สองเพื่อนซี้ “กาญจนา กำแพงแก้ว” และ “เกศรินทร์ อิทธิพันธุ์กุล” บุกเบิกตุ๊กตาเพนท์ลายแฮนด์เมดตัวจิ๋วเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว โดยทำเป็นงานอดิเรกหวังแค่หารายได้เสริมระหว่างเรียน ปัจจุบันได้เติบใหญ่เป็นธุรกิจระดับส่งออก ด้วยจุดเด่นพัฒนาดีไซน์เสมอ จนเตะตาสามารถเรียกรอยยิ้มจากผู้พบเห็นได้เป็นอย่างดี
กาญจนา เล่าว่า เริ่มทำตั้งแต่เรียนอยู่มหาวิทยาลัยปี 2 ที่ จ.เชียงใหม่ ช่วยกันคิดแบบ และลงขันเบื้องต้นแค่หลักร้อยบาท ทำกันเองสองคน แล้วนำไปวางขายที่ถนนคนเดิน จ.เชียงใหม่ เพื่อหารายได้เสริมเล็กๆ น้อยๆ ไม่ได้คาดหวังจะยึดเป็นอาชีพจริงจังแต่อย่างใด ทว่า กลับได้ผลตอบรับดีอย่างไม่น่าเชื่อ ลูกค้าวัยรุ่นและนักท่องเที่ยวนิยมซื้อหาไปเป็นของฝากของขวัญ ยิ่งไปกว่านั้น มีตัวแทนจากทั้งในและต่างประเทศ สั่งตุ๊กตาไปขายต่อจำนวนมาก ทำให้จากงานอดิเรกเริ่มตั้งไข่เป็นธุรกิจจริงจัง
“พวกเราเริ่มจากทำในสิ่งตัวเองชอบและสนุก โดยทำเป็นตุ๊กตาแฮนด์เมดแบบง่ายๆ ที่ดูแล้วน่ารักๆ แถมมีเสน่ห์ความเป็นงานแฮนด์เมด ด้วยการเพนท์ลายหน้าตาตุ๊กตาให้ออกมาดูอารมณ์ดี กวนๆ ตลก น่ารัก มีทั้งแบบเป็นคน สัตว์ และผีฯลฯ ทำเป็นพวงกุญแจและที่ห้อยโทรศัพท์มือถือ เหมาะซื้อกลับไปเป็นของที่ระลึก” เกศรินทร์ เสริม
หัวใจหลักที่ช่วยให้ตุ๊กตาแฮนด์เมด สามารถต่อยอดและเติบโตมาได้ถึงปัจจุบัน กาญจนา ระบุที่การพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ทั้งด้านการผลิต จากทำกันเอง ได้ขยายไปฝึกสอนวิธีทำแก่กลุ่มแม่บ้านในท้องถิ่นเพื่อสร้างแรงงานผลิต ขณะเดียวกัน ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ สม่ำเสมอ เพิ่มเติมทั้งตุ๊กตาลายสกรีน ตุ๊กตาตกแต่งด้วยกระดุม ตุ๊กตาถุงผ้า กระเป๋าผ้า ฯลฯ นับถึงปัจจุบันมีมากกว่าพันแบบ เพื่อตอบโจทย์ทางการตลาดและการผลิตได้กว้างและหลากหลายที่สุด นอกจากนั้น เพิ่มค่าด้วยสร้างเครื่องหมายการค้าของตัวเองในชื่อ “ยักษ์เล็ก สตูดิโอ” (YAKLEK STUDIO)
จากช่วงแรกที่เป็นผู้ผลิตสินค้าประเภทนี้ รายหลักรายเดียวในประเทศกว่า 6-7 ปี หลังจากนั้น เริ่มมีคู่แข่งทั้งใน และต่างประเทศ เช่น จีน ทำสินค้ารูปแบบใกล้เคียงออกมาแข่งขัน แล้วขายตัดราคาต่ำกว่า 20% อย่างไรก็ตาม ไม่ได้สร้างผลกระทบต่อ ‘YAKLEK STUDIO’ มากนัก เนื่องจากคุณภาพ ดีไซน์ และชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับและเชื่อถือจากลูกค้ามากกว่า
“ดีไซน์ตุ๊กตาแต่ละแบบจะจดลิขสิทธิ์การออกแบบไว้ทั้งหมด ช่วยป้องกันถูกเลียนแบบได้ส่วนหนึ่ง แต่สิ่งสำคัญที่ช่วยให้ลูกค้าเชื่อมั่นสั่งสินค้าของเราเสมอ คือ คุณภาพทั้งวัสดุที่เลือกใช้เกรดเอ และฝีมือช่างของเรา ที่เชี่ยวชาญทำกันมานาน ดังนั้น ตุ๊กตาของเราจึงมีรายละเอียดสูง ส่วนผู้ผลิตรายอื่นๆ เราก็ไม่ได้มองว่าเป็นคู่แข่ง เพราะแต่ละราย จะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างกันไป ดังนั้น สิ่งสำคัญ เราพยายามแข่งกันตัวเอง โดยพัฒนาดีไซน์ใหม่ๆ เพื่อให้สินค้าถูกใจลูกค้ามากที่สุด” เกศรินทร์ ระบุ
ตลาดหลักของ ‘YAKLEK STUDIO’ จะส่งออกกว่า 80% โดยเฉพาะประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งนิยมสินค้าเป็นอย่างยิ่ง ส่วนตลาดในประเทศ 20% มีตัวแทนในตลาดนัดสวนจตุจักร 3-4 รายรับไปขายต่อ นอกจากนั้น จะขายปลีกผ่านทางร้าน Loft และร้าน B2S ทุกสาขา มีสินค้ารวมกันนับพันรายการ ราคาตั้งแต่ตัวละ 35-350 บาท
กาญจนา เผยด้วยว่า กำลังผลิตขณะนี้ประมาณ 18,000 ชิ้นต่อเดือน ซึ่งยังไม่ทันต่อคำสั่งซื้อที่เข้าคิวรอล่วงหน้ายาวต่อเนื่องกว่า 3 เดือน ดังนั้น แผนอันใกล้จะเสริมแรงงาน ควบคู่กับขยายหาตลาดใหม่ๆ ด้วยการนำสินค้าไปฝากขายยังร้านค้าของขวัญของที่ระลึกในประเทศสหรัฐฯ และออสเตรเลีย ซึ่งเชื่อว่า เป็นตลาดที่ชื่นชอบตุ๊กตาดีไซน์แสนกวนเช่นกัน
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
โทร.08-1180-0989 และ08-1025-5595
