จากเหตุการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยและโลก ในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้หลายคนหันมาตระหนักในเรื่องของสิ่งแวดล้อมมากขึ้น รวมไปถึงผู้ผลิตสินค้า ผู้บริโภค ทุกคนต่างเริ่มคิดไปในทิศทางเดียวกัน ในการร่วมมือกันดูแลโลกใบนี้ ให้ปลอดภัยจากภัยพิบัตทางธรรมชาติ
สำหรับนักธุรกิจหนุ่มหัวใจสีเขียว ที่มีชื่อว่า “นายฐากูร โฆษินทร์เดชา” เจ้าของGREENVOLUTIONS.COM ได้เห็นถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการแสวงหาผลกำไรทางธุรกิจ จึงได้เป็นที่มาของ ผลิตภัณฑ์จากวัสดุทางธรรมชาติอย่าง “แกลบ” ในชุดจาน ชาม ช้อน และของใช้บนโต๊ะอาหาร ที่สามารถตอบโจทย์กลุ่มคนที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และรักษ์สุขภาพ ไปพร้อมๆ กัน เรียกได้ว่าไม่ว่าคุณจะให้ความสำคัญกับสิ่งไหนมากกว่า สุดท้ายก็ต้องซื้อสินค้าของ GREENVOLUTIONS
นายฐากูร เล่าว่า สำหรับผลิตภัณฑ์ GREENVOLUTIONS เป็นผลิตภัณฑ์ที่เราเลือกใช้วัตถุดิบหลัก คือ “แกลบ” โดยสินค้าที่ผลิตออกมาจำหน่าย ประกอบไปด้วย ผลิตภัณฑ์บนโต๊ะอาหาร และสินค้าในหมวดของอุตสาหกรรมหนักที่ใช้ในโรงงาน รวมถึง ผลิตภัณฑ์ในโรงแรม และสปา ที่เรากำลังจะแตกไลน์เพิ่มขึ้นมา แต่ผลิตภัณฑ์ที่สร้างชื่อและทำรายได้ให้กับเราขณะนี้อยู่ที่ กลุ่มของใช้บนโต๊ะอาหาร ในชุด Riceware
สำหรับ Riceware เป็นแบรนด์ที่สร้างขึ้นมา รองรับการทำตลาดในชุดของใช้บนโต๊ะอาหาร จุดเด่นอยู่ที่ เป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถย่อยสลายได้ในระยะเวลาอันสั้น เพราะเป็นสิ่งที่มาจากธรรมชาติ และไม่เป็นอันตรายและปลอดภัยจากสารพิษ เพราะใช้วัตถุดิบ คือ แกลบถึง 85% ที่เหลือเป็นลิกนิน 15% ดังนั้น กลุ่มที่รักษ์สุขภาพ จึงให้ความสำคัญและเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา และที่สำคัญ Riceware มีคุณสมบัติเดียวกับผลิตภัณฑ์เมลามีน คือทนความร้อนได้ถึง 120 องศาเซลเซียล จึงเป็นทางเลือกหนึ่ง สำหรับผู้ที่กลัวอันตรายจากผลิตภัณฑ์เมลามีน เปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์ของ Riceware แทน
"ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของใช้บนโต๊ะอาหาร อย่าง จาน ชาม ที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ ส่วนใหญ่ก็ยังไม่มีใครสามารถผลิตได้คุณสมบัติเช่นเดียวกับเรา เช่น ผลิตภัณฑ์จากมันสำปะหลัง หรือ ข้าวโพด ส่วนใหญ่ผลิตออกมาในลักษณะของที่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง เพราะยังไม่สามารถทำให้แข็งตัวได้ จึงขาดคุณสมบัติในเรื่องของความคงทนในการใช้งาน แต่ผลิตภัณฑ์จากแกลบสามารถทำให้แข็งตัว เมื่อนำไปใช้แล้ว ก็ล้างและนำมากลับมาใช้ใหม่ได้ ที่สำคัญไม่เป็นเชื้อรา ใช้ได้เหมือนกับจาน ชาม ทั่วๆไป”
ในส่วนของช่องทางการขาย เนื่องจาก ที่มาของผลิตภัณฑ์ดังกล่าว เกิดขึ้นในประเทศจีน และทางเจ้าของแนวคิดไม่ต้องการที่ทำต่อ ขายโนฮาวมาให้กับทางมาเลเซีย ซึ่งทางมาเลเซียเองก็ไม่พร้อมทำต่อ จึงตัดสินใจ ขายหุ้นบางส่วนให้กับผู้ประกอบการคนไทย คุณฐากูร จึงได้ตัดสินใจเข้าไปทำ แต่เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างทางผู้ประกอบการทางมาเลเซีย และไทย ปัจจุบันสัดส่วนการถือหุ้นใหญ่จะเป็นของคนไทย โดยมีหุ้น 3 ส่วน ที่เหลือเป็นมาเลเซีย โดยใช้ฐานการผลิตในประเทศจีน เพราะสามารถหาวัตถุดิบได้ง่ายและในราคาที่ถูกกว่ามาก เนื่องด้วยปัจจุบัน แกลบในประเทศไทย ถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ มากมาย ทำให้แกลบมีราคาสูงขึ้น และบางครั้งขาดแคลนวัตถุดิบ จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เราต้องใช้ฐานการผลิตในประเทศจีน
ส่วนช่องทางการจัดจำหน่าย ปัจจุบัน ส่งออกไปขายในต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่กว่า 90% ที่เหลือขายในประเทศเพียงเล็กน้อย สาเหตุอาจจะเป็นเพราะคนไทยเองไม่ตื่นตัวกับเรื่องของสิ่งแวดล้อม มากเท่ากับในต่างประเทศ แต่ถ้าขายคนไทย จะขายได้ในกลุ่มของคนรักษ์สุขภาพ เพราะคนไทยจะให้ความสำคัญกับเรื่องของสุขภาพมากก่อน เรื่องของสิ่งแวดล้อม โดยส่งออกไปประเทศในแถบเอเชีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ จีน เกาหลี ประเทศในกลุ่มยุโรป สหรัฐอเมริกา และตะวันออกกลาง แต่ยอดขายในแต่ละประเทศยังไม่มากนัก เนื่องจากเราเพิ่งแนะนำสินค้าให้เป็นที่รู้จักได้ไม่กี่เดือน โดยมียอดการสั่งซื้อในแต่ละประเทศเพียงแค่หลักร้อยชิ้นขึ้นไปเท่านั้น จะมีเพียงประเทศสหรัฐอเมริกาเพียงประเทศเดียวที่มีการ สั่งซื้อเป็นตู้คอนเทรนเนอร์ โดยคาดหวังยอดการสั่งซื้อเพิ่มขึ้น ในลักษณะเป็นตู้คอนเทรนเนอร์ในทุกประเทศในอนาคตอันใกล้นี้
สำหรับกำลังผลิตในปัจจุบัน ของชุดของใช้บนโต๊ะอาหาร อยู่ที่ 100,000ชิ้นต่อเดือน ปัจจุบัน เริ่มมีการขยายไลน์การผลิต ไปยังกลุ่มลูกค้าโรงแรม ซึ่งเริ่มมีโรงแรมระดับ 5 ดาวหลายแห่งเริ่มสั่งซื้อเข้ามา ในส่วนของโรงแรม มีการผลิตสินค้าอื่นนอกเหนือจากชุดของใช้บนโต๊ะอาหาร เช่น ไม้แขวนเสื้อ เป็นต้น ส่วนราคาขายแพงกว่า ผลิตภัณฑ์เมลามีนประมาณ 20% แต่ถ้าเป็นเมลามีนคุณภาพเกรดสูง ราคาใกล้เคียงกัน
“สาเหตุที่ผมเลือกทำธุรกิจ ตรงนี้ ส่วนหนึ่งด้วยความตระหนักในเรื่องของสิ่งแวดล้อมและภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นกับโลกใบนี้ และประกอบกับมองในเรื่องทิศทางการทำตลาดในสินค้ากลุ่มนี้ ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกปี เพราะทุกคนบนโลกใบนี้ หันมาให้สำคัญกับเรื่องของสิ่งแวดล้อมมากขึ้น รวมถึงการเลือกบริโภคสิ่งที่ปลอดภัยจากสารพิษต่างๆ เพราะผมเองก่อนจะมาทำตรงนี้ ได้ทำการตลาดกับสินค้าแบรนด์หนึ่ง ทำให้ได้มีโอกาสเดินทางไปหลายประเทศ และได้เรียนรู้พฤติกรรมการบริโภคของคนในหลายประเทศ ดังนั้น จึงมองเห็นโอกาสในผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้ ก่อนตัดสินใจลงมือทำดังกล่าว”
โทร. 08-9201-7177, www.GREENvolutions.com
