ไอศกรีมกะทิสด หวานหอมแบบโบราณ กินคู่กับ “มะพร้าวกะทิ” โดยใส่มาในภาชนะถ้วยเซรามิกรูปทรงเรือ พร้อมตกแต่งน่ารักด้วยร่ม และไม้พายขนาดจิ๋ว เหมาะซื้อหาเป็นของที่ระลึกในโอกาสมาเยือน อ.อัมพวา นับเป็นการสร้างจุดเด่น ช่วยให้ชื่อ “ไอติมลุงพร” เป็นที่รู้จักและจดจำของลูกค้า
อรรถพร ยั่งยืนรัตน์ หรือลุงพร วัย 69 ปี ชาว ต.สวนหลวง อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ยึดอาชีพขายไอศกรีม มายาวนานเกือบ 30 ปีแล้ว ตั้งแต่ใส่รถมอเตอร์ไซค์พ่วงวิ่งตระเวนขายไปเรื่อยๆ จนเมื่อ 6-7 ปีที่แล้ว ได้โอกาสไปออกร้านขายในงานวัดแห่งหนึ่ง ภายใน จ.สมุทรสงคราม ทำให้เกิดแนวคิด อยากตอบแทนลูกค้าที่มาอุดหนุน ด้วยการหาซื้อถ้วยกระเบื้องรูปทรงเรือที่ทั่วไปมักไว้ใส่น้ำจิ้ม มาดัดแปลงเป็นภาชนะใส่ไอศกรีม ลูกค้าสามารถนำกลับไปใช้ประโยชน์ หรือเก็บเป็นของที่ระลึกได้
จากความคิดง่ายๆ ดังกล่าว ได้ผลตอบรับดีอย่างไม่น่าเชื่อ ลูกค้าเข้าคิวซื้อแน่นจนตักไอศกรีมไม่ทัน ขายหมดเกลี้ยงภายในไม่กี่ชั่วโมง ที่สำคัญเป็นการสร้างจุดเด่นเฉพาะตัว ช่วยให้ลูกค้าจดจำชื่อ “ไอติมลุงพร” ได้เป็นอย่างดี
ชายวัย 69 ปี เสริมด้วยว่า ช่วงเวลาดังกล่าว สอดคล้องกับกระแสการท่องเที่ยวตลาดน้ำอัมพวากำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ คนเมืองเข้ามาท่องเที่ยวเพื่อสัมผัสบรรยากาศแห่งอดีตจำนวนมาก กลายเป็นความบังเอิญอันเหมาะเจาะของ “ไอติมลุงพร” ที่เป็นทั้ง ขนมโบราณ และเรือยังสื่อถึงเอกลักษณ์ประจำท้องถิ่นได้ลงตัว ช่วยให้ขายดีมากขึ้นไปอีก
“ส่วนใหญ่ไอศกรีมกะทิเจ้าอื่นๆ จะใส่กะลามะพร้าว แต่ลุงมาคิดว่า อยากจะหาภาชนะที่ลูกค้าเอาไปใช้ประโยชน์ได้ด้วย เลยลองไปหาถ้วยกระเบื้องตามท้องตลาด บังเอิญเจอถ้วยรูปเรือที่ปกติสำหรับใส่น้ำจิ้ม ก็เห็นว่ามันเหมาะดี เพราะเราเป็นคนสมุทรสงคราม ใช้เรือมาตั้งแต่เด็ก ปรากฏว่า เอามาใส่ไอศกรีมแล้วขายดีมาก จนต่อมา ลุงก็เปลี่ยนมาสั่งถ้วยจากโรงงานเซรามิก จ.ลำปาง โดยตรง ออกแบบขนาดและรูปทรงให้เหมาะใส่ไอศกรีมมากยิ่งขึ้น รวมถึง พิมพ์ชื่อร้านไว้ด้วย นอกจากนั้น หาซื้อร่ม กับไม้พายเล็กๆ มาตกแต่ง เพื่อให้ลูกค้าที่มาซื้อไอศกรีมเกิดความประทับใจ สามารถนำกลับไปใช้ หรือเป็นของที่ระลึกในการมาเที่ยวอัมพวาได้ด้วย” อรรถพร เล่า
นอกจากภาชนะโดดเด่นแล้ว ในส่วนสูตรไอศกรีมกะทิสดนั้น ลุงพร บอกว่า ทำสูตรเหมือนโบราณต้นตำรับ เลือกใช้วัตถุดิบมะพร้าวน้ำหอมชั้นหนึ่ง สั่งตรงจากสวน จ.สมุทรสงคราม ซึ่งเป็นเจ้าเก่าแก่ซื้อหากันมานับ 10 ปี ขณะที่รสไอศกรีม เน้นหวานน้อย กลิ่นหอมตามธรรมชาติ ไม่ใส่สารปรุงแต่งใดๆ ทั้งสิ้น กินคู่กับเครื่องเคียงต่างๆ ที่นอกเหนือจากข้าวเหนียว หรือลูกชิดแล้ว ยังพิเศษด้วยการใส่ “มะพร้าวกะทิ” เมื่อกินคู่กับไอศกรีมกะทิสด จะมีเนื้อกรุบกรอบ พร้อมกลิ่นหอมหวานชื่นใจ
ขณะนี้ “ไอติมลุงพร” ขายอยู่ในหลายจุด ได้แก่ ตลาดน้ำอัมพวา วัดบางแคใหม่ วัดภูมิรินทร์ และวัดบางแคกลาง ทั้งหมดใน จ.สมุทรสงคราม นอกจากนั้น ออกบูทตามงานแสดงสินค้าชุมชนต่างๆ สำหรับราคาขาย แบบใส่ถ้วยพลาสติกธรรมดา ใส่โคน หรือใส่ขนมปัง 15 บาท แต่ถ้าเป็นแบบใส่ถ้วยเรืออยู่ที่ 30 บาท นอกจากนั้น ยังมีภาชนะแบบอื่นๆ ให้เลือกตามความพอใจ เช่น ถ้วยกระเบื้องรูปทรงผลไม้ ถ้วยทรงกลมมีฝาปิด ราคาอยู่ที่ถ้วยละ 30-40 บาท
ลุงพร ปิดท้ายด้วยว่า นอกจากจะขายปลีกด้วยตัวเองแล้ว ยังเปิดช่องทางสร้างอาชีพให้แก่ผู้สนใจ โดยจะขายส่งไอศกรีมกะทิสด บรรจุถังพลาสติก น้ำหนัก 10 กิโลกรัม ในราคา 1,000 บาท (ไม่รวมค่าขนส่ง) โดยกำหนดเงื่อนไขต้องรับอุปกรณ์หลักด้วย ได้แก่ ถ้วยเรือกระเบื้อง ราคาใบละ 15-20 บาท (แล้วแต่ปริมาณการสั่ง) และมะพร้าวกะทิ กิโลกรัมละ 80 บาท โดยผู้ขายนำไปขายปลีก ราคาถ้วยละ 30-35 บาท (ขึ้นอยู่กับทำเล) กำไรเฉลี่ยประมาณ 10 บาทต่อถ้วย โดยไอศกรีม 1 ถัง ผู้ขายจะมีกำไรประมาณ 2,000 บาท สำหรับผู้สนใจทำอาชีพนี้ ควรจะต้องมีเงินลงทุนเบื้องต้นประมาณ 30,000 บาท โดย 20,000 บาทสำหรับซื้อตู้แช่ และอีก 10,000 บาท เป็นทุนหมุนเวียนซื้อไอศกรีมมาขาย
@@@@@@@@@@@@@@@@@
โทร.08-1195-2494