ในอดีตภาพที่คนทั่วไปจะจดจำเกี่ยวกับโรงรับจำนำมักจะเป็นร้านตึกแถวเก่าๆ บรรยากาศดูอับทึบ ผู้จะมาใช้บริการต้องคอยหลบๆ ซ่อนๆ เข้าไปมักเจออาแปะแก่ๆ ท่าทางไม่เป็นมิตรคอยตีราคาสินค้า และเมื่อออกจากร้านต้องซ่อนนิ้วโป้งไว้ เพราะกลัวคนอื่นจะเห็นคราบดำ
ความไม่สะดวกสบายดังกล่าว จุดไอเดียนำมาสู่ธุรกิจโรงรับจำนำมิติใหม่ “อีซี่ มันนี่” (Easy Money) ที่พลิกโฉมตั้งแต่รูปลักษณ์ภายนอก ที่เป็นอาคารเปิดไฟสว่างสดใส สถานที่สะอาด พนักงานแต่งกาย และพูดจาสุภาพเรียบร้อย รวมไปถึงบริการที่เป็นมาตรฐานระดับธนาคาร หรือสถาบันการเงินชั้นนำ
สิทธิวิชญ์ ตั้งธนาเกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตั้งธนสิน จำกัด และผู้ก่อตั้งโรงรับจำนำ “อีซี่ มันนี่” เล่าว่า ธุรกิจโรงรับจำนำ “อีซี่ มันนี่” เกิดจากแนวคิดที่มองว่า โรงรับจำนำเป็นสถาบันการเงินเก่าแก่ และเป็นที่พึ่งของผู้ที่มีความต้องการใช้เงินอย่างปัจจุบันทันด่วน โดยมีขั้นตอนง่ายๆ ไม่ซับซ้อน เพียงแค่นำทรัพย์สินมาตีราคา โดยใช้เพียงบัตรประชาชนใบเดียว ไม่ต้องเตรียมเอกสาร ไม่ต้องมีใบรับรองอาชีพ ไม่ต้องมีเครดิตหรือผู้ค้ำประกันใดๆ จึงถูกกับอัธยาศัยของคนไทยซึ่งชอบความเรียบง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในยามที่ต้องการเงินฉุกเฉิน การจำนำทรัพย์สินจะเป็นที่พึ่งที่สะดวกรวดเร็วที่สุด ทำให้โรงรับจำนำเป็นสถาบันการเงินอยู่คู่สังคมไทยมาช้านาน
อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะมีโรงรับจำนำกันมาเป็นร้อยปี แต่การจำนำทรัพย์กลับยังจำกัดอยู่ในแวดวงแคบ ทั้งๆ ที่มีผู้คนมากมายที่มีทรัพย์สิน และต้องการสภาพคล่องเพื่อมาลงทุนทำธุรกิจ แต่ไม่นิยมใช้บริการโรงรับจำนำซึ่งค่อนข้างง่ายและสะดวก จากการตั้งข้อสังเกตดังกล่าว นำไปสู่การหาข้อมูลและวิเคราะห์ตลาดโรงรับจำนำ ทำให้พบว่ามีอุปสรรคหลายประการที่ทำให้ผู้คนจำนวนมากไม่อาจเข้าถึงแหล่งเงินทุนลักษณะนี้ได้
“ปัจจัยที่คนจำนวนมากไม่กล้าใช้บริการโรงรับจำนำ มาจากรูปลักษณ์โรงรับจำนำส่วนใหญ่ไม่เชิญชวนให้คนเข้าไปใช้บริการ ทั้งปิดทึบ มีลูกกรงถึงเพดาน แม้จะมีความจำเป็นด้านการเงิน แต่บรรยากาศแบบนี้ทำให้คนส่วนใหญ่ไม่กล้าเข้าไปลองใช้บริการ บางคนรู้สึกเหมือนถูกเอารัดเอาเปรียบ ไม่มีอำนาจต่อรอง ถูกกดราคา และตกอยู่ในภาวะจำยอมทุกครั้งที่ไปจำนำ รวมถึงบางครั้งผู้ให้บริการพูดจาไม่สุภาพ หรือไม่ให้เกียรติ
นอกจากนั้น ลูกค้าห่วงทรัพย์สินที่นำไปจำนำ เกรงว่าจะเสียหาย ไม่ได้รับการดูแลที่ดี บางคนถึงกับวิตกกังวลว่าสร้อยทองบางข้อจะถูกแอบตัดไปหรือไม่ เนื่องจากมีหลายกรณีที่เมื่อลูกค้าไถ่ถอนทรัพย์ออกมาแล้วพบว่าทรัพย์สินเกิดความเสียหาย” สิทธิวิชญ์อธิบาย
จากปัจจัยดังกล่าวนำมาสู่โรงรับจำนำรูปแบบใหม่เพื่อแก้โจทย์ดังกล่าว โดยมุ่งเน้นที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนระยะสั้นที่สามารถแปลงทรัพย์สินของตนเองเป็นเงินทุนด้วยขั้นตอนง่ายๆ ตลอดจนลูกค้าสามารถไว้วางใจได้อย่างเต็มร้อยว่า เมื่อครบกำหนดไถ่ถอนและมารับทรัพย์สินกลับไป ทรัพย์ของท่านจะยังคงสภาพดีเหมือนเดิมทุกประการ
สิทธิวิชญ์ ผยว่า ร้าน “อีซี่ มันนี่” มีเอกลักษณ์เป็นร้านที่สว่างไสว โอ่โถงโปร่งสบาย สีสันสดใสสะดุดตา เคาน์เตอร์เป็นกระจก ผู้รับจำนำแต่งกายสุภาพ พูดจาอ่อนน้อม โดยอบรมพนักงานทุกคนให้ตระหนักว่าลูกค้าทุกท่านคือคนสำคัญของเรา
“เราวางตำแหน่งให้ “อีซี่ มันนี่” ไม่ได้เป็นเพียงโรงรับจำนำ แต่เราคือสถาบันการเงินชั้นนำที่เชี่ยวชาญด้านการรับจำนำ ลูกค้าที่เข้าร้านคล้ายไปใช้บริการธนาคาร หรือสถาบันการเงินชั้นนำ ขยายฐานลูกค้าจากประชาชนทั่วไป มาสู่กลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนทางเลือกสำหรับเอสเอ็มอีที่ต้องการใช้เงินด่วนเพื่อหมุนเวียนธุรกิจ สามารถนำทรัพย์มาแปลงเป็นทุนได้” เจ้าของธุรกิจระบุ
สำหรับการบริการนั้นจะแตกต่างจากโรงรับจำนำในอดีตอย่างชัดเจน ด้วยการนำระบบคอมพิวเตอร์มาให้บริการ ตั้งแต่การทำบาร์โค้ดสินค้าที่รับจำนำ ระบบสแกนนิ้วมือเพื่อเก็บข้อมูลลูกค้า ระบบออกใบเสร็จ รวมถึงห้องเก็บทรัพย์สินที่ปลอดภัย และทรัพย์สินแต่ละชิ้นจะบรรจุในซองพลาสติกอย่างดี เพื่อให้ลูกค้าได้ทรัพย์สินกลับคืนในสภาพที่เหมือนเดิมทุกประการ
ในส่วนการประเมินราคาทรัพย์สินที่จะนำมาจำนำนั้น เจ้าของธุรกิจระบุว่า ทำการประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญซึ่งมีความชำนาญในทรัพย์แต่ละประเภท ใช้เวลาในการพิจารณารวดเร็วไม่เกิน 3 นาที คิดอัตราดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี หรือหากลูกค้านำทรัพย์มาจำนำ ระยะไถ่ถอนไม่เกิน 5 เดือนจะคิดตาม พ.ร.บ.โรงรับจำนำ คือ ต้องการเงินต้นไม่เกิน 2,000 บาทจะเสียอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2 ต่อเดือน แต่หากต้องการเงินต้นเกิน 2,001 บาทขึ้นไป คิดดอกเบี้ยร้อยละ 1.25 ต่อเดือน วงเงินสูงสุดในการปล่อยกู้คือ 100,000 บาทต่อตั๋วจำนำหนึ่งใบ
สำหรับทรัพย์สินที่รับจำนำ ครอบคลุมทั้งประเภทเครื่องประดับ เช่น ทองคำ เพชร นาฬิกา แหวน สร้อย ฯลฯ รวมถึงเครื่องไฟฟ้าต่างๆ เช่น คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก แท็บเล็ต โทรทัศน์ กล้องดิจิตอล ฯลฯ โดยมีนโยบายให้ราคาสูงสุดเท่าที่จะอำนวยให้ได้ ระยะเวลาในการไถ่ถอน จะให้ลูกค้าเป็นผู้เลือกเองว่าจะมาชำระคืนเมื่อใดก็ได้ภายในระยะเวลา 5 เดือน และสามารถจะต่อตั๋วจำนำ (Roll Over) ออกไปได้อีกเป็นระยะเวลาที่ลูกค้าต้องการ ซึ่งอาจจะเพิ่มเป็นเวลาหลายเดือน หรือหลายปีก็ได้
สิทธิวิชญ์เผยด้วยว่า โรงรับจำนำ “อีซี่ มันนี่” เริ่มเปิดมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 มีสาขาแรกอยู่ที่เมืองรังสิต ติดโรงพยาบาลปทุมเวช ที่ผ่านมามีอัตราเติบโตขึ้นสม่ำเสมอเฉลี่ยร้อยละ 60 ต่อปี ถึงปัจจุบันมีสาขาอยู่ 12 แห่ง เช่น จ.พระนครศรีอยุธยา จ.นนทบุรี ตลาดนอก จ.สระบุรี และเอกชัย จ.สมุทรสาคร มีลูกค้าใช้บริการแล้วกว่า 1.4 ล้านราย คิดเป็นเงินหมุนเวียนกว่า 2.5 หมื่นล้านบาท และมีเป้าหมายจะขยายเพิ่มถึง 21 สาขาภายในสิ้นปีนี้ (2555) เช่น ย่านบางนา จ.ลพบุรี จ.สมุทรปราการ จ.ชลบุรี จ.ขอนแก่น เป็นต้น โดยใช้งบลงทุนประมาณ 50-60 ล้านบาทต่อสาขา
ในปัจจุบันฐานลูกค้าของ “อีซี่ มันนี่” มีค่อนข้างหลากหลายตั้งแต่ระดับพ่อค้า-แม่ค้า ผู้มีรายได้ประจำ อีกทั้งกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจระดับเอสเอ็มอีรายย่อยๆ มีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างสูง เพราะไม่สามารถเข้าใช้บริการสถาบันการเงินได้
“จากสภาพเศรษฐกิจชะลอตัว และค่าครองชีพ ค่าแรงที่สูงขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจำนวนมากที่ต้องการสภาพคล่อง แต่ไม่มีความสามารถในการเข้าหาแหล่งเงินทุนหรือเข้าถึงได้ยาก อีกทั้งธนาคารและสถาบันการเงินต่างๆ ก็เพิ่มความเข้มงวดในการพิจารณาสินเชื่อ ทำให้เอสเอ็มอีที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียนระยะสั้นอย่างเร่งด่วนจะเข้ามาใช้บริการของเราแทน ทำให้ “อีซี่ มันนี่” เป็นทางเลือกใหม่ของเอสเอ็มอีในการแปลงทรัพย์เป็นทุน” สิทธิวิชญ์กล่าว
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@