 30 นาย และชุดคุ้มครองหมู่บ้าน 10 บ้าน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านในท้องถิ่นช่วยดูแลความปลอดภัยชาวบ้านด้วยกันเองทำให้ชาวบ้านไว้วางใจ พร้อมให้ความร่วมมือเป็นหูเป็นตาแทนทหารและตำรวจได้เป็นอย่างดี

“การที่เหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ลดน้อยลงก็ส่งผลดีหลายด้าน โดยเฉพาะสภาพเศรษฐกิจชาวบ้านกลับมาประกอบอาชีพได้เหมือนเดิม รวมถึงนักลงทุนมองเห็นความได้เปรียบด้านการขนส่งสินค้าไปยังประเทศมาเลเซีย หันมาลงทุนภาคการผลิตหรือแปรรูปสินค้า เช่น ยางพารา กันมากขึ้น เนื่องจากอาชีพหลักของชาวนราธิวาสคือทำเกษตรกรรม ค้าขาย เลี้ยงสัตว์ โดยสินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ วัว แกะ และแพะ” รองอธิบดีกรมการปกครองกล่าว

ด้านนายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ขณะนี้ถือว่าการเตรียมความพร้อมในเรื่องบุคลากรเพื่อเตรียมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC นั้น ตนเองไม่รู้สึกกังวล เนื่องจากมีการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานอย่างเต็มที่ เพื่อพร้อมก้าวเป็นแรงงวานฝีมือในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน ในขณะที่ด้านภาษาถือว่ามีความพร้อม 100% เนื่องจากปัจจุบันชาวบ้านก็สามารถใช้ภาษามาลายูซึ่งเป็นภาษาท้องถิ่นกันอยู่ ซึ่งสามารถติดต่อสื่อสารทำการค้าขายกับประเทศมาเลเซียได้เต็มที่ โดยเฉพาะประชาชนในจังหวัดนราธิวาส ดังนั้นถือว่าขณะนี้ 3 จังหวัดชายแดนมีความพร้อมที่จะดำเนินการค้าขายในทุกด้าน เมื่อมีการเข้าสู่ AEC